ครม.อนุมัติ 1.9 หมื่นล้านบาทให้ กองทัพอากาศซื้อเครื่องบินรบ กริพเพน39 ซีดี จากสวีเดนงวดแรก 6 ลำ “พล.อ.อ.ชลิต” แจง ครม.กองทัพอากาศได้ประโยชน์จากข้อเสนอพิเศษเพียบ เผยมกราคม 2554 กองทัพอากาศได้รับมอบ 3 เครื่องแรก
นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพอากาศ ดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินรบ กริพเพน39 ซีดี (JAS-Gripen 39 C/D) จำนวน 6 ลำพร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม เป็นเงิน 18,284 ล้านบาท ขณะที่อนุมัติการปรับปรุงอาคารสถานที่และการบริหารโครงการที่จะดำเนินการก่อนและหลังการรับมอบเครื่องบิน เป็นเงิน 716 ล้านบาท โดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสวีเดน และให้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้รับมอบอำนาจลงนามในข้อตกลง การซื้อขายเครื่องบินในนามรัฐบาลไทย รวมทั้งแก้ไขข้อตกลงการซื้อขายเครื่องบิน โดยวงเงินรวมไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ได้รายงานงานต่อที่ประชุม ครม.ว่า กองทัพอากาศจะจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ JAS-Gripen 39 C/D จากสวีเดน จำนวน 6 ลำ โดยใช้งบผูกพันตั้งแต่ปี 51-55 เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่เอฟ-5 ที่ประจำการอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งจะปลดประจำการในปี 2552-2554 ซึ่งเป็นระยะที่หนึ่ง จำนวน 6 ลำ พร้อมอะไหล่ อุปกรณ์ การฝีกอบรม การจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน และอาคารสถานที่ระหว่างปี 51-55 วงเงิน 19,000 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณของ ทอ.ที่ได้รับการจัดสรร
พล.อ.อ.ชลิต ชี้แจงอีกว่า รัฐบาลสวีเดนจะมีข้อเสนอพิเศษ โดยจัดเครื่องบิน ควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ (AEW) ติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์แบบ Erieye จำนวน 1 เครื่อง เครื่องบินลำเลียงแบบ Saab 340 จำนวน 1 เครื่อง ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท (Scholarships) จำนวน 92 ทุน และระบบ Data Link สำหรับการป้องกันทางอากาศในระบบควบคุมและแจ้งเตือนภาคใต้
นอกจากนั้นยังกำหนดให้มีความร่วมมือทวิภาคี ด้านอุตสาหกรรม ระหว่างไทย กับสวีเดน ซึ่งจะต้องจัดผู้แทนทั้งสองฝ่ายเจรจากันหลังการลงนามจัดซื้อระยะที่ 1 ต่อไป
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม. แจ้งว่า ก่อนหน้านั้น วันที่ 16 ต.ค.ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายก่อนมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ได้อนุมัติโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ JAS-Gripen 39 C/D จากสวีเดน เพื่อทดแทนเครื่องบิน แบบ 18 ก. (F-5 E) ของกองทัพอากาศจำนวน 1 ฝูง 12 ลำ จำนวน 34,000 ล้านบาท โดยแบ่งโครงการออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจัดซื้อจำนวน 6 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม วงเงิน 19,000 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณ 5 ปี ( 2551-2555 ) และในระยะที่ 2 จำนวน 6 เครื่อง พร้อมอะไหล่ การฝึกอบรม 15,400 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณปี 56-60
“การเห็นชอบในหลักการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ดังนี้ คือเห็นชอบให้ กองทัพอากาศจัดหาเครื่องบินโดยใช้งบประมาณใน ปี 2551 โดยเห็นชอบให้หลักการวงเงิน 34,000 ล้านบาท และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบฯ ไว้กับกองทัพอากาศแต่ละปี โดยเริ่มบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2551”แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ ทอ.มีแผนจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทนเอฟ-5 มาตั้งแต่รัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยพล.อ.อ.ชลิตแต่งตั้งคณะกรรมการ พิจารณาคัดเลือกแบบ ซึ่งกองทัพอากาศ สนใจ 3 รุ่น คือ เอฟ-16 ซีดีของสหรัฐ, ซู-30 ของรัสเซีย และ JAS-Gripen 39 C/D ของสวีเดน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปกระทั่งเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และรัฐบาลชุดนี้ก็เห็นชอบให้จัดซื้อ JAS-Gripen 39 C/D ของสวีเดน
น.อ.มณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า น.อ.มณฑล กล่าวว่า สำหรับการผลิตและการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ JAS-Gripen 39 C/D ใช้ระยะเวลา 36 เดือนหลังจากลงนามในหนังสือข้อตกลงการซื้อขาย นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรม ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่ปี 2551และการส่งมอบอะไหล่ อุปกรณ์ ต้องดำเนินการให้เสร็จ ปี 2553
