“ทนายหน้าหอแม้ว” ระบุเมื่อโอกาสเหมาะสม “หญิงอ้อ” พร้อมคุยปัญหากับผู้ใหญ่ในบ้านเมือง ขณะที่ “วีระ สมความคิด” เชื่อ “ทักษิณ” กลับไทยศาลอาจมีดุลพินิจไม่เหมือนภริยา โดยอาจไม่ได้รับการประกันตัวเหตุกลัวสร้างความวุ่นวาย ระบุถ้า “พจมาน” เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ พปช.จะสะท้อนว่าเป็นนอมินีจริง ด้าน คมช.เรียกร้อง “แมัว” กลับมาสู้ขบวนการยุติธรรมในคดีทุจริตต่างๆ
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวที่ว่าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะเข้าไปเจรจากับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองว่า ก่อนเดินทางกลับมา มีการพูดคุย เพื่อขอเข้าพรผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือไม่นั้นตนไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ แต่คุณหญิงพจมาน เป็นคนที่นอบน้อม ต่อผู้ใหญ่ ฉะนั้นคงมีการพูดคุยเมื่อมีโอกาสที่เหมาะ
ส่วนที่การตั้งข้อสังเกตการเดินทางกลับมาของคุณหญิงพจมานว่า อาจมาเคลียร์คดีให้พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายนพดล กล่าวว่า คงไม่ได้มีการไปวิ่งเต้นใ นคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่คงเป็นการไปต่อสู้คดีในส่วนของคุณหญิงพจมานเท่านั้น และในวันที่ 23 ม.ค. ที่ศาลนัดเรียกไปชี้แจงนั้น คงจะไปตามวันดังกล่าว ซึ่งช่วงนี้ คุณหญิงพจมานยังคงพักผ่อนอยู่กับครอบครัว อาจไปพบเพื่อนฝูงที่สนิทกันบ้าง และอยู่ในเมืองไทยตลอด
นาย วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น กล่าวถึง กรณีที่ศาลให้ประกันตัวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างรวดเร็วว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดปกติ เมื่อศาลเห็นว่า คุณหญิงพจมานไม่น่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองจึงให้ประกันตัว ซึ่งคุณหญิงพจมานจะทำอะไรก็เป็นสิทธิของท่านแต่อย่าทำผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่คุณหญิงพจมานกลับมาและได้ประกันตัวถือเป็นการ ลองเชิงก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาหรือไม่ นายวีระกล่าวว่ากรณีดังกล่าวอาจจะไม่เหมือนกันเพราะคุณหญิงพจมานไม่ใช่อดีตกรรมการบริหารพรรคเหมือนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณที่เคยเป็นหัวหน้าพรรค หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมา อาจจะก่อให้เกิดปัญหาจนศาลอาจมีดุลพินิจไม่เหมือนกัน โดยศาลอาจจะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะอยู่ในการควบคุมของศาลน่าจะดีกว่าเพื่อไม่ให้ไปสร้างความวุ่นวาย
“ถ้าคุณหญิงพจมานกลับมาควบคุมพรรคพลังประชาชนก็ยิ่งทำให้เชื่อว่า ครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้วางมือทางการเมือง และมีความชัดเจนว่า เป็นนอมินีของพรรคพลังประชาชนตามที่ผมเคยยื่นฟ้องไว้ และเป็นสิ่งที่ดีที่ คุณหญิงพจมาน จะเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลตามที่สื่อนำเสนอข่าวเพราะจะทำให้ประชาชนเลิกสงสัยว่าผมกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณแต่เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นจริง”
พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) กล่าวถึงข่าวการกลับมาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เพื่อเป็นแม่ทัพในการจัดตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆว่า ตนอยู่ตรงนี้จะไปรู้เรื่องอะไร ตนไม่ใช่นักการเมืองจึงตอบไม่ได้ ส่วนการรับประทานอาหารร่วมกับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ก็เป็นการพูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองทั่วไป แล้วแต่ใครจะหยิบยกประเด็นมาพูดคุย
ผู้สื่อข่าวถามว่าการกลับมาของคุณหญิงพจมาน มีการต่อสายมาถึงคมช.และรัฐบาลหรือไม่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า ทางคมช.ไม่มีแต่รัฐบาลไม่ทราบ
