มารีฟรานซ์ฯ เผยปี 51 ชู 2 กลยุทธ์ “เน้นสร้างการตลาดใหม่-สร้างฐานลูกค้าทุกกลุ่มเป้าหมาย” ตั้งเป้าครองมาร์เกตแชร์ 60% ลุยเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วน มารี ฟรานซ์ บอดี้ไลน์ เปิดเผยว่า ปีนี้จะยังคงเดินหน้าสร้างตลาดใหม่ และสร้างฐานตลาดทุกกลุ่มเป้าหมายต่อเนื่องซึ่งถือเป็นบทบาทสำคัญของผู้นำตลาด เนื่องจากที่ผ่านมาจะสังเกตว่าคู่แข่งขันค่ายอื่นๆหันมานำเสนอกลยุทธ์และจัดกิจกรรมการตลาดที่มารี-ฟรานซ์ฯนำเสนอมาก่อนแทบทั้งสิ้น
“ที่ผ่านมาเราไม่ได้วางน้ำหนักไปที่แย่งมาร์เกตแชร์ลูกค้าจากคู่แข่งขัน แต่การที่เราสามารถครองมาร์เกตแชร์อันดับ 1 ได้ เนื่องจากเรายังค้นคว้านวัตกรรมใหม่ๆที่เหมาะกับปัญหาและการสร้างตลาดใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา” นางสาวศศิวีณ์ กล่าว
กิจกรรมการตลาดที่ผ่านมา มารีฟรานซ์ฯ เป็นผู้บุกเบิกและเป็นรายแรก ในการใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการใช้ พรีเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการทุกรายก็หันมาใช้จนเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ มารีฟรานซ์ฯเป็นเจ้าเดียวที่ทำตลาดด้วยการพิสูจน์อ้วนจริง-ผอมจริง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญให้ตลาดมองเห็นความสำคัญและนึกถึงมารีฟรานซ์ฯมากกว่าคู่แข่งขันรายอื่น เพราะเข้าใจในความแตกต่างของตลาด และอื่นๆจนสามารถทำให้ในปัจจุบันมารีฟรานซ์ฯสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 58%
กิจกรรมที่ตอกย้ำว่ามารีฟรานซ์ฯเป็นผู้บุกเบิกกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คือการใช้อาภาพร นครสรรค์ และพาเมล่า บาวเด้นท์ 2 นักร้องสาวลูกทุ่งมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ ถือเป็นการแสดงให้เห็นชัดแล้วว่ามารีฟรานซ์ฯ ได้เดินหน้าเจาะตลาดกลุ่มใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด ที่มองว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังใช้จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก ที่ต้องการเข้าถึงการใช้บริการของธุรกิจลดน้ำหนักและสัดส่วนโดยยึดหลักและผลลัพธ์จากพรีเซ็นเตอร์ที่ตนชื่นชอบ
นอกจากนี้มารีฟรานซ์ฯมุ่งมั่นและยึดถือมาโดยตลอดคือความเป็น The Best Single Brand ด้วยการใช้แบรนด์มารีฟรานซ์ฯเพียงแบรนด์เดียวในตลาด เนื่องจากมองว่าการขยายแบรนด์ออกไปจะสร้างความสับสนให้แก่ลูกค้า ขณะเดียวกันบริษัทฯมีความมั่นใจและเชี่ยวชาญในแบรนด์มารีฟรานซ์ฯอยู่แล้ว และมั่นใจว่าลูกค้ายังจงรักภักดีต่อแบรนด์ และราคาโปรแกรมทรีตเมนท์ของมารีฟรานซ์ฯ ก็มีให้ตอบรับสำหรับลูกค้าทุกระดับ เนื่องจากเป็นบริษัทฯที่มีกว่า 200 สาขาทั่วโลก และเปิดมากว่า 30 ปี ต้นทุนจึงถึงจุดคุ้มทุนแล้ว
“ในต่างประเทศจะสังเกตว่าผู้ให้บริการจะเป็น The Best Single Brand จะไม่ขยายแบรนด์อื่นๆออกมาอีก เนื่องจากไม่ต้องการให้ลูกค้าสับสนต่อคุณภาพและราคา Single Brand จะทำให้ลูกค้าทุกกลุ่มมีความเชื่อมั่น พวกเขาจะได้รับบริการที่ดีที่สุดบนมาตรฐานของแบรนด์ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มใด” นางสาวศศิวีณ์ กล่าว
ดังนั้นในสิ้นปีนี้มั่นใจว่าจะสามารถครองมาร์เกตแชร์ในตลาดเพิ่มเป็น 60% และมียอดขายเพิ่มขึ้น 30% ขณะเดียวกันก็จะทำการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 17 สาขา และจากการทำตลาดกลุ่มใหม่ โดยจะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา แบ่งเป็น กทม. 3 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา โดยสาขาแรกที่จะเปิดในต้นปีนี้คือสาขาปิ่นเกล้า ทาวเวอร์
นางสาวศศิวีณ์ ซื่อตรง ผู้จัดการทั่วไป สถาบันลดน้ำหนักและสัดส่วน มารี ฟรานซ์ บอดี้ไลน์ เปิดเผยว่า ปีนี้จะยังคงเดินหน้าสร้างตลาดใหม่ และสร้างฐานตลาดทุกกลุ่มเป้าหมายต่อเนื่องซึ่งถือเป็นบทบาทสำคัญของผู้นำตลาด เนื่องจากที่ผ่านมาจะสังเกตว่าคู่แข่งขันค่ายอื่นๆหันมานำเสนอกลยุทธ์และจัดกิจกรรมการตลาดที่มารี-ฟรานซ์ฯนำเสนอมาก่อนแทบทั้งสิ้น
“ที่ผ่านมาเราไม่ได้วางน้ำหนักไปที่แย่งมาร์เกตแชร์ลูกค้าจากคู่แข่งขัน แต่การที่เราสามารถครองมาร์เกตแชร์อันดับ 1 ได้ เนื่องจากเรายังค้นคว้านวัตกรรมใหม่ๆที่เหมาะกับปัญหาและการสร้างตลาดใหม่ๆอยู่ตลอดเวลา” นางสาวศศิวีณ์ กล่าว
กิจกรรมการตลาดที่ผ่านมา มารีฟรานซ์ฯ เป็นผู้บุกเบิกและเป็นรายแรก ในการใช้กลยุทธ์การตลาดเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ด้วยการใช้ พรีเซ็นเตอร์ ซึ่งปัจจุบันผู้ประกอบการทุกรายก็หันมาใช้จนเป็นเรื่องปกติ นอกจากนี้ มารีฟรานซ์ฯเป็นเจ้าเดียวที่ทำตลาดด้วยการพิสูจน์อ้วนจริง-ผอมจริง ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์สำคัญให้ตลาดมองเห็นความสำคัญและนึกถึงมารีฟรานซ์ฯมากกว่าคู่แข่งขันรายอื่น เพราะเข้าใจในความแตกต่างของตลาด และอื่นๆจนสามารถทำให้ในปัจจุบันมารีฟรานซ์ฯสามารถรักษาส่วนแบ่งการตลาดไว้ที่ 58%
กิจกรรมที่ตอกย้ำว่ามารีฟรานซ์ฯเป็นผู้บุกเบิกกลุ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุด คือการใช้อาภาพร นครสรรค์ และพาเมล่า บาวเด้นท์ 2 นักร้องสาวลูกทุ่งมาเป็นพรีเซ็นเตอร์คู่ใหม่ ถือเป็นการแสดงให้เห็นชัดแล้วว่ามารีฟรานซ์ฯ ได้เดินหน้าเจาะตลาดกลุ่มใหม่ๆเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัด ที่มองว่ายังมีกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังใช้จ่ายอีกเป็นจำนวนมาก ที่ต้องการเข้าถึงการใช้บริการของธุรกิจลดน้ำหนักและสัดส่วนโดยยึดหลักและผลลัพธ์จากพรีเซ็นเตอร์ที่ตนชื่นชอบ
นอกจากนี้มารีฟรานซ์ฯมุ่งมั่นและยึดถือมาโดยตลอดคือความเป็น The Best Single Brand ด้วยการใช้แบรนด์มารีฟรานซ์ฯเพียงแบรนด์เดียวในตลาด เนื่องจากมองว่าการขยายแบรนด์ออกไปจะสร้างความสับสนให้แก่ลูกค้า ขณะเดียวกันบริษัทฯมีความมั่นใจและเชี่ยวชาญในแบรนด์มารีฟรานซ์ฯอยู่แล้ว และมั่นใจว่าลูกค้ายังจงรักภักดีต่อแบรนด์ และราคาโปรแกรมทรีตเมนท์ของมารีฟรานซ์ฯ ก็มีให้ตอบรับสำหรับลูกค้าทุกระดับ เนื่องจากเป็นบริษัทฯที่มีกว่า 200 สาขาทั่วโลก และเปิดมากว่า 30 ปี ต้นทุนจึงถึงจุดคุ้มทุนแล้ว
“ในต่างประเทศจะสังเกตว่าผู้ให้บริการจะเป็น The Best Single Brand จะไม่ขยายแบรนด์อื่นๆออกมาอีก เนื่องจากไม่ต้องการให้ลูกค้าสับสนต่อคุณภาพและราคา Single Brand จะทำให้ลูกค้าทุกกลุ่มมีความเชื่อมั่น พวกเขาจะได้รับบริการที่ดีที่สุดบนมาตรฐานของแบรนด์ไม่ว่าจะอยู่ในกลุ่มใด” นางสาวศศิวีณ์ กล่าว
ดังนั้นในสิ้นปีนี้มั่นใจว่าจะสามารถครองมาร์เกตแชร์ในตลาดเพิ่มเป็น 60% และมียอดขายเพิ่มขึ้น 30% ขณะเดียวกันก็จะทำการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 17 สาขา และจากการทำตลาดกลุ่มใหม่ โดยจะเปิดเพิ่มอีก 5 สาขา แบ่งเป็น กทม. 3 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา โดยสาขาแรกที่จะเปิดในต้นปีนี้คือสาขาปิ่นเกล้า ทาวเวอร์