ผู้จัดการรายวัน - ครม.เห็นชอบกรอบชดเชยเสียงสุวรรณภูมิใหม่ โดยยกเลิก 2 มติเดิม พร้อมมอบคมนาคม สำนักงบฯ และทอท.ประสานกรมโยธาธิการและผังเมืองศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินรอบสนามบินแก้ปัญหาระยะยาว โยนชดเชยก่อสร้างหลังปี 44 ให้คลังรับภาระ โดยให้สรุปรายละเอียดเม็ดเงินเสนอรัฐบาลใหม่
นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วานนี้ (2 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองคณะที่ 1 ที่มีนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว อุตสาหกรรมเป็นประธาน เรื่องการแก้ไขปัญหามลพิษทางเสียงบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เสนอให้มีการทบทวนมติครม.วันที่ 21 พ.ย. 2549 และมติครม.วันที่ 29 พ.ค.2550 เกี่ยวกับการแก้ปัญหามลพิษทางเสียง เรื่องการประเมิน การใช้มาตรฐานทางเทคนิคเพื่อลดมลภาวะทางเสียงกำหนดการขึ้นลง การปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินให้มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยให้ดำเนินการชดเชยต่อเนื่องตามสถานการณ์การบินจริงในปัจจุบัน
ทั้งนี้พื้นที่ได้รับผลกระทบทางเสียง NEF มากกว่า 40 ให้จัดซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากเจ้าของไม่ประสงค์จะขายให้ทำการปรับปรุง ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบ NEF 30-40 ให้ดำเนินการปรับปรุงหรือชดเชยสิ่งปลูกสร้าง หรือจัดซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหากเจ้าของต้องการขายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พิจารณารับซื้อ โดยแนวทางการรับซื้อหรือชดเชยทางการเงิน ให้ทอท.เข้าชดเชยเฉพาะส่วนที่ก่อนปลูกสร้างก่อนวันที่ 31 ธ.ค. 2544 ส่วนสิ่งปลูกสร้างหลังวันที่ 31 ธ.ค.2544-28 ก.ย.2549 ให้สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง รับภาระทางการเงินในการชดเชย ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการร่วม 3 ฝ่าย(ไตรภาคี)
นอกจากนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับสำนักงบประมาณทอท.ดำเนินการศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินรอบสนามบินให้เกิดความชัดเจน โดยประสานกับกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อให้การใช้ที่ดินรอบสนามบินเกิดประโยชน์สูงสุดโดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชนในการจัดวางผังเมืองโดยให้พิจารณาตามพ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2547 เป็นหลัก
“ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอคณะกรรมการไตรภาคี แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องการจ่ายเงิน แต่คาดว่าจะมีการหารือการจ่ายเงินชดเชยในรัฐบาลหน้า ส่วนข้อเสนอคือให้มีการยกเลิกมติครม.2 ครั้ง และให้ทอท.เร่งรัดดำเนินการชดเชยให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ” นายไชยา กล่าว
นายไชยา ยิ้มวิไล โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วานนี้ (2 ม.ค.) ว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอผ่านคณะกรรมการกลั่นกรองคณะที่ 1 ที่มีนายโฆสิต ปั้นเปี่ยมรัษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว อุตสาหกรรมเป็นประธาน เรื่องการแก้ไขปัญหามลพิษทางเสียงบริเวณท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ที่เสนอให้มีการทบทวนมติครม.วันที่ 21 พ.ย. 2549 และมติครม.วันที่ 29 พ.ค.2550 เกี่ยวกับการแก้ปัญหามลพิษทางเสียง เรื่องการประเมิน การใช้มาตรฐานทางเทคนิคเพื่อลดมลภาวะทางเสียงกำหนดการขึ้นลง การปรับเปลี่ยนเส้นทางการบินให้มีผลกระทบต่อประชาชนน้อยที่สุด โดยให้ดำเนินการชดเชยต่อเนื่องตามสถานการณ์การบินจริงในปัจจุบัน
ทั้งนี้พื้นที่ได้รับผลกระทบทางเสียง NEF มากกว่า 40 ให้จัดซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง หากเจ้าของไม่ประสงค์จะขายให้ทำการปรับปรุง ส่วนพื้นที่ได้รับผลกระทบ NEF 30-40 ให้ดำเนินการปรับปรุงหรือชดเชยสิ่งปลูกสร้าง หรือจัดซื้อที่ดินและสิ่งปลูกสร้างหากเจ้าของต้องการขายให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) พิจารณารับซื้อ โดยแนวทางการรับซื้อหรือชดเชยทางการเงิน ให้ทอท.เข้าชดเชยเฉพาะส่วนที่ก่อนปลูกสร้างก่อนวันที่ 31 ธ.ค. 2544 ส่วนสิ่งปลูกสร้างหลังวันที่ 31 ธ.ค.2544-28 ก.ย.2549 ให้สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลัง รับภาระทางการเงินในการชดเชย ซึ่งเป็นไปตามข้อเสนอของคณะกรรมการร่วม 3 ฝ่าย(ไตรภาคี)
นอกจากนี้เพื่อเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาวให้กระทรวงคมนาคมร่วมกับสำนักงบประมาณทอท.ดำเนินการศึกษาการใช้ประโยชน์ที่ดินรอบสนามบินให้เกิดความชัดเจน โดยประสานกับกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อให้การใช้ที่ดินรอบสนามบินเกิดประโยชน์สูงสุดโดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประชาชนในการจัดวางผังเมืองโดยให้พิจารณาตามพ.ร.บ.จัดรูปที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่ พ.ศ.2547 เป็นหลัก
“ครม.เห็นชอบตามข้อเสนอคณะกรรมการไตรภาคี แต่ไม่มีการพูดถึงเรื่องการจ่ายเงิน แต่คาดว่าจะมีการหารือการจ่ายเงินชดเชยในรัฐบาลหน้า ส่วนข้อเสนอคือให้มีการยกเลิกมติครม.2 ครั้ง และให้ทอท.เร่งรัดดำเนินการชดเชยให้กับประชาชนผู้ได้รับผลกระทบ” นายไชยา กล่าว
