ดูไปแล้วคงไม่มีอะไรที่จะยับยั้งไม่ให้พรรคพลังประชาชนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลเสียแล้ว
จะมีเหลือหวังริบหรี่ ๆ อยู่หนึ่งเดียวก็คือ....
วันที่ 18 มกราคม 2551
เป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งท่านนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีที่เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ และคณะ ฟ้อง กกต. ให้การเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2550 เป็นโมฆะ เนื่องจากกระทำผิดรัฐธรรมนูญ
เป็นคดีที่แต่เดิมฟ้องศาลปกครองสูงสุดก่อน แต่ศาลปกครองสูงสุดท่านมีคำสั่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2550 ไม่รับไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าอยู่ในอำนาจของศาลฎีกา
เลขาธิการพรรคความหวังใหม่จึงนำมาฟ้องศาลฎีกาอีกครั้ง
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2551 ศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรก และเมื่อเห็นว่าข้อเท็จจริงเป็นที่ยอมรับกันทั้ง 2 ฝ่ายว่ามีการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าจริง จึงเหลือข้อพิจารณาอยู่เพียงว่า กกต. มีอำนาจกระทำเช่นนั้นหรือเปล่า และกระทำถูกต้องตามเงื่อนไขหรือเปล่า ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่ศาลเห็นได้เอง
จึงสั่งตัดพยานทั้งหมด แล้วนัดฟังคำวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2551 ที่จะถึงนี้ !
คดีนี้มีผลมากกว่าใบแดงของ กกต. แน่นอน เพราะอาจล้มกระดานให้ต้องมีการนับคะแนนใหม่ หรือเลือกตั้งใหม่ได้ นี่พูดถึงในทางทฤษฎีนะครับ
บังเอิญที่ว่าวันนัดฟังคำวินิจฉัยนอกจากจะค่อนข้างเร็วแล้ว ยังเป็นวันก่อนวันที่ 21 – 22 มกราคม 2551 ซึ่งน่าจะเป็นวันเปิดสมัยประชุมรัฐสภาอยู่หลายวัน
หลายคนจึงมีความหวังริบหรี่ ๆ อยู่บ้าง !
ก็...ไม่เป็นไร แต่ผมขอเตือนว่าเพื่อป้องกันความผิดหวัง อย่าหวังมากนะครับ ขอให้เป็นหน้าที่ของธรรมหน้าที่ของกฎแห่งกรรมไปอย่างที่กล่าวไว้เมื่อวานนี้ก็แล้วกัน ถ้ามันจะถึงคราวเคราะห์ของบ้านเมือง ก็ถือเป็นกรรมร่วมกัน ที่ต้องมาเขียนเรื่องนี้โดยส่วนตัวก็ไม่ได้หวังอะไรไว้มากมาย และไม่ต้องการจุดประกายความหวังให้ลุกขึ้นอีกครั้งในใจของผู้ที่เซ็งการเมือง เป็นการทำหน้าที่เพียงแค่รายงานสถานการณ์ให้รอบด้าน เพราะเรื่องนี้ดูเหมือนจะมีพูดกันน้อยมากในหน้าหนังสือพิมพ์
นอกจากจะเป็นคดีที่เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ฟ้องแล้ว คุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยื่นฟ้องในประเด็นเดียวกันนี้ด้วย พ่วงกับประเด็นอื่น ๆ
ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคขอร้องให้ถอนฟ้องนั่นแหละครับ
คดีของคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ศาลฎีกาท่านนัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันนี้ – วันอังคารที่ 15 มกราคม 2551 – ยังไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร
การเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้มีขึ้นเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ก็จริง
แต่ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2550 เอิกเกริกเกริกไกรกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ถือบัตรประชาชนขึ้นไปบนที่ทำการเขตที่เป็นเขตเลือกตั้งของคุณ – ไม่กี่นาทีก็ใช้สิทธิได้แล้ว !
