ครป.จี้รัฐบาลเร่งแปรทีไอทีวีเป็นทีวีสาธารณะโดยเร็ว หวั่นรัฐบาลใหม่แทรกแซง แฉผู้บริหารทีไอทีวีบางกลุ่ม บินหา"แม้ว" ที่ฮ่องกง ระบุโครงการปีนเขาเอเวอร์เรสต์ สูญ 30 ล้าน ไม่แจงค่าใช้จ่ายอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ แถมปั่นหัวพนักงานขวางเป็นทีวีสาธารณะ เพื่อประโยชน์ตัวเอง
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป. )กล่าวถึงกรณีสาถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เป็นทีวีสาธารณะว่า ครป. ขอสนับสนุน กระบวนการจัดตั้งทีวีสาธารณะ ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.องค์กรแพร่ภาพสาธารณะ ที่อยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา และขอเรียกร้องให้ ครม. เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้ง 5 ท่าน เพื่อร่วมกับสังคมและประชาชนในการวางกรอบและแนวทางในการจัดตั้งทีวีสาธารณะโดยเร็ว เพราะหากปล่อยให้กระบวนการดังกล่าวล่าช้า และยืดเยื้อออกไปจะทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะนักการเมืองที่มีวาระซ่อนเร้น เข้ามาแทรกแซงบิดเบือน จนอาจทำให้ทีวีสาธารณะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายต้องยอมรับว่าคลื่นโทรทัศน์ทีไอทีวี หรือ UHF กลับมาเป็นของประชาชนตามเจตนารมณ์ของการก่อตั้งทีวีเสรี ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของประชาชน ฉะนั้นทุกฝ่ายจึงควรแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันให้คลื่นแห่งนี้กลับไปเป็นของประชาชน ในนามทีวีสาธารณะที่ปราศจากการแทรกแซงครอบงำของรัฐและทุน และไม่ควรเอาปัญหาผลประโยชน์ใน ทีไอทีวี มาเกี่ยวพันหรือเป็นเหตุให้กระบวนการแปลงสภาพทีไอทีวี ทำไม่ได้ในที่สุด
ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยที่กระบวนการแปลงสภาพทีไอทีวี จะถูกแทรกแซงด้วยผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องหรือแม้แต่ปัญหาผลประโยชน์ของพนักงานบางคน ก็จะต้องทำให้เกิดความกระจ่างต่อประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากระบวนการแปลงสภาพที่ไอทีวีจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประชาชน
แต่ในขณะเดียวกันพนักงานทีไอทีวี ก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อสังคมว่า จะสนับสนุนและไม่ขัดขวางกระบวนการจัดตั้งทีวีสาธารณะ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และอย่าให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยว่า การกระทำของพนักงานทีไอทีวี เป็นการยื้อกระบวนการแปลงสภาพ ทีไอทีวี เป็นทีวีสาธารณะ เพื่อให้รัฐบาลหน้า ซึ่งก็รู้อยู่ว่าจะเป็นรัฐบาลนอมินีของคนบางตระกูลที่เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้มาก่อน
แหล่งข่าว จากหนึ่งในผู้บริหารทีไอทีวี กล่าวว่า ในขณะนี้ในทีไอทีวี กำลังประสบปัญหา เนื่องจากมีผู้บริหารฝ่ายข่าวบางคน กำลังปลุกปั่นพนักงานให้ขัดขวางขบวนการแปลสภาพทีไอทีสวีเป็นทีวีสาธารณะ ทั้งที่ผู้บริหารฝ่ายข่าวกลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง เช่น เอาเวลาการทำงานไปเป็นเวลาส่วนตัว โดยการไปตีกอล์ฟกับนักการเมือง และนักธุรกิจที่เป็นกลุ่มอำนาจเก่า ทั้งยังมีบางคนเอาช่วงเวลาของทีไอทีวี ไปแสวงหาผลประโยชน์กับบริษัทเอกชน เพื่อให้เข้ามาทำรายการบางรายการในทีไอทีวี และผู้บริหารฝ่ายข่าวกลุ่มเดียวกันได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศฮ่องกง ได้ใช้เงินเดินทางจากทีไอทีวี โดยอ้างว่าเดินทางไปสัมภาษณ์ข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากนี้ยังพบการผิดปกติกรณีโครงการปฏิบัติการเกีรติยศ ในการปีนเทือกเขา เอเวอเรสต์ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายไปในการทำโครงการดังกล่าวถึง 30 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจกแจง หรือรายงานค่าใช้จ่ายต่ออธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบ ทีไอทีวี แต่อย่างใด
