รอยเตอร์ - ถ้าคุณไปทำงานสายเพราะรถติด คนคุยโทรศัพท์ขณะขับรถอาจเป็นต้นเหตุนั้นก็ได้ คณะนักวิจัยในสหรัฐฯเผยเมื่อวันพุธ(2)
งานศึกษาล่าสุดพบว่า การคุยโทรศัพท์ขณะขับรถมีผลต่อจราจรบนท้องถนน "มันเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเปลี่ยนความเร็ว" ปีเตอร์ มาร์ติน จากห้องแล็บจราจร มหาวิทยาลัยยูทาห์ กล่าว
มาร์ตินและทีมนักวิจัย ให้นักศึกษา 36 คน ขับรถเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร 6 ครั้ง ซึ่งมีทั้งการจราจรคับคั่งน้อยไปถึงมาก โดยให้ใช้ความเร็วเหมือนกับเวลาขับบนทางหลวงระหว่างมลรัฐ
คนขับเหล่านั้นขับรถครึ่งทางพร้อมคุยโทรศัพท์โดยไม่ได้ใช้มือถือเครื่อง ส่วนอีกครึ่งทางไม่ได้คุยโทรศัพท์ พวกเขาต้องจำกัดความเร็วตามป้ายสัญญาณและต้องเปิดไฟให้สัญญาณหากจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน เรื่องอื่นนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ขับ
ผลที่พวกเขาพบก็คือ เมื่อคนขับเสียสมาธิจากการคุยโทรศัพท์ พวกเขาจะเปลี่ยนเลนน้อยลง ขับช้าลง และใช้เวลาถึงที่หมายนานกว่า
ในสภาพการจราจรคับคั่งระดับกลางและสูง คนขับจะเปลี่ยนเลนลดลงราว 20% พวกเขายังใช้เวลาตามท้ายรถคันหน้าที่ขับช้า นานกว่าเดิม 20-50 วินาที ก่อนจะเปลี่ยนไปเข้าเลนที่ว่าง และพวกเขาขับช้ากว่าคนที่ไม่เสียสมาธิประมาณ 3.2 กม.ต่อชั่วโมง และใช้เวลาถึงที่หมายนานกว่า 15-19 วินาที
"กระแสจราจรที่เคลื่อนช้าลงในปริมาณเล็กน้อยนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็นปริมาณมหาศาล ถ้าคุณคิดรวมถนนตลอดสาย และคิดรวมทั่วประเทศ" มาร์ตินกล่าว ทั้งนี้ การศึกษาจำนวนมากพบว่า ผู้ขับขี่ในสหรัฐฯใช้โทรศัพท์ขณะขับรถมากถึง 10% ในเวลาเดียวกัน
งานศึกษาล่าสุดพบว่า การคุยโทรศัพท์ขณะขับรถมีผลต่อจราจรบนท้องถนน "มันเกี่ยวข้องกับปฏิกิริยาตอบสนองต่อการเปลี่ยนความเร็ว" ปีเตอร์ มาร์ติน จากห้องแล็บจราจร มหาวิทยาลัยยูทาห์ กล่าว
มาร์ตินและทีมนักวิจัย ให้นักศึกษา 36 คน ขับรถเป็นระยะทาง 15 กิโลเมตร 6 ครั้ง ซึ่งมีทั้งการจราจรคับคั่งน้อยไปถึงมาก โดยให้ใช้ความเร็วเหมือนกับเวลาขับบนทางหลวงระหว่างมลรัฐ
คนขับเหล่านั้นขับรถครึ่งทางพร้อมคุยโทรศัพท์โดยไม่ได้ใช้มือถือเครื่อง ส่วนอีกครึ่งทางไม่ได้คุยโทรศัพท์ พวกเขาต้องจำกัดความเร็วตามป้ายสัญญาณและต้องเปิดไฟให้สัญญาณหากจะเลี้ยวหรือเปลี่ยนเลน เรื่องอื่นนั้นขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้ขับ
ผลที่พวกเขาพบก็คือ เมื่อคนขับเสียสมาธิจากการคุยโทรศัพท์ พวกเขาจะเปลี่ยนเลนน้อยลง ขับช้าลง และใช้เวลาถึงที่หมายนานกว่า
ในสภาพการจราจรคับคั่งระดับกลางและสูง คนขับจะเปลี่ยนเลนลดลงราว 20% พวกเขายังใช้เวลาตามท้ายรถคันหน้าที่ขับช้า นานกว่าเดิม 20-50 วินาที ก่อนจะเปลี่ยนไปเข้าเลนที่ว่าง และพวกเขาขับช้ากว่าคนที่ไม่เสียสมาธิประมาณ 3.2 กม.ต่อชั่วโมง และใช้เวลาถึงที่หมายนานกว่า 15-19 วินาที
"กระแสจราจรที่เคลื่อนช้าลงในปริมาณเล็กน้อยนี้ จะเพิ่มขึ้นเป็นปริมาณมหาศาล ถ้าคุณคิดรวมถนนตลอดสาย และคิดรวมทั่วประเทศ" มาร์ตินกล่าว ทั้งนี้ การศึกษาจำนวนมากพบว่า ผู้ขับขี่ในสหรัฐฯใช้โทรศัพท์ขณะขับรถมากถึง 10% ในเวลาเดียวกัน