xs
xsm
sm
md
lg

เงินทุนเทา!? Meta เคลื่อนไหวแล้ว ปฏิเสธทุกข้อหาหลังทำเงิน 5.6 แสนลบ.จากโฆษณาหลอกลวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมต้า (Meta) เคลื่อนไหวแล้วหลังจากมีเอกสารหลุดว่าทำรายได้ถึง 5.6 แสนล้านบาทจากโฆษณาหลอกลวง ล่าสุดยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียออกมาแจงว่าเอกสารรั่วไหลนั้นนำเสนอข้อมูลด้านเดียว และไม่ได้สะท้อนความพยายามเต็มรูปแบบของบริษัทในการแก้ปัญหา

การปฏิเสธครั้งนี้เกิดขึ้นพร้อมกับที่ MCMC หรือ กสทช. มาเลเซียได้เรียกตัว Meta มาชี้แจง หลังประเมินว่าเฉพาะมาเลเซียอาจมีรายได้จากโฆษณาปัญหาถึง 1,900 ล้านบาท

***โต้รายงานของ Reuters

โฆษกของ Meta ได้ให้สัมภาษณ์กับ New Straits Times โดยออกมาตอบโต้รายงานของ Reuters อย่างเต็มที่

Meta ยืนยันว่าบริษัทต่อสู้กับการฉ้อโกงและหลอกลวงอย่างจริงจัง พร้อมให้เหตุผลว่าบริษัทไม่ได้ต้องการเนื้อหาเหล่านี้ เพราะผู้ใช้ไม่ต้องการ

ประเด็นสำคัญของการตอบโต้จาก Meta มี 3 ข้อหลัก ข้อแรกคือเอกสารที่รั่วไหลนำเสนอเพียงมุมมองเดียว โดยโฆษก Meta กล่าวว่าน่าเสียดายที่เอกสารที่รั่วไหลนำเสนอเพียง "มุมมองที่เลือกสรร" ซึ่งบิดเบือนแนวทางของ Meta ในการต่อสู้กับการฉ้อโกง

ตัวอย่างโฆษณาหลอกลวงในไทย
Meta อ้างว่า เอกสารเหล่านั้นเน้นเฉพาะ "ความพยายามในการประเมินขนาดของปัญหา" แต่ไม่ได้แสดงถึง "การดำเนินการแก้ปัญหาอย่างครบถ้วน" ที่บริษัทได้ทำจริงๆ

ข้อที่ 2 คือนักต้มตุ๋นพัฒนาเทคนิคซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ โดย Meta ยอมรับว่า scammer หรือนักต้มตุ๋นเหล่านี้ ไม่ใช่มือสมัครเล่น แต่เป็นเครือข่ายข้ามประเทศที่มีความซับซ้อน ดังนั้นเมื่อกิจกรรมการหลอกลวงมีความต่อเนื่องและซับซ้อนมากขึ้น ความพยายามของ Meta ก็พัฒนาไปตามด้วยเช่นกัน

ข้อที่ 3 คือ Meta กำลังพัฒนาระบบอยู่ตลอดเวลา โดย Meta เน้นย้ำว่าการต่อสู้กับโฆษณาหลอกลวงเป็นกระบวนการต่อเนื่อง ไม่ใช่แค่ทำครั้งเดียวแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่ Meta ย้ำอยู่เสมอ

หากย้อนดูว่า รายงานของ Reuters ระบุอะไรไว้บ้าง พบว่ารายงานอ้างเอกสารภายในของ Meta ว่า บริษัทประเมินเมื่อปลายปี 2567 ว่าประมาณ 10% ของรายได้ทั่วโลกต่อปี หรือราว 16,000 ล้านดอลลาร์ (5.6 แสนล้านบาท) มาจากโฆษณาที่เชื่อมโยงกับการหลอกลวงและสินค้าต้องห้าม

โฆษณาเหล่านี้รวมตั้งแต่โครงการหลอกลวงอีคอมเมิร์ซและการลงทุน, คาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมาย, และการขายยาต้องห้าม
นอกจากนี้ เอกสารภายในแสดงให้เห็นว่า Meta สร้างรายได้ราว 7,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากโฆษณาหลอกลวงที่มีความเสี่ยงสูง ซึ่งชัดเจนว่าเป็นการฉ้อโกง

ผู้ใช้เห็นโฆษณาเหล่านี้ราว 15,000 ล้านครั้งต่อวัน

และที่น่าสนใจคือ รายงานยังระบุว่า เอกสารบางฉบับแสดงให้เห็นความกังวลของ Meta ว่า การตัดโฆษณาฉ้อโกงออกทันทีอาจกระทบแผนธุรกิจ

***มาเลเซียเริ่มแล้ว ไทยว่าอย่างไร?


ดาตุ๊ก ฟาห์มี ฟัดซิล (Datuk Fahmi Fadzil) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการสื่อสารของมาเลเซีย ออกมาแสดงความกังวลว่าหากตัวเลขในรายงานเป็นจริง มาเลเซียเพียงประเทศเดียวอาจมีรายได้จากโฆษณาหลอกลวงและการพนันมากกว่า 250 ล้านริงกิต หรือประมาณ 1,900 ล้านบาท

MCMC หรือคณะกรรมการกิจการสื่อสารของมาเลเซีย จึงประกาศว่าจะมีการเรียกตัว Meta มาชี้แจงข้อกล่าวหา และได้เริ่มดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้แล้ว เนื่องจากข้อกล่าวหาเหล่านี้น่ากังวลอย่างยิ่ง และอาจเป็นการละเมิดความไว้วางใจของสาธารณะและกฎหมายของประเทศ หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นความจริง

ตัวอย่างปัญหาโฆษณาหลอกลวงในไทย ที่มีความรุนแรงมาก
ตัวเลขที่น่าสนใจมากจาก MCMC คือระหว่างวันที่ 1 มกราคม ถึง 4 พฤศจิกายน 2568 ทาง MCMC ส่งคำร้องขอให้ลบโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Meta มากที่สุด (ทั้ง Facebook, Instagram, WhatsApp) โดยเป็นโฆษณาส่งเสริมการพนันออนไลน์ 157,208 รายการ, โฆษณาหลอกลวง 44,922 รายการ รวม 202,130 รายการ หรือกว่า 2 แสนรายการ

เมื่อเปรียบเทียบกับแพลตฟอร์มอื่นในช่วงเวลาเดียวกัน พบว่ามีการส่งคำข้อไปยัง YouTube ราว 45,448 รายการ, TikTok ราว 3,956 รายการ, Telegram 269 รายการ และ X (Twitter) เพียง 11 รายการ

สำหรับประเทศไทย หากคำนวณว่าถ้ามาเลเซียที่มีประชากรราว 34 ล้านคน มีรายได้จากโฆษณาปัญหาถึง 1,900 ล้านบาท ประเทศไทยที่มีประชากร 71 ล้านคน และเป็นหนึ่งในประเทศที่มีผู้ใช้ Facebook มากที่สุดในโลก อาจจะมีตัวเลขที่มากกว่า ซึ่งที่ผ่านมา ปัญหาโฆษณาหลอกลวงในไทยนั้นรุนแรงมาก ทั้งโฆษณาเงินกู้นอกระบบ โฆษณาลงทุนคริปโต Forex หุ้น โฆษณาของแบรนด์เนมปลอม และโฆษณาการพนันออนไลน์

สิ่งที่เราจะต้องจับตาต่อ คือหน่วยงานกำกับดูแลของไทย โดยเฉพาะ กสทช. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะมีการเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป.
กำลังโหลดความคิดเห็น