แหล่งข่าวคนเดียวกันกล่าวต่อว่า กลุ่มผู้บริหารกลุ่มดังกล่าว พยามจะดึงเอาเรื่องการแปลสภาพทีไอทีวี มาบิดเบือนเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของผู้บริหารคนดังกล่าว ซึ่ง การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อประชาชน
นายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย(ครป. )กล่าวถึงกรณีสาถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี เป็นทีวีสาธารณะว่า ครป. ขอสนับสนุน กระบวนการจัดตั้งทีวีสาธารณะ ตามเจตนารมณ์ของ พ.ร.บ.องค์กรแพร่ภาพสาธารณะ ที่อยู่ระหว่างรอประกาศในราชกิจจานุเบกษา และขอเรียกร้องให้ ครม. เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้ง 5 ท่าน เพื่อร่วมกับสังคมและประชาชนในการวางกรอบและแนวทางในการจัดตั้งทีวีสาธารณะโดยเร็ว เพราะหากปล่อยให้กระบวนการดังกล่าวล่าช้า และยืดเยื้อออกไปจะทำให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยเฉพาะนักการเมืองที่มีวาระซ่อนเร้น เข้ามาแทรกแซงบิดเบือน จนอาจทำให้ทีวีสาธารณะไม่สามารถเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายต้องยอมรับว่าคลื่นโทรทัศน์ทีไอทีวี หรือ UHF กลับมาเป็นของประชาชนตามเจตนารมณ์ของการก่อตั้งทีวีเสรี ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ของประชาชน ฉะนั้นทุกฝ่ายจึงควรแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่ เพื่อผลักดันให้คลื่นแห่งนี้กลับไปเป็นของประชาชน ในนามทีวีสาธารณะที่ปราศจากการแทรกแซงครอบงำของรัฐและทุน และไม่ควรเอาปัญหาผลประโยชน์ใน ทีไอทีวี มาเกี่ยวพันหรือเป็นเหตุให้กระบวนการแปลงสภาพทีไอทีวี ทำไม่ได้ในที่สุด
ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยที่กระบวนการแปลงสภาพทีไอทีวี จะถูกแทรกแซงด้วยผลประโยชน์ของผู้เกี่ยวข้องหรือแม้แต่ปัญหาผลประโยชน์ของพนักงานบางคน ก็จะต้องทำให้เกิดความกระจ่างต่อประชาชน เพื่อสร้างความมั่นใจว่ากระบวนการแปลงสภาพที่ไอทีวีจะเป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคมและประชาชน
แต่ในขณะเดียวกันพนักงานทีไอทีวี ก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจต่อสังคมว่า จะสนับสนุนและไม่ขัดขวางกระบวนการจัดตั้งทีวีสาธารณะ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม และอย่าให้สังคมเคลือบแคลงสงสัยว่า การกระทำของพนักงานทีไอทีวี เป็นการยื้อกระบวนการแปลงสภาพ ทีไอทีวี เป็นทีวีสาธารณะ เพื่อให้รัฐบาลหน้า ซึ่งก็รู้อยู่ว่าจะเป็นรัฐบาลนอมินีของคนบางตระกูลที่เป็นเจ้าของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้มาก่อน
แหล่งข่าว จากหนึ่งในผู้บริหารทีไอทีวี กล่าวว่า ในขณะนี้ในทีไอทีวี กำลังประสบปัญหา เนื่องจากมีผู้บริหารฝ่ายข่าวบางคน กำลังปลุกปั่นพนักงานให้ขัดขวางขบวนการแปลสภาพทีไอทีสวีเป็นทีวีสาธารณะ ทั้งที่ผู้บริหารฝ่ายข่าวกลุ่มดังกล่าวมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายอย่าง เช่น เอาเวลาการทำงานไปเป็นเวลาส่วนตัว โดยการไปตีกอล์ฟกับนักการเมือง และนักธุรกิจที่เป็นกลุ่มอำนาจเก่า ทั้งยังมีบางคนเอาช่วงเวลาของทีไอทีวี ไปแสวงหาผลประโยชน์กับบริษัทเอกชน เพื่อให้เข้ามาทำรายการบางรายการในทีไอทีวี และผู้บริหารฝ่ายข่าวกลุ่มเดียวกันได้เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศฮ่องกง ได้ใช้เงินเดินทางจากทีไอทีวี โดยอ้างว่าเดินทางไปสัมภาษณ์ข่าวพ.ต.ท.ทักษิณ
นอกจากนี้ยังพบการผิดปกติกรณีโครงการปฏิบัติการเกีรติยศ ในการปีนเทือกเขา เอเวอเรสต์ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายไปในการทำโครงการดังกล่าวถึง 30 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีการแจกแจง หรือรายงานค่าใช้จ่ายต่ออธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบ ทีไอทีวี แต่อย่างใด
แหล่งข่าวคนเดียวกันกล่าวต่อว่า กลุ่มผู้บริหารกลุ่มดังกล่าว พยามจะดึงเอาเรื่องการแปลสภาพทีไอทีวี มาบิดเบือนเป็นเรื่องของผลประโยชน์ของผู้บริหารคนดังกล่าว ซึ่ง การกระทำเช่นนี้ถือว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงต่อประชาชน