xs
xsm
sm
md
lg

Alphabet ทะลุ 3 ล้านล้านดอลล์ ลงทุน AI ที่อังกฤษ 5 พันล้านปอนด์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อัลฟาเบ็ต (Alphabet) บริษัทแม่กูเกิล (Google) มูลค่าหุ้นทะยานพุ่งทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 15 กันยายน 2025 หลังศาลสหรัฐฯ ตัดสินคดีต่อต้านการผูกขาดด้วยบทลงโทษที่เบากว่าคาด ล่าสุด Alphabet ประกาศลงทุน 5 พันล้านปอนด์ใน AI ที่อังกฤษ สร้างศูนย์ข้อมูลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน Waltham Cross คาดศูนย์ข้อมูลใหม่ในอังกฤษจะใช้พลังงานปลอดคาร์บอน 95%

การลงทุนในอังกฤษของ Alphabet นี้ถูกประกาศก่อนการเยือนของทรัมป์ ซึ่งตอกย้ำ "ความสัมพันธ์พิเศษด้านเทคโนโลยีสหรัฐฯ-อังกฤษ" กระตุ้นเงินปอนด์แข็งค่าและความมั่นใจนักลงทุน ด้าน Google Cloud เติบโต 32% พร้อมกับที่ Gemini แซงหน้า ChatGPT ส่ง Alphabet ขึ้นแท่นผู้นำ AI โลก ดันหุ้นพุ่ง 4.5% ในไม่กี่ชั่วโมง

*** 2 วันนาทีทอง

ในช่วงวันที่ 15-16 กันยายน 2025 ถือเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับ Alphabet ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Google โดยหุ้นของบริษัทพุ่งขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จนทำให้มูลค่าตลาดรวมทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

หุ้น Alphabet เพิ่มขึ้นราว 4.5% ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
สาเหตุหลักมาจากความมั่นใจของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นจากคำตัดสินคดีต่อต้านการผูกขาดที่เป็นใจดีกว่าที่คาด รวมถึงโมเมนตัมด้าน AI ที่กำลังร้อนแรง

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน หุ้น Alphabet ได้เปิดตลาดที่ราคา 244.66 ดอลลาร์ และพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วตลอดทั้งวัน โดยทำจุดสูงสุดที่ 252.41 ดอลลาร์ และปิดตลาดที่ 251.61 ดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นราว 4.5% จากราคาปิดวันก่อนหน้า ปริมาณการซื้อขายสูงถึง 58 ล้านหุ้น ส่งผลให้มูลค่าตลาดรวม (Market Cap) ของ Alphabet ทะลุ 3 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก ทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทที่ 4 ในโลกที่ทำได้ ตามหลัง Nvidia (4.25 ล้านล้าน), Microsoft (3.8 ล้านล้าน) และ Apple (3.5 ล้านล้าน)

นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่เกิดขึ้นเพียง 20 ปีหลังจาก Google เข้าตลาดหุ้นครั้งแรกในปี 2004 และ 10 ปีหลังจากก่อตั้ง Alphabet ในฐานะบริษัทโฮลดิ้ง

การเติบโตของธุรกิจคลาวด์ Google Cloud เพิ่มขึ้น 32% ในปีนี้
หนึ่งในสาเหตุสำคัญของภาวะหุ้นพุ่งนี้ คือคำตัดสินคดีต่อต้านการผูกขาดในช่วงต้นเดือนกันยายน โดยศาลสหรัฐฯ ตัดสินคดีที่กระทรวงยุติธรรม (DOJ) ฟ้อง Google เรื่องการผูกขาด โดยผู้พิพากษาตัดสินให้บทลงโทษเบากว่าที่นักลงทุนกลัว ไม่สั่งให้แยกกิจการ เช่น ไม่ต้องขาย Chrome หรือ Android ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงใหญ่ นักลงทุนมองว่านี่เป็นชัยชนะสำหรับ Alphabet ส่งผลให้หุ้นพุ่งขึ้นกว่า 30% นับตั้งแต่คำตัดสินถูกประกาศ