กกต. และรัฐบาล ก็ดูจะภูมิอกภูมิใจที่มีคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2550 มากเป็นประวัติการณ์
ตามปกติแล้ว หลักการตามรัฐธรรมนูญก็คือการเลือกตั้งทั่วไปต้องกระทำพร้อมกันทั่วประเทศในวันเดียวกัน
จะมีการเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับบุคคลบางประเภทได้ ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องไปปฏิบัติราชการนอกเขตเลือกตั้งในวันเลือกตั้งทั่วไป หรือผู้ที่ติดภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ชนิดที่ต้องมีหลักฐานแสดง เป็นต้นว่าถ้าอ้างว่าต้องเดินทางไปต่างประเทศในวันเลือกตั้งทั่วไป ก็ต้องแสดงหลักฐานเป็นตั๋วเครื่องบิน หรือหนังสือเชิญไปประชุม
ไม่ใช่เพียงเพราะอยากไปเที่ยวในวันเลือกตั้งทั่วไป – ก็เดินขึ้นไปใช้สิทธิล่วงหน้าได้ง่าย ๆ !
ที่จริง เรื่องมันยุ่งก็เพราะรัฐบาลนี้ดันทะลึ่งไปกำหนดให้วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2550 เป็นวันหยุดราช การ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ร้อยวันพันปีตั้งแต่ผมจำความได้การเลือกตั้งทั่วไปก็กำหนดในวันอาทิตย์ทุกครั้ง และไม่เคยมีครั้งใดที่จะต้องหยุดเพิ่มเติมในวันจันทร์เลย
ตามประสาคนไทย เมื่อมีวันหยุดยาว 3 วัน วันเสาร์ที่ 22 – ถึงวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2550 ก็ต้องไปเที่ยวกันละครับ
เพราะการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2550 ทำได้ง่ายมาก
ไอ้ความง่ายนี่แหละเป็นปัญหา !
เพราะมีหนังสือพิมพ์รายงานว่าในหลายเขตเลือกตั้ง ประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า แม้จะต้องกรอกแบบฟอร์มบอกเหตุจำเป็นที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งทั่วไปไม่ได้ แต่ก็เป็นการกรอกไปตามแบบพิธีเท่านั้น ไม่ได้มีการพิจารณาจริงจัง บางเขตแค่กรอกแบบฟอร์มยื่นไว้ เจ้าหน้าที่ก็ให้ไปใช้สิทธิได้เลย โดยแบบ ฟอร์มเป็นตั้ง ๆ ปึก ๆ นั้นส่งไปให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอนุญาตลงนามพร้อมกัน
ก็เท่ากับลงนามโดยไม่ได้พิจารณา และอาจเป็นการลงนามย้อนหลัง...หลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิแล้ว
การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ 1 วันในทางปฏิบัติก็เลยเสมือนเป็น 3 วันไปโดยปริยาย !
จริง ๆ แล้ว แม้การเลือกตั้งทั่วไปจะเป็น “หน้าที่” ไม่ใช่ “สิทธิ” มาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 จนต้องอำนวยความสะดวกเรื่องเลือกตั้งล่วงหน้า แต่ก็ไม่ถึงกับคอขาดบาดตายอะไรนัก ไม่ไปลงคะแนนก็แค่เสียสิทธิบางประการ ไม่ได้ถูกลงโทษปรับหรือจำคุก
มิหนำซ้ำหลังวันเลือกตั้งทั่วไปที่คุณอาจไม่ได้ไปใช้สิทธิเพราะเหตุจำเป็นอันมิอาจจะคาดหมายได้ล่วงหน้า ก็ยังมีเวลา 7 วันให้คุณไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่ได้ไปใช้สิทธิในวันนั้น
อันจะทำให้คุณไม่เสียสิทธิบางประการที่เป็นบทลงโทษเบา ๆ ต่อการไม่ไปทำหน้าที่ลงคะแนน
เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาโหมโฆษณาให้การเลือกตั้งล่วงหน้ามันง่ายดายนัก จนเหมือนจะเป็นการเลือกตั้ง 3 วันเช่นที่ผ่านมา
ในหมู่นักกฎหมายด้วยกัน คดีนี้มีเหตุอันควรรับฟังได้
จำได้ไหมครับพี่น้อง การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะเพราะอะไร นอกจากเรื่องนอมินีแล้ว ก็เรื่องจัดคูหาเลือกตั้งโดยหันด้านที่ลงคะแนนออกข้างนอก
แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็อยู่ที่ศาลฎีกานั่นแหละ !
