AIS ระดมวิศวกร ช่วยกู้วิกฤตน้ำท่วมหาดใหญ่ พร้อมเฝ้าระวังบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง เผยภารกิจด่วน 24 ชม. เน้นรักษาโครงข่ายเพื่อให้ใช้งานสื่อสารได้มากที่สุด นำ “พาวเวอร์แบงค์” ในคลังเร่งจัดส่งให้ผู้ประสบภัย #น้ำท่วมภาคใต้
นายปรัธนา ลีลพนัง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่และจังหวัดใกล้เคียง โดยยอมรับว่าเป็นสถานการณ์ที่วิกฤตและมีความยากลำบากในการปฏิบัติงาน เนื่องจากกระแสน้ำที่เชี่ยว และระดับน้ำที่สูง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าและสถานีฐาน
ภารกิจสำคัญที่สุดของ AIS ในขณะนี้คือการทำให้สัญญาณโทรศัพท์ และโมบายอินเทอร์เน็ต ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ประชาชนยังคงติดต่อสื่อสารและขอความช่วยเหลือได้ บนอุปสรรคใหญ่คือ การไม่มีไฟฟ้า เนื่องจากการไฟฟ้าจำเป็นต้องตัดไฟเพื่อความปลอดภัย ประกอบกับระดับน้ำที่สูงทำให้อุปกรณ์ปั่นไฟในพื้นที่ต่ำจมน้ำเสียหาย และรถโมบายล์ ไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ได้
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว AIS ได้นำเทคโนโลยีทั้งการใช้ระบบดาวเทียมร่วมกับ GISTDA เพื่อสำรวจพื้นที่ประสบภัย พร้อมปรับการทำงานของสถานีฐานที่ตั้งอยู่บนที่สูงทั้ง 3 แห่ง เป็นตัวกระจายสัญญาณหลักแทนเสาในเมืองราว 50-60 แห่ง ที่ถูกน้ำท่วมตัดขาด เพื่อช่วยประคองระบบสื่อสารในภาพรวมให้ยังคงใช้งานได้
"จากข้อมูลการเชื่อมต่อเครือข่ายของลูกค้าในพื้นที่ คาดว่ามีประชาชนอยู่ในพื้นที่หลักแสนราย"
เบื้องต้น AIS ได้เปิดให้ลูกค้าที่ใข้งานในพื้นที่ประสบภัย ได้รับ ค่าโทร 100 นาที และอินเทอร์เน็ต 10GB ทั้งระบบเติมเงินและรายเดือน ใช้งานได้ 7 วัน แบบอัตโนมัติ โดยจะมี SMS แจ้งยืนยัน พร้อมขยายเวลาชำระค่าบริการลูกค้ารายเดือน และ AIS 3BB Fibre3 ออกไปด้วย
ขณะเดียวกัน AIS ได้ส่งทีมวิศวกรเข้าประจำการในพื้นที่แล้วกว่า 40-50 คน และกำลังส่งทีมเสริมจากในภูมิภาคอีก 20-30 ทีม พร้อมลงไปสนับสนุนเพิ่มเติม โดยทำงานร่วมกับศูนย์บัญชาการภาครัฐอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังได้นำ “พาวเวอร์แบงค์” จากคลังสินค้าทั้งหมดที่มี ไปให้ผู้ประสบภัยที่ขาดแคลน และทีมกู้ภัยในพื้นที่ เพื่อใช้เป็นไฟฟ้าสำหรับสำรองในการชาร์จมือถือ ทำให้ไม่ขาดการติดต่อสื่อสารในภาวะสำคัญนี้
พร้อมกันนี้ AIS ยังได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือในอีก 2 จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบต่อไป คือ จ.สตูล และ จ.นครศรีธรรมราช และคาดหวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลายในเร็ววัน พร้อมยืนยันที่จะดูแลเครือข่าย และการสื่อสารอย่างเต็มที่ 100%


