ตราด - “ผู้ว่าฯเกาะกง” มั่นใจถนนสาย 48 - สะพาน 4 แห่ง ในเกาะกงสร้างเสร็จปี 51 ส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ 3 ประเทศ ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ขณะที่การท่องเที่ยวก็ไปโลด
นายยุทธ ภูทอง ผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของ การก่อสร้างถนนสาย 48 (เกาะกง-สะแออัมเปิล) และสะพานข้ามแม่น้ำ 4 แห่งนั้น ขณะนี้ถนนสาย 48 ที่มีความยาว 140-150 กิโลเมตร ราดยางเสร็จแล้ว ส่วนสะพาน 2 แห่งก็ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียง 2 แห่งที่เสร็จ ไปแล้ว 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2551
ทั้งสะพานและถนนเป็นงบประมาณที่รัฐบาลไทยให้เงินให้เปล่า และให้เงินกู้ระยะยาวกับรัฐบาลกัมพูชา ประมาณ 1,000 ล้านบาท นับเป็นเส้นทางคมนาคมที่มีความสำคัญแก่พี่น้องชาวเกาะกงมาก เพราะเป็นถนนสายเดียวที่ทำให้ จ.เกาะกง สามารถเดินทางไปยังพนมเปญได้ด้วยระยะทาง 280 กว่ากิโลเมตร ไปกรุงสีหนุวิลล์ประมาณ 250 กิโลเมตร และยังไปชายแดนประเทศเวียดนาม ประมาณ 350 กิโลเมตร ทำให้ จ.เกาะกงได้ประโยชน์จากถนนสายนี้อย่างมหาศาล เพราะจะนำไปสู่การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวของทั้ง 3 ประเทศ คือจากประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม
“ปัจจุบัน เกาะกงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมทั้งชาวกัมพูชาเองเดินทางมาเยี่ยมเยียน และเข้ามาลงทุนทำธุรกิจใน จ.เกาะกงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยว มีการก่อสร้าง โรงแรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นใน จ.เกาะกง และมีการเดินทางไปมาระหว่าง 3 ประเทศ จนเกิดการค้าขาย เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่นและชาวเกาะกงเอง ทั้งนี้ เกาะกงจะเป็นเสมือนประตูสู่กัมพูชาในอนาคตอันใกล้นี้”
นายยุทธ กล่าวว่า อุปสรรคในขณะนี้ คือการเดินทางเข้าประเทศไทยต้องทำพาสปอร์ต ส่วนบอเดอร์พาสก็เดินทางเข้าไปได้ไม่ไกลนัก ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยยังหาข้อสรุปในการอนุญาตไม่ได้ คงจะต้องรอให้ผู้ว่าราชการ จ.ตราด ได้ดำเนินการตามขั้นตอนไปก่อน ซึ่งจ.เกาะกงจะติดตามความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ต่อไป
นายยุทธ ภูทอง ผู้ว่าราชการ จ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าของ การก่อสร้างถนนสาย 48 (เกาะกง-สะแออัมเปิล) และสะพานข้ามแม่น้ำ 4 แห่งนั้น ขณะนี้ถนนสาย 48 ที่มีความยาว 140-150 กิโลเมตร ราดยางเสร็จแล้ว ส่วนสะพาน 2 แห่งก็ก่อสร้างเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียง 2 แห่งที่เสร็จ ไปแล้ว 80% คาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางปี 2551
ทั้งสะพานและถนนเป็นงบประมาณที่รัฐบาลไทยให้เงินให้เปล่า และให้เงินกู้ระยะยาวกับรัฐบาลกัมพูชา ประมาณ 1,000 ล้านบาท นับเป็นเส้นทางคมนาคมที่มีความสำคัญแก่พี่น้องชาวเกาะกงมาก เพราะเป็นถนนสายเดียวที่ทำให้ จ.เกาะกง สามารถเดินทางไปยังพนมเปญได้ด้วยระยะทาง 280 กว่ากิโลเมตร ไปกรุงสีหนุวิลล์ประมาณ 250 กิโลเมตร และยังไปชายแดนประเทศเวียดนาม ประมาณ 350 กิโลเมตร ทำให้ จ.เกาะกงได้ประโยชน์จากถนนสายนี้อย่างมหาศาล เพราะจะนำไปสู่การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวของทั้ง 3 ประเทศ คือจากประเทศไทย กัมพูชา และเวียดนาม
“ปัจจุบัน เกาะกงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ รวมทั้งชาวกัมพูชาเองเดินทางมาเยี่ยมเยียน และเข้ามาลงทุนทำธุรกิจใน จ.เกาะกงเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะธุรกิจด้านการท่องเที่ยว มีการก่อสร้าง โรงแรมทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ขึ้นใน จ.เกาะกง และมีการเดินทางไปมาระหว่าง 3 ประเทศ จนเกิดการค้าขาย เกิดการใช้จ่ายในท้องถิ่นและชาวเกาะกงเอง ทั้งนี้ เกาะกงจะเป็นเสมือนประตูสู่กัมพูชาในอนาคตอันใกล้นี้”
นายยุทธ กล่าวว่า อุปสรรคในขณะนี้ คือการเดินทางเข้าประเทศไทยต้องทำพาสปอร์ต ส่วนบอเดอร์พาสก็เดินทางเข้าไปได้ไม่ไกลนัก ทั้งนี้ รัฐบาลกัมพูชาและรัฐบาลไทยยังหาข้อสรุปในการอนุญาตไม่ได้ คงจะต้องรอให้ผู้ว่าราชการ จ.ตราด ได้ดำเนินการตามขั้นตอนไปก่อน ซึ่งจ.เกาะกงจะติดตามความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ต่อไป