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคุณหญิงพจมาน จะมาเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ เพื่อเปิดทางให้ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับประเทศ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ตอนนี้ คมช. ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ส่วนตัวคิดว่า พ.ต.ท. ทักษิณ น่าจะกลับมาสู้คดี เพราะเราอยากให้กลับมา เรื่องต่าง ๆ จะได้จบสักที คดีจะได้เคลียร์ และทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ซึ่งจะส่งผลดีกับทุกฝ่ายไม่เช่นนั้นเรื่องก็จะคาราคาซังกันอยู่ ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังมีปัญหาอยู่นั้น เราต้องให้เขาจัดตั้งรัฐบาลก่อน
ส่วนที่ คมช.ส่งพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคมช. ลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์นั้น พล.ร.อ.สถิรพันธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียด เพราะยังไม่ได้พบกับ พล.อ.สมเจตน์ แต่คมช.ไม่ได้สั่งการอะไรพิเศษ เพียงแค่ให้ไปตรวจดูความเรียบร้อยเท่านั้นว่าอะไรเป็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเชิญผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังมาพูดคุยหรือไม่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า คมช.ไม่มีอำนาจในการเรียกตัวและคมช.ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องดูแล โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ต้องดูแลให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะถือเป็นหน่วยงานหลักที่ต้องดูแลกันให้ได้ก่อน หากเหลือบ่ากว่าแรงต้องว่ากันอีกครั้งหนึ่ง
“คิดว่าคน70 ล้านคน มีคนที่นอกกติกาไม่เท่าไหร่ อยู่ที่สื่อมวลชนต้องช่วยกันชี้นำว่า การกระทำในลักษณะนี้ถูกหรือผิด ออกมาพูดบ่อยๆ ก็จะลดลงไป และสื่อต้องช่วยตำหนิคนที่ทำไม่ถูกกติกา อย่าไปเชียร์ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นต้องกลับไปทบทวนตัวเอง ถ้าเราเรียกร้องประชาธิปไตยต้องดูว่ากฎกติกาคืออะไรบ้าง ถ้าอยากเห็นประเทศเจริญ อยากเห็นวัฒนธรรมอยู่ในระดับประเทศผู้นำของโลก เราต้องรักษาตรงนี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องถอยหลังไปเป็นประเทศที่ล้าหลัง”
นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงข่าวที่ว่าคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ เตรียมจะเข้าไปเจรจากับผู้ใหญ่ในบ้านเมืองว่า ก่อนเดินทางกลับมา มีการพูดคุย เพื่อขอเข้าพรผู้ใหญ่ในบ้านเมืองหรือไม่นั้นตนไม่มีข้อมูลเรื่องนี้ แต่คุณหญิงพจมาน เป็นคนที่นอบน้อม ต่อผู้ใหญ่ ฉะนั้นคงมีการพูดคุยเมื่อมีโอกาสที่เหมาะ
ส่วนที่การตั้งข้อสังเกตการเดินทางกลับมาของคุณหญิงพจมานว่า อาจมาเคลียร์คดีให้พ.ต.ท.ทักษิณนั้น นายนพดล กล่าวว่า คงไม่ได้มีการไปวิ่งเต้นใ นคดีของพ.ต.ท.ทักษิณ แต่คงเป็นการไปต่อสู้คดีในส่วนของคุณหญิงพจมานเท่านั้น และในวันที่ 23 ม.ค. ที่ศาลนัดเรียกไปชี้แจงนั้น คงจะไปตามวันดังกล่าว ซึ่งช่วงนี้ คุณหญิงพจมานยังคงพักผ่อนอยู่กับครอบครัว อาจไปพบเพื่อนฝูงที่สนิทกันบ้าง และอยู่ในเมืองไทยตลอด
นาย วีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอรัปชั่น กล่าวถึง กรณีที่ศาลให้ประกันตัวคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างรวดเร็วว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหรือผิดปกติ เมื่อศาลเห็นว่า คุณหญิงพจมานไม่น่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองจึงให้ประกันตัว ซึ่งคุณหญิงพจมานจะทำอะไรก็เป็นสิทธิของท่านแต่อย่าทำผิดกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่ากรณีที่คุณหญิงพจมานกลับมาและได้ประกันตัวถือเป็นการ ลองเชิงก่อนที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมาหรือไม่ นายวีระกล่าวว่ากรณีดังกล่าวอาจจะไม่เหมือนกันเพราะคุณหญิงพจมานไม่ใช่อดีตกรรมการบริหารพรรคเหมือนอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณที่เคยเป็นหัวหน้าพรรค หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะกลับมา อาจจะก่อให้เกิดปัญหาจนศาลอาจมีดุลพินิจไม่เหมือนกัน โดยศาลอาจจะเห็นว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ควรจะอยู่ในการควบคุมของศาลน่าจะดีกว่าเพื่อไม่ให้ไปสร้างความวุ่นวาย