เพราะจะบอกว่าเป็นเรื่องของตัวบทกฎหมายสถานเดียว ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองเสียเลยก็ไม่ได้
เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้เปิดสภาในไม่ช้าไม่นานหลังเลือกตั้งทั่วไปก็ชัดเจนอยู่
และถ้าการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ถูก ศาลท่านจะวินิจฉัยอย่างไร ถึงขนาดนับคะแนนใหม่ หรือเลือกตั้งทั่วไปใหม่ได้เลยหรือ ดูจะเป็นเรื่องใหญ่เอาการอยู่
ติดตามครับ แต่อย่าตั้งความหวังไว้สูง
เชื่อมั่นในธรรม เชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม เป็นดีที่สุด ณ นาทีนี้
จะมีเหลือหวังริบหรี่ ๆ อยู่หนึ่งเดียวก็คือ....
วันที่ 18 มกราคม 2551
เป็นวันที่ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งท่านนัดฟังคำวินิจฉัยในคดีที่เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ และคณะ ฟ้อง กกต. ให้การเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2550 เป็นโมฆะ เนื่องจากกระทำผิดรัฐธรรมนูญ
เป็นคดีที่แต่เดิมฟ้องศาลปกครองสูงสุดก่อน แต่ศาลปกครองสูงสุดท่านมีคำสั่งเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2550 ไม่รับไว้พิจารณา เนื่องจากเห็นว่าอยู่ในอำนาจของศาลฎีกา
เลขาธิการพรรคความหวังใหม่จึงนำมาฟ้องศาลฎีกาอีกครั้ง
เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มกราคม 2551 ศาลฎีกานัดพิจารณาคดีครั้งแรก และเมื่อเห็นว่าข้อเท็จจริงเป็นที่ยอมรับกันทั้ง 2 ฝ่ายว่ามีการจัดเลือกตั้งล่วงหน้าจริง จึงเหลือข้อพิจารณาอยู่เพียงว่า กกต. มีอำนาจกระทำเช่นนั้นหรือเปล่า และกระทำถูกต้องตามเงื่อนไขหรือเปล่า ซึ่งเป็นข้อกฎหมายที่ศาลเห็นได้เอง
จึงสั่งตัดพยานทั้งหมด แล้วนัดฟังคำวินิจฉัยในวันศุกร์ที่ 18 มกราคม 2551 ที่จะถึงนี้ !
คดีนี้มีผลมากกว่าใบแดงของ กกต. แน่นอน เพราะอาจล้มกระดานให้ต้องมีการนับคะแนนใหม่ หรือเลือกตั้งใหม่ได้ นี่พูดถึงในทางทฤษฎีนะครับ
บังเอิญที่ว่าวันนัดฟังคำวินิจฉัยนอกจากจะค่อนข้างเร็วแล้ว ยังเป็นวันก่อนวันที่ 21 – 22 มกราคม 2551 ซึ่งน่าจะเป็นวันเปิดสมัยประชุมรัฐสภาอยู่หลายวัน
หลายคนจึงมีความหวังริบหรี่ ๆ อยู่บ้าง !
ก็...ไม่เป็นไร แต่ผมขอเตือนว่าเพื่อป้องกันความผิดหวัง อย่าหวังมากนะครับ ขอให้เป็นหน้าที่ของธรรมหน้าที่ของกฎแห่งกรรมไปอย่างที่กล่าวไว้เมื่อวานนี้ก็แล้วกัน ถ้ามันจะถึงคราวเคราะห์ของบ้านเมือง ก็ถือเป็นกรรมร่วมกัน ที่ต้องมาเขียนเรื่องนี้โดยส่วนตัวก็ไม่ได้หวังอะไรไว้มากมาย และไม่ต้องการจุดประกายความหวังให้ลุกขึ้นอีกครั้งในใจของผู้ที่เซ็งการเมือง เป็นการทำหน้าที่เพียงแค่รายงานสถานการณ์ให้รอบด้าน เพราะเรื่องนี้ดูเหมือนจะมีพูดกันน้อยมากในหน้าหนังสือพิมพ์
นอกจากจะเป็นคดีที่เลขาธิการพรรคความหวังใหม่ฟ้องแล้ว คุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ผู้สมัครส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ก็ยื่นฟ้องในประเด็นเดียวกันนี้ด้วย พ่วงกับประเด็นอื่น ๆ
ที่คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหัวหน้าพรรคขอร้องให้ถอนฟ้องนั่นแหละครับ
คดีของคุณไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ ศาลฎีกาท่านนัดพิจารณาคดีครั้งแรกในวันนี้ – วันอังคารที่ 15 มกราคม 2551 – ยังไม่รู้ว่าผลจะเป็นอย่างไร
การเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้มีขึ้นเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ก็จริง
แต่ต้องยอมรับว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2550 เอิกเกริกเกริกไกรกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ถือบัตรประชาชนขึ้นไปบนที่ทำการเขตที่เป็นเขตเลือกตั้งของคุณ – ไม่กี่นาทีก็ใช้สิทธิได้แล้ว !
กกต. และรัฐบาล ก็ดูจะภูมิอกภูมิใจที่มีคนมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าในวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2550 มากเป็นประวัติการณ์
ตามปกติแล้ว หลักการตามรัฐธรรมนูญก็คือการเลือกตั้งทั่วไปต้องกระทำพร้อมกันทั่วประเทศในวันเดียวกัน
จะมีการเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับบุคคลบางประเภทได้ ก็เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ที่ต้องไปปฏิบัติราชการนอกเขตเลือกตั้งในวันเลือกตั้งทั่วไป หรือผู้ที่ติดภารกิจที่หลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ชนิดที่ต้องมีหลักฐานแสดง เป็นต้นว่าถ้าอ้างว่าต้องเดินทางไปต่างประเทศในวันเลือกตั้งทั่วไป ก็ต้องแสดงหลักฐานเป็นตั๋วเครื่องบิน หรือหนังสือเชิญไปประชุม
ไม่ใช่เพียงเพราะอยากไปเที่ยวในวันเลือกตั้งทั่วไป – ก็เดินขึ้นไปใช้สิทธิล่วงหน้าได้ง่าย ๆ !
ที่จริง เรื่องมันยุ่งก็เพราะรัฐบาลนี้ดันทะลึ่งไปกำหนดให้วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2550 เป็นวันหยุดราช การ ทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ร้อยวันพันปีตั้งแต่ผมจำความได้การเลือกตั้งทั่วไปก็กำหนดในวันอาทิตย์ทุกครั้ง และไม่เคยมีครั้งใดที่จะต้องหยุดเพิ่มเติมในวันจันทร์เลย
ตามประสาคนไทย เมื่อมีวันหยุดยาว 3 วัน วันเสาร์ที่ 22 – ถึงวันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม 2550 ก็ต้องไปเที่ยวกันละครับ
เพราะการเลือกตั้งล่วงหน้าวันที่ 15 – 16 ธันวาคม 2550 ทำได้ง่ายมาก
ไอ้ความง่ายนี่แหละเป็นปัญหา !
เพราะมีหนังสือพิมพ์รายงานว่าในหลายเขตเลือกตั้ง ประชาชนที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า แม้จะต้องกรอกแบบฟอร์มบอกเหตุจำเป็นที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งในวันเลือกตั้งทั่วไปไม่ได้ แต่ก็เป็นการกรอกไปตามแบบพิธีเท่านั้น ไม่ได้มีการพิจารณาจริงจัง บางเขตแค่กรอกแบบฟอร์มยื่นไว้ เจ้าหน้าที่ก็ให้ไปใช้สิทธิได้เลย โดยแบบ ฟอร์มเป็นตั้ง ๆ ปึก ๆ นั้นส่งไปให้เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจอนุญาตลงนามพร้อมกัน
ก็เท่ากับลงนามโดยไม่ได้พิจารณา และอาจเป็นการลงนามย้อนหลัง...หลังจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปใช้สิทธิแล้ว
การเลือกตั้งที่กำหนดไว้ 1 วันในทางปฏิบัติก็เลยเสมือนเป็น 3 วันไปโดยปริยาย !
จริง ๆ แล้ว แม้การเลือกตั้งทั่วไปจะเป็น “หน้าที่” ไม่ใช่ “สิทธิ” มาตั้งแต่รัฐธรรมนูญ 2540 จนต้องอำนวยความสะดวกเรื่องเลือกตั้งล่วงหน้า แต่ก็ไม่ถึงกับคอขาดบาดตายอะไรนัก ไม่ไปลงคะแนนก็แค่เสียสิทธิบางประการ ไม่ได้ถูกลงโทษปรับหรือจำคุก
มิหนำซ้ำหลังวันเลือกตั้งทั่วไปที่คุณอาจไม่ได้ไปใช้สิทธิเพราะเหตุจำเป็นอันมิอาจจะคาดหมายได้ล่วงหน้า ก็ยังมีเวลา 7 วันให้คุณไปแจ้งเหตุที่ทำให้ไม่ได้ไปใช้สิทธิในวันนั้น
อันจะทำให้คุณไม่เสียสิทธิบางประการที่เป็นบทลงโทษเบา ๆ ต่อการไม่ไปทำหน้าที่ลงคะแนน
เพราะฉะนั้นก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมาโหมโฆษณาให้การเลือกตั้งล่วงหน้ามันง่ายดายนัก จนเหมือนจะเป็นการเลือกตั้ง 3 วันเช่นที่ผ่านมา
ในหมู่นักกฎหมายด้วยกัน คดีนี้มีเหตุอันควรรับฟังได้
จำได้ไหมครับพี่น้อง การเลือกตั้งวันที่ 2 เมษายน 2549 เป็นโมฆะเพราะอะไร นอกจากเรื่องนอมินีแล้ว ก็เรื่องจัดคูหาเลือกตั้งโดยหันด้านที่ลงคะแนนออกข้างนอก
แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็อยู่ที่ศาลฎีกานั่นแหละ !
เพราะจะบอกว่าเป็นเรื่องของตัวบทกฎหมายสถานเดียว ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมืองเสียเลยก็ไม่ได้
เพราะเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ต้องการให้เปิดสภาในไม่ช้าไม่นานหลังเลือกตั้งทั่วไปก็ชัดเจนอยู่
และถ้าการเลือกตั้งล่วงหน้าไม่ถูก ศาลท่านจะวินิจฉัยอย่างไร ถึงขนาดนับคะแนนใหม่ หรือเลือกตั้งทั่วไปใหม่ได้เลยหรือ ดูจะเป็นเรื่องใหญ่เอาการอยู่
ติดตามครับ แต่อย่าตั้งความหวังไว้สูง
เชื่อมั่นในธรรม เชื่อมั่นในกฎแห่งกรรม เป็นดีที่สุด ณ นาทีนี้
