ผู้จัดการรายวัน – หัวม้าลายตั้งเป้าโต 10% รายได้ทะลุ 1,320 ล้านบาทปีนี้ สบช่อง สคบ. ห้ามใช้หม้อที่สารตะกั่วบัดกรีตัวถัง ดันสินค้าใหม่หม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสแท้รุ่นพิเศษเข้าตลาด
นายเอกชัย ยังวาณิช รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องครัวสเตนเลสตราหัวม้าลาย เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งสิ้น 1,320 ล้านบาทซึ่งโตกว่าปีที่แล้วประมาณ 10% หรือ 120 ล้านบาท จากรายได้ปีที่แล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้เป็นรายได้จากการส่งออกประมาณ 30% และอีก 70% เป็นรายได้จากภายในประเทศ ซึ่งประเภทสินค้ายอดนิยมที่ทำรายได้ให้แก่บริษัทได้แก่ ช้อน, หม้อ, ปิ่นโต ฯลฯ
ส่วนในปีนี้ได้วางแผนออกผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้นประมาณ 10 กว่ารายการ และเน้นไปทางด้าน Trendy และ Safety Product เพื่อสร้างความทันสมัยให้กับตัวสินค้ามากขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยอีกด้วย ส่วน Safety Product จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นในเรืองความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอาทิ หม้อก๋วยเตี๊ยวและ ตู้กดน้ำเย็นไร้สารตะกั่ว ที่ใช้ตามโรงเรียนทั่วไป โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเครื่องครัวหัวม้าลายจะขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายได้แก่ ซีบ้าช้อป,Modern trend,ร้านจำหน่ายทั่วไป
ล่าสุดตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา ในการห้ามใช้ ห้ามจำหน่าย ห้ามขาย ห้ามซ่อมแซม เครื่องทำน้ำเย็นและน้ำอุ่นที่ใช้สารตะกั่วบัดกรีตัวถังหรือท่อส่งน้ำในเครื่องดังกล่าว ในส่วนของบริษัทฯ ได้มองว่า หากมีประกาศคำสั่งนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ ก็คงจะส่งผลกระทบต่อร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศเป็นอย่างมาก ที่จะต้องดำเนินการเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยวใหม่ให้ได้มาตรฐาน ดังนั้น หากจะต้องมีการเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยวให้ถูกสุขอนามัย ร้านก๋วยเตี๋ยวก็จะต้องเปลี่ยนไปใช้หม้อที่ไม่มีการใช้สารตะกั่วเป็นตัวเชื่อม
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯคือ หม้อก๋วยเตี๋ยวรุ่นพิเศษ จะสามารถจำหน่ายหม้อก๋วยเตี๋ยวปลอดสารตะกั๋วได้ประมาณ 100,000 ใบ โดยอาศัยไลน์การผลิตเดิมอยู่และกำลังลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 4-5 ล้านบาทเพื่อให้สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการผู้บริโภคซึ่งปัจจุบันผลิตได้ประมาณ 100 ใบต่อวัน
“ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการผลิตและจำหน่ายหม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสอยู่แล้ว แต่เป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มภัตตาคารและร้านอาหารจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางบริษัทฯ ทราบว่าราคาขายหม้อก๋วยเตี๋ยวในตลาด สำหรับหม้อสเตนเลสขนาด 40 ซม. จะจำหน่ายอยู่ที่ราคาใบละ ประมาณ 4,500 – 6,000 บาท ซึ่งถ้าหากร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศรวมถึงรถเข็นด้วย จะต้องเปลี่ยนมาใช้หม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสในระดับราคาดังกล่าว ก็อาจจะไม่สะดวก และอาจส่งผลให้มีการปรับราคาก๋วยเตี๋ยวตามต้นทุนที่ต้องสูงขึ้นได้ ซึ่งผลกระทบสุดท้ายก็จะตกมาอยู่ที่ผู้บริโภคอีกเช่นเดิม”
สำหรับกรณีนี้ บริษัทฯ จึงได้ผลิตหม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสในรุ่นพิเศษที่เหมาะสมกับการใช้งานของร้านก๋วยเตี๋ยวและตอบโจทย์ในเรื่องความสะอาดและถูกสุขอนามัยด้วย โดยจะผลิตหม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสใน 2 รูปแบบ คือ แบบไม่มีช่องคั่นกลาง และแบบแบ่ง 2 ช่อง โดยในช่วงแรกนี้ จะเน้นการผลิตหม้อก๋วยเตี๋ยวแบบแบ่ง 2 ช่อง โดยได้วางจำหน่ายในราคาที่ย่อมเยาเหมาะกับร้านก๋วยเตี๋ยว โดยได้กำหนดราคาไว้ใบละประมาณ 2,500 บาทสำหรับแบบไม่มีช่องคั่นกลาง และต่ำกว่า 3,000 บาท สำหรับแบบ 2 ช่อง โดยในขณะนี้ได้เริ่มวางจำหน่ายหม้อก๋วยเตี๋ยวแบบแบ่ง 2 ช่องแล้ว ” นายเอกชัยกล่าวอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม
นายเอกชัย ยังวาณิช รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เสถียรสเตนเลสสตีล จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องครัวสเตนเลสตราหัวม้าลาย เปิดเผยว่า ปีนี้ตั้งเป้ารายได้รวมทั้งสิ้น 1,320 ล้านบาทซึ่งโตกว่าปีที่แล้วประมาณ 10% หรือ 120 ล้านบาท จากรายได้ปีที่แล้วประมาณ 1,200 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนรายได้เป็นรายได้จากการส่งออกประมาณ 30% และอีก 70% เป็นรายได้จากภายในประเทศ ซึ่งประเภทสินค้ายอดนิยมที่ทำรายได้ให้แก่บริษัทได้แก่ ช้อน, หม้อ, ปิ่นโต ฯลฯ
ส่วนในปีนี้ได้วางแผนออกผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้นประมาณ 10 กว่ารายการ และเน้นไปทางด้าน Trendy และ Safety Product เพื่อสร้างความทันสมัยให้กับตัวสินค้ามากขึ้น สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่อายุน้อยอีกด้วย ส่วน Safety Product จะเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นในเรืองความปลอดภัยต่อผู้บริโภคอาทิ หม้อก๋วยเตี๊ยวและ ตู้กดน้ำเย็นไร้สารตะกั่ว ที่ใช้ตามโรงเรียนทั่วไป โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเครื่องครัวหัวม้าลายจะขายผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายได้แก่ ซีบ้าช้อป,Modern trend,ร้านจำหน่ายทั่วไป
ล่าสุดตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีมติเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2550 ที่ผ่านมา ในการห้ามใช้ ห้ามจำหน่าย ห้ามขาย ห้ามซ่อมแซม เครื่องทำน้ำเย็นและน้ำอุ่นที่ใช้สารตะกั่วบัดกรีตัวถังหรือท่อส่งน้ำในเครื่องดังกล่าว ในส่วนของบริษัทฯ ได้มองว่า หากมีประกาศคำสั่งนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ ก็คงจะส่งผลกระทบต่อร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศเป็นอย่างมาก ที่จะต้องดำเนินการเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยวใหม่ให้ได้มาตรฐาน ดังนั้น หากจะต้องมีการเปลี่ยนหม้อก๋วยเตี๋ยวให้ถูกสุขอนามัย ร้านก๋วยเตี๋ยวก็จะต้องเปลี่ยนไปใช้หม้อที่ไม่มีการใช้สารตะกั่วเป็นตัวเชื่อม
ทั้งนี้คาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯคือ หม้อก๋วยเตี๋ยวรุ่นพิเศษ จะสามารถจำหน่ายหม้อก๋วยเตี๋ยวปลอดสารตะกั๋วได้ประมาณ 100,000 ใบ โดยอาศัยไลน์การผลิตเดิมอยู่และกำลังลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 4-5 ล้านบาทเพื่อให้สามารถผลิตได้เพียงพอต่อความต้องการผู้บริโภคซึ่งปัจจุบันผลิตได้ประมาณ 100 ใบต่อวัน
“ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการผลิตและจำหน่ายหม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสอยู่แล้ว แต่เป็นที่นิยมใช้ในกลุ่มภัตตาคารและร้านอาหารจำนวนหนึ่ง ซึ่งทางบริษัทฯ ทราบว่าราคาขายหม้อก๋วยเตี๋ยวในตลาด สำหรับหม้อสเตนเลสขนาด 40 ซม. จะจำหน่ายอยู่ที่ราคาใบละ ประมาณ 4,500 – 6,000 บาท ซึ่งถ้าหากร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วประเทศรวมถึงรถเข็นด้วย จะต้องเปลี่ยนมาใช้หม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสในระดับราคาดังกล่าว ก็อาจจะไม่สะดวก และอาจส่งผลให้มีการปรับราคาก๋วยเตี๋ยวตามต้นทุนที่ต้องสูงขึ้นได้ ซึ่งผลกระทบสุดท้ายก็จะตกมาอยู่ที่ผู้บริโภคอีกเช่นเดิม”
สำหรับกรณีนี้ บริษัทฯ จึงได้ผลิตหม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสในรุ่นพิเศษที่เหมาะสมกับการใช้งานของร้านก๋วยเตี๋ยวและตอบโจทย์ในเรื่องความสะอาดและถูกสุขอนามัยด้วย โดยจะผลิตหม้อก๋วยเตี๋ยวสเตนเลสใน 2 รูปแบบ คือ แบบไม่มีช่องคั่นกลาง และแบบแบ่ง 2 ช่อง โดยในช่วงแรกนี้ จะเน้นการผลิตหม้อก๋วยเตี๋ยวแบบแบ่ง 2 ช่อง โดยได้วางจำหน่ายในราคาที่ย่อมเยาเหมาะกับร้านก๋วยเตี๋ยว โดยได้กำหนดราคาไว้ใบละประมาณ 2,500 บาทสำหรับแบบไม่มีช่องคั่นกลาง และต่ำกว่า 3,000 บาท สำหรับแบบ 2 ช่อง โดยในขณะนี้ได้เริ่มวางจำหน่ายหม้อก๋วยเตี๋ยวแบบแบ่ง 2 ช่องแล้ว ” นายเอกชัยกล่าวอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติม