รอยเตอร์/เอเอฟพี - ราคาน้ำมันในตลาดโลกทำสถิติใหม่อีกครั้ง ทะลุระดับ 100 ดอลลาร์ หลังจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯแถลงปริมาณน้ำมันดิบในคลังทั่วประเทศลดฮวบ 4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ในระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี ขณะที่ราคาน้ำมันที่สูงลิ่วและเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงก็ทำให้ราคาทองคำทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดเช่นกันที่ 870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้านนักวิเคราะห์ระบุราคาน้ำมันพุ่งทำสถิติแตะ 100 ดอลลาร์ เมื่อวันพุธ(2) เพียงเพราะเทรดเดอร์เพียงคนเดียวที่อยากดัง
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบไลท์สวีตครูด สำหรับส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตลาดไนเม็กซ์ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี(3) ในช่วงหนึ่งมีราคาพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 100.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ต่อมาก็ลดลงมาปิดตลาดที่ 99.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 44 เซ็นต์ จากราคาปิดตลาดที่นิวยอร์ก เมื่อวันพุธ(2)
ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ สำหรับส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตลาดในลอนดอน เมื่อวันพฤหัสบดี ช่วงหนึ่งมีราคาพุ่งทำสถิติใหม่ที่ 98.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ต่อมาก็ถอยลงมาปิดตลาดที่ 97.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 24 เซ็นต์ จากราคาปิดที่ลอนดอนเมื่อวันพุธเช่นกัน
ต่อมา ในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ เมื่อวันศุกร์(4) สัญญาน้ำมันดิบไลท์สวีตครูด มีราคาเพิ่มขึ้น 5 เซ็นต์ จากราคาปิดที่นิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี มาซื้อขายกันที่ 99.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ มีราคาเพิ่มขึ้น 25 เซ็นต์ จากราคาปิดที่ลอนดอนเมื่อวันพฤหัสบดีเช่นกัน มาซื้อขายที่ 97.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันพุ่งทะลุระดับ 100 ดอลลาร์ ในช่วงสั้นๆเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯแถลงตัวเลขปริมาณน้ำมันในคลังทั่วประเทศประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่าปริมาณน้ำมันดิบในคลังสหรัฐฯลดลง 4 ล้านบาร์เรล
สำหรับราคาน้ำมันที่พุ่งทำสถิติแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันพุธนั้น บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่ามีเทรดเดอร์เพียงคนเดียวเท่านั้นทุ่มเงินซื้อน้ำมัน ดันราคาแตะ 100 ดอลลาร์ แต่ต่อมาก็ขายทิ้ง และขาดทุนไป 600 ดอลลาร์
สื่อสหรัฐฯและอังกฤษต่างระบุชื่อเทรดเดอร์คนนี้ว่า ริชาร์ด อเรนส์ เจ้าของบริษัทนายหน้าน้ำมันที่ดำเนินกิจการเพียงคนเดียว
นักวิเคราะห์ของบริษัทซัคเดน เขียนในคำอธิบายต่อปรากฏการณ์ในตลาดน้ำมันเมื่อวันพุธว่า"เห็นได้ชัดเลยว่าตัวเลขมหัศจรรย์ถูกทำลายโดยการซื้อขายเพียงครั้งเดียว ซึ่งลือกันว่าเป็นฝีมือของคนท้องถิ่นที่อยากดัง"
ทั้งนี้ อเรนส์เสนอซื้อน้ำมันดิบ 1,000 บาร์เรล ด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์ ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปที่ 100 ดอลลาร์ต่อ 1 บาร์เรล
ทว่า ต่อมา อเรนส์ก็ขายสัญญาน้ำมันดิบเหล่านี้ในราคาที่ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขาดทุนไป 600 ดอลลาร์
อังตวน เฮฟฟ์ นักวิเคราะห์แห่งนิวเอดจ์ กล่าวว่าอเรนส์ต้องการเป็นคนแรกในโลกที่ซื้อน้ำมันราคา 100 ดอลลาร์
ขณะที่วิกเตอร์ ชัม แห่งเพอร์วินแอนด์เกิร์ตซ์ บริษัทที่ปรึกษาพลังงานระหว่างประเทศ กล่าวว่าจริงแล้วๆ ราคาน้ำมันแตะ 100 ดอลลาร์เป็นผลมาจากเทรดเดอร์เพียงคนเดียว แต่ในวันพฤหัสบดี เทรดเดอร์จำนวนมากขึ้นก็ผลักดันให้ราคาพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์
ชัมกล่าวว่าราคาน้ำมันที่ลดลงมาเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์เป็นผลมาจากการเทขายทำกำไร และมีแนวโน้มที่ราคาจะพุ่งทะลุ 100 ดอลลลาร์อีกครั้ง ในอีกสองสามวันข้างหน้า เพราะอาจมีเงินจำนวนมากไหลบ่าเข้าสู่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากนักลงทุนจะสร้างสมดุลในพอร์ตลงทุนของตนเอง ในช่วงต้นปี
ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงลิ่วและเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น ทำให้ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยราคาทองในตลาดนิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี ซื้อขายกันที่ 870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองที่ตลาดในฮ่องกง เมื่อวันศุกร์ ปิดการซื้อขายที่ 861.80 - 862.30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบไลท์สวีตครูด สำหรับส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตลาดไนเม็กซ์ในนครนิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี(3) ในช่วงหนึ่งมีราคาพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 100.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ต่อมาก็ลดลงมาปิดตลาดที่ 99.18 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 44 เซ็นต์ จากราคาปิดตลาดที่นิวยอร์ก เมื่อวันพุธ(2)
ขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนต์ สำหรับส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ที่ตลาดในลอนดอน เมื่อวันพฤหัสบดี ช่วงหนึ่งมีราคาพุ่งทำสถิติใหม่ที่ 98.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล แต่ต่อมาก็ถอยลงมาปิดตลาดที่ 97.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 24 เซ็นต์ จากราคาปิดที่ลอนดอนเมื่อวันพุธเช่นกัน
ต่อมา ในการซื้อขายที่ตลาดสิงคโปร์ เมื่อวันศุกร์(4) สัญญาน้ำมันดิบไลท์สวีตครูด มีราคาเพิ่มขึ้น 5 เซ็นต์ จากราคาปิดที่นิวยอร์กเมื่อวันพฤหัสบดี มาซื้อขายกันที่ 99.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ มีราคาเพิ่มขึ้น 25 เซ็นต์ จากราคาปิดที่ลอนดอนเมื่อวันพฤหัสบดีเช่นกัน มาซื้อขายที่ 97.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันพุ่งทะลุระดับ 100 ดอลลาร์ ในช่วงสั้นๆเมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯแถลงตัวเลขปริมาณน้ำมันในคลังทั่วประเทศประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ที่ผ่านมา ปรากฏว่าปริมาณน้ำมันดิบในคลังสหรัฐฯลดลง 4 ล้านบาร์เรล
สำหรับราคาน้ำมันที่พุ่งทำสถิติแตะ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อวันพุธนั้น บรรดานักวิเคราะห์กล่าวว่ามีเทรดเดอร์เพียงคนเดียวเท่านั้นทุ่มเงินซื้อน้ำมัน ดันราคาแตะ 100 ดอลลาร์ แต่ต่อมาก็ขายทิ้ง และขาดทุนไป 600 ดอลลาร์
สื่อสหรัฐฯและอังกฤษต่างระบุชื่อเทรดเดอร์คนนี้ว่า ริชาร์ด อเรนส์ เจ้าของบริษัทนายหน้าน้ำมันที่ดำเนินกิจการเพียงคนเดียว
นักวิเคราะห์ของบริษัทซัคเดน เขียนในคำอธิบายต่อปรากฏการณ์ในตลาดน้ำมันเมื่อวันพุธว่า"เห็นได้ชัดเลยว่าตัวเลขมหัศจรรย์ถูกทำลายโดยการซื้อขายเพียงครั้งเดียว ซึ่งลือกันว่าเป็นฝีมือของคนท้องถิ่นที่อยากดัง"
ทั้งนี้ อเรนส์เสนอซื้อน้ำมันดิบ 1,000 บาร์เรล ด้วยเงิน 100,000 ดอลลาร์ ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นไปที่ 100 ดอลลาร์ต่อ 1 บาร์เรล
ทว่า ต่อมา อเรนส์ก็ขายสัญญาน้ำมันดิบเหล่านี้ในราคาที่ต่ำกว่า 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขาดทุนไป 600 ดอลลาร์
อังตวน เฮฟฟ์ นักวิเคราะห์แห่งนิวเอดจ์ กล่าวว่าอเรนส์ต้องการเป็นคนแรกในโลกที่ซื้อน้ำมันราคา 100 ดอลลาร์
ขณะที่วิกเตอร์ ชัม แห่งเพอร์วินแอนด์เกิร์ตซ์ บริษัทที่ปรึกษาพลังงานระหว่างประเทศ กล่าวว่าจริงแล้วๆ ราคาน้ำมันแตะ 100 ดอลลาร์เป็นผลมาจากเทรดเดอร์เพียงคนเดียว แต่ในวันพฤหัสบดี เทรดเดอร์จำนวนมากขึ้นก็ผลักดันให้ราคาพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์
ชัมกล่าวว่าราคาน้ำมันที่ลดลงมาเล็กน้อยเมื่อวันศุกร์เป็นผลมาจากการเทขายทำกำไร และมีแนวโน้มที่ราคาจะพุ่งทะลุ 100 ดอลลลาร์อีกครั้ง ในอีกสองสามวันข้างหน้า เพราะอาจมีเงินจำนวนมากไหลบ่าเข้าสู่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากนักลงทุนจะสร้างสมดุลในพอร์ตลงทุนของตนเอง ในช่วงต้นปี
ผลกระทบจากราคาน้ำมันที่พุ่งสูงลิ่วและเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงนั้น ทำให้ราคาทองคำพุ่งทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง โดยราคาทองในตลาดนิวยอร์ก เมื่อวันพฤหัสบดี ซื้อขายกันที่ 870 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองที่ตลาดในฮ่องกง เมื่อวันศุกร์ ปิดการซื้อขายที่ 861.80 - 862.30 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์