'ไชยชนก' ร่วมประชุม UNODC กับ 58 ประเทศ ย้ำโลกดิจิทัลต้องอยู่ใต้กฎหมาย ชี้ปราบสแกมเมอร์เป็นวาระแห่งโลก เดินหน้าคุมเทคโนโลยี-ข้อมูลส่วนบุคคล สร้างความเชื่อมั่นคนไทยปลอดภัยจากภัยหลอกลวงออนไลน์
เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.68 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถ้อยแถลง ระหว่างการประชุมระดับสูง (High-Level segment) ในการประชุมระหว่างประเทศว่าด้วยหุ้นส่วนระดับโลกเพื่อต่อต้านอาชญากรรมหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งกระทรวงต่างประเทศ และสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Office on Drugs and Crime: UNODC) เป็นเจ้าภาพการจัดงานร่วมกัน โดยมีรัฐมนตรี และผู้แทนระดับสูง จาก 58 ประเทศ สหภาพยุโรป 5 องค์การระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม และภาควิชาการ เข้าร่วม
นายไชยชนก กล่าวว่า ปัจจุบันทั่วโลกต่างตระหนักถึงความรุนแรงของการหลอกลวงออนไลน์และความเชื่อมโยงกับอาชญากรรมร้ายแรงอื่นๆ อาทิ การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน โดยรัฐบาลไทยได้กำหนดให้ประเด้นนี้เป็น "วาระแห่งชาติ" ขณะที่ สหประชาชาติเองก็ได้กำหนดให้เป็น "วาระแห่งโลก"
ปฏิเสธไม่ได้ว่าบทบาทของเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของประชาชน โดยมาพร้อมกับความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเป็นเครื่องมือของเครือข่ายอาชญากรรม หากไม่มีการกำกับดูแลที่ดี ซึ่งตนขอยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีที่มีการเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคล (biometric) และสินทรัพย์ดิจิทัล มาใช้เพื่อหลอกลวงคนไทย
ล่าสุด ได้สั่งให้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) หรือ PDPC ระงับกิจกรรมดังกล่าวที่อาจขัดต่อ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA พร้อมกับการตรวจสอบ เฝ้าระวังการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
"ความก้าวหน้าของนวัตกรรมนั้น จำเป็นที่จะต้องมาพร้อมกับการสร้างความเชื่อมั่นการใช้งานเทคโนโลยีให้กับประชาชน ภายใต้ความปลอดภัย ซึ่งหมายถึงความชัดเจนทางกฎหมาย การบังคับใช้กฎหมาย และการมีธรรมาภิบาลที่ดี โดยมีหลักการว่าโลกดิจิทัลไม่ใช่พื้นที่ไร้กฎหมาย แต่ต้องเป็นพื้นที่ซึ่งเคารพสิทธิ และมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และประเทศไทยพร้อมที่จะร่วมมือกับพันธมิตรทุกภาคส่วนในการต่อสู้กับการหลอกลวงออนไลน์" นายไชยชนก กล่าว


