'ไชยชนก' เปิดมติ สมช. คุมเข้มเน็ตข้ามแดน ย้ำลากสายข้ามประเทศคือภัยความมั่นคง แม้ผ่อนคลายสัญญาณชั่วคราว สั่ง กสทช.ใช้ยาแรง ปรับ-พักใบอนุญาต ผู้ประกอบการละเลยต้องร่วมรับผิดชอบ
นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า แม้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามพระราชกำหนดฯ มาตรา 13 จะมีมติผ่อนปรนการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือในพื้นที่ชายแดน เพื่อเอื้อต่อการสื่อสารด้านความมั่นคงเป็นการเฉพาะกาลก็ตาม อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ซึ่งมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ยังคงมีมติชัดเจนให้การลากสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ถือเป็นภัยต่อความมั่นคง และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ดำเนินมาตรการอย่างเข้มงวดและเด็ดขาด
นายไชยชนก กล่าวว่า หากตรวจพบการกระทำความผิด หรือพบว่ามีการปล่อยปละละเลยให้เกิดการลากสายสัญญาณอินเทอร์เน็ตข้ามแดน ให้ กสทช.ดำเนินการลงโทษขั้นสูงสุดในทันที ทั้งในส่วนของการปรับและการพักใช้ใบอนุญาต โดยไม่ใช่เพียงการตักเตือนเชิงสัญลักษณ์ พร้อมกันนี้ ยังได้กำชับให้ กสทช.เร่งประชุมชี้แจงแนวทางและมาตรการดังกล่าวแก่ผู้ประกอบการทุกรายอย่างเร่งด่วน ควบคู่กับการจัดให้มีการตรวจสอบเชิงรุกอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับอาชญากรรมออนไลน์หรือขบวนการแก๊งสแกมเมอร์ ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องจะต้องร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับประชาชนโดยตรง
"รัฐบาลยังคงเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์และแก๊งสแกมเมอร์อย่างจริงจังและต่อเนื่อง แม้จะมีการผ่อนปรนการใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือในบางพื้นที่ชายแดนเพื่อรองรับภารกิจด้านความมั่นคงก็ตาม แต่ในทางปฏิบัติ ที่ประชุม สมช.มีมติให้คุมเข้มเป็นพิเศษในกรณีการลากสายสัญญาณข้ามแดน ซึ่งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในช่องทางสำคัญที่กลุ่มมิจฉาชีพใช้ก่ออาชญากรรมและสร้างความเสียหายให้กับประชาชนชาวไทยในวงกว้าง" นายไชยชนก กล่าว
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้กำหนดให้การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดร้ายแรงในหมวด 2 ความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113-118 และมอบหมายให้ กสทช.เร่งรัดบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างจริงจังกับผู้ประกอบการที่มีส่วนเกี่ยวข้องหรือเพิกเฉยต่อการกระทำผิด โดยมีบทลงโทษทั้งทางปกครองและทางกฎหมายอย่างชัดเจน