“ถ้าคุณหญิงพจมานกลับมาควบคุมพรรคพลังประชาชนก็ยิ่งทำให้เชื่อว่า ครอบครัวของ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้วางมือทางการเมือง และมีความชัดเจนว่า เป็นนอมินีของพรรคพลังประชาชนตามที่ผมเคยยื่นฟ้องไว้ และเป็นสิ่งที่ดีที่ คุณหญิงพจมาน จะเข้ามาจัดตั้งรัฐบาลตามที่สื่อนำเสนอข่าวเพราะจะทำให้ประชาชนเลิกสงสัยว่าผมกล่าวหา พ.ต.ท.ทักษิณแต่เป็นการกระทำที่เกิดขึ้นจริง”
พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ เกยานนท์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) กล่าวถึงข่าวการกลับมาของคุณหญิงพจมาน ชินวัตร เพื่อเป็นแม่ทัพในการจัดตั้งตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่าง ๆว่า ตนอยู่ตรงนี้จะไปรู้เรื่องอะไร ตนไม่ใช่นักการเมืองจึงตอบไม่ได้ ส่วนการรับประทานอาหารร่วมกับพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ก็เป็นการพูดคุยถึงสถานการณ์การเมืองทั่วไป แล้วแต่ใครจะหยิบยกประเด็นมาพูดคุย
ผู้สื่อข่าวถามว่าการกลับมาของคุณหญิงพจมาน มีการต่อสายมาถึงคมช.และรัฐบาลหรือไม่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า ทางคมช.ไม่มีแต่รัฐบาลไม่ทราบ
ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าคุณหญิงพจมาน จะมาเคลียร์ปัญหาต่าง ๆ เพื่อเปิดทางให้ พ.ต.ท. ทักษิณ กลับประเทศ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า ไม่รู้ ตอนนี้ คมช. ไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง แต่ส่วนตัวคิดว่า พ.ต.ท. ทักษิณ น่าจะกลับมาสู้คดี เพราะเราอยากให้กลับมา เรื่องต่าง ๆ จะได้จบสักที คดีจะได้เคลียร์ และทุกอย่างเป็นไปตามกติกา ซึ่งจะส่งผลดีกับทุกฝ่ายไม่เช่นนั้นเรื่องก็จะคาราคาซังกันอยู่ ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลที่ยังมีปัญหาอยู่นั้น เราต้องให้เขาจัดตั้งรัฐบาลก่อน
ส่วนที่ คมช.ส่งพล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม หัวหน้าสำนักงานเลขาธิการคมช. ลงพื้นที่จ.บุรีรัมย์นั้น พล.ร.อ.สถิรพันธ์กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานในรายละเอียด เพราะยังไม่ได้พบกับ พล.อ.สมเจตน์ แต่คมช.ไม่ได้สั่งการอะไรพิเศษ เพียงแค่ให้ไปตรวจดูความเรียบร้อยเท่านั้นว่าอะไรเป็นอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเชิญผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังมาพูดคุยหรือไม่ พล.ร.อ.สถิรพันธุ์ กล่าวว่า คมช.ไม่มีอำนาจในการเรียกตัวและคมช.ก็ไม่ได้เข้าไปยุ่ง ทั้งนี้เป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องดูแล โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัด ที่ต้องดูแลให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะถือเป็นหน่วยงานหลักที่ต้องดูแลกันให้ได้ก่อน หากเหลือบ่ากว่าแรงต้องว่ากันอีกครั้งหนึ่ง
“คิดว่าคน70 ล้านคน มีคนที่นอกกติกาไม่เท่าไหร่ อยู่ที่สื่อมวลชนต้องช่วยกันชี้นำว่า การกระทำในลักษณะนี้ถูกหรือผิด ออกมาพูดบ่อยๆ ก็จะลดลงไป และสื่อต้องช่วยตำหนิคนที่ทำไม่ถูกกติกา อย่าไปเชียร์ ซึ่งบุคคลเหล่านั้นต้องกลับไปทบทวนตัวเอง ถ้าเราเรียกร้องประชาธิปไตยต้องดูว่ากฎกติกาคืออะไรบ้าง ถ้าอยากเห็นประเทศเจริญ อยากเห็นวัฒนธรรมอยู่ในระดับประเทศผู้นำของโลก เราต้องรักษาตรงนี้ให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะต้องถอยหลังไปเป็นประเทศที่ล้าหลัง”