นอกจากนี้ยังมีโมเมนตัม AI ที่ร้อนแรง โดย Alphabet กำลังได้รับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในฐานะผู้นำ AI โดยเฉพาะ Gemini ซึ่งแซงหน้า ChatGPT ในด้านประสิทธิภาพ และการเติบโตของธุรกิจคลาวด์ (Google Cloud) ที่เพิ่มขึ้น 32% ในปีนี้ นอกจากนี้ รายได้ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 15% จากความต้องการผลิตภัณฑ์ AI โดยนักวิเคราะห์จาก Citi ตัดสินใจยกระดับราคาเป้าหมายขึ้นอีก 24% สะท้อนความมั่นใจในแผนลงทุน AI ที่ Alphabet กำลังเทเงินสดทั้งหมดไปกับการพัฒนาชิปและโมเดล AI

ภาวะหุ้นพุ่งของ Alphabet ยังเป็นผลจาหภาพรวมตลาดที่เอื้ออำนวย โดยหุ้นเทคทั้งหมดกำลังขึ้นและ Alphabet เป็นผู้นำในกลุ่มด้วยการเพิ่มขึ้น 32% ตั้งแต่ต้นปี เทียบกับ Nasdaq ที่ขึ้นเพียง 15% โดยนักลงทุนมองว่า Alphabet ไม่ใช่แค่บริษัทค้นหาอีกต่อไป แต่กำลังขยายไปยังธุรกิจอื่นๆ

การพุ่งขึ้นนี้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ถึงการประกาศลงทุนใหญ่จากบริษัทสหรัฐฯ ในอังกฤษ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมการก่อนการเยือนของประธานาธิบดีทรัมป์ นักวิเคราะห์เชื่อว่าการลงทุนเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและเสริมความสัมพันธ์สหรัฐฯ-อังกฤษ โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยี AI ซึ่ง Alphabet กำลังเป็นผู้นำ

***ลงทุนในอังกฤษ

วันอังคารที่ 16 กันยายน หุ้น Alphabet เปิดตลาดที่ 252.13 ดอลลาร์ ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 253.04 ดอลลาร์ ก่อนปิดที่ 251.69 ดอลลาร์ ซึ่งแม้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากวันก่อน แต่ยังคงรักษาระดับสูงไว้ได้ โดยปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ราว 12 ล้านหุ้น

มูลค่าหุ้น Alphabet อัปเดทล่าสุด 16 กันยายน 2025
การเคลื่อนไหวนี้อาจได้รับแรงหนุนจากข่าวประกาศลงทุนครั้งใหญ่ในสหราชอาณาจักร ซึ่ง Alphabet เปิดเผยอย่างเป็นทางการในวันนั้น

ตามข่าวจาก BBC ทาง Alphabet ประกาศลงทุน 5 พันล้านปอนด์ (ราว 6.8 พันล้านดอลลาร์) ใน AI ของอังกฤษภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยเงินนี้จะใช้สำหรับโครงสร้างพื้นฐานและการวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้นสูง รวมถึงขยายศูนย์ข้อมูลมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน Waltham Cross, Hertfordshire

Alphabet ให้สัมภาษณ์ BBC ว่าอังกฤษมีโอกาสมหาศาลในการบุกเบิกงานวิจัยวิทยาศาสตร์ขั้นสูง เชื่อว่าจะส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และวิทยาศาสตร์ ในอีกด้าน การลงทุนนี้จะทำให้เกิดศูนย์ข้อมูลใหม่ที่ใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ ไม่ใช่น้ำ และนำความร้อนเหลือใช้ไปแจกจ่ายให้โรงเรียนและบ้านเรือนต่อไป.


กำลังโหลดความคิดเห็น