ส่วนการส่งมอบเครื่องบินชาร์ป 340 จำนวน 2 เครื่องดำเนินการได้ปลายปี พ.ศ. 2553 การส่งมอบเครื่องบิน JAS-Gripen 39 C/D 6 เครื่อง ดำเนินการต้นปี 2554 โดย 3 เครื่องในเดือนมกราคม และอีก 3 เครื่องในเดือนมีนาคม เพื่อให้ หน่วยบินมีความพร้อมในการปฏิบัติการในเดือนกันยายน ซึ่งจะสอดคล้องกับการปลดประจำการเครื่องบินเอฟ 5
นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้กระทรวงกลาโหม โดยกองทัพอากาศ ดำเนินการจัดซื้อเครื่องบินรบ กริพเพน39 ซีดี (JAS-Gripen 39 C/D) จำนวน 6 ลำพร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม เป็นเงิน 18,284 ล้านบาท ขณะที่อนุมัติการปรับปรุงอาคารสถานที่และการบริหารโครงการที่จะดำเนินการก่อนและหลังการรับมอบเครื่องบิน เป็นเงิน 716 ล้านบาท โดยวิธีรัฐบาลต่อรัฐบาล (G to G) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสวีเดน และให้ ผู้บัญชาการทหารอากาศ เป็นผู้รับมอบอำนาจลงนามในข้อตกลง การซื้อขายเครื่องบินในนามรัฐบาลไทย รวมทั้งแก้ไขข้อตกลงการซื้อขายเครื่องบิน โดยวงเงินรวมไม่เปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผบ.ทอ.ได้รายงานงานต่อที่ประชุม ครม.ว่า กองทัพอากาศจะจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบ JAS-Gripen 39 C/D จากสวีเดน จำนวน 6 ลำ โดยใช้งบผูกพันตั้งแต่ปี 51-55 เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่เอฟ-5 ที่ประจำการอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งจะปลดประจำการในปี 2552-2554 ซึ่งเป็นระยะที่หนึ่ง จำนวน 6 ลำ พร้อมอะไหล่ อุปกรณ์ การฝีกอบรม การจัดเตรียมโครงสร้างพื้นฐาน และอาคารสถานที่ระหว่างปี 51-55 วงเงิน 19,000 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณของ ทอ.ที่ได้รับการจัดสรร
พล.อ.อ.ชลิต ชี้แจงอีกว่า รัฐบาลสวีเดนจะมีข้อเสนอพิเศษ โดยจัดเครื่องบิน ควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ (AEW) ติดตั้งอุปกรณ์เรดาร์แบบ Erieye จำนวน 1 เครื่อง เครื่องบินลำเลียงแบบ Saab 340 จำนวน 1 เครื่อง ทุนการศึกษาระดับปริญญาโท (Scholarships) จำนวน 92 ทุน และระบบ Data Link สำหรับการป้องกันทางอากาศในระบบควบคุมและแจ้งเตือนภาคใต้
นอกจากนั้นยังกำหนดให้มีความร่วมมือทวิภาคี ด้านอุตสาหกรรม ระหว่างไทย กับสวีเดน ซึ่งจะต้องจัดผู้แทนทั้งสองฝ่ายเจรจากันหลังการลงนามจัดซื้อระยะที่ 1 ต่อไป
แหล่งข่าวจากที่ประชุม ครม. แจ้งว่า ก่อนหน้านั้น วันที่ 16 ต.ค.ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งสุดท้ายก่อนมีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง ได้อนุมัติโครงการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ JAS-Gripen 39 C/D จากสวีเดน เพื่อทดแทนเครื่องบิน แบบ 18 ก. (F-5 E) ของกองทัพอากาศจำนวน 1 ฝูง 12 ลำ จำนวน 34,000 ล้านบาท โดยแบ่งโครงการออกเป็น 2 ระยะ โดยระยะแรกจัดซื้อจำนวน 6 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ อะไหล่ การฝึกอบรม วงเงิน 19,000 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณ 5 ปี ( 2551-2555 ) และในระยะที่ 2 จำนวน 6 เครื่อง พร้อมอะไหล่ การฝึกอบรม 15,400 ล้านบาท ผูกพันงบประมาณปี 56-60
“การเห็นชอบในหลักการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ดังนี้ คือเห็นชอบให้ กองทัพอากาศจัดหาเครื่องบินโดยใช้งบประมาณใน ปี 2551 โดยเห็นชอบให้หลักการวงเงิน 34,000 ล้านบาท และให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรงบฯ ไว้กับกองทัพอากาศแต่ละปี โดยเริ่มบรรจุไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณปี 2551”แหล่งข่าว กล่าว
ทั้งนี้ ทอ.มีแผนจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ทดแทนเอฟ-5 มาตั้งแต่รัฐบาลชุด พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี โดยพล.อ.อ.ชลิตแต่งตั้งคณะกรรมการ พิจารณาคัดเลือกแบบ ซึ่งกองทัพอากาศ สนใจ 3 รุ่น คือ เอฟ-16 ซีดีของสหรัฐ, ซู-30 ของรัสเซีย และ JAS-Gripen 39 C/D ของสวีเดน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปกระทั่งเปลี่ยนแปลงรัฐบาล และรัฐบาลชุดนี้ก็เห็นชอบให้จัดซื้อ JAS-Gripen 39 C/D ของสวีเดน
น.อ.มณฑล สัชฌุกร รองโฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า น.อ.มณฑล กล่าวว่า สำหรับการผลิตและการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ JAS-Gripen 39 C/D ใช้ระยะเวลา 36 เดือนหลังจากลงนามในหนังสือข้อตกลงการซื้อขาย นอกจากนี้ยังมีการฝึกอบรม ซึ่งจะดำเนินการตั้งแต่ปี 2551และการส่งมอบอะไหล่ อุปกรณ์ ต้องดำเนินการให้เสร็จ ปี 2553
ส่วนการส่งมอบเครื่องบินชาร์ป 340 จำนวน 2 เครื่องดำเนินการได้ปลายปี พ.ศ. 2553 การส่งมอบเครื่องบิน JAS-Gripen 39 C/D 6 เครื่อง ดำเนินการต้นปี 2554 โดย 3 เครื่องในเดือนมกราคม และอีก 3 เครื่องในเดือนมีนาคม เพื่อให้ หน่วยบินมีความพร้อมในการปฏิบัติการในเดือนกันยายน ซึ่งจะสอดคล้องกับการปลดประจำการเครื่องบินเอฟ 5
