AIS เผยเหตุคนร้าย ‘ขโมยแบตเตอรี่สำรองเสาสัญญาณโทรศัพท์มือถือ’ ตั้งแต่ 1 ม.ค.66 กว่า 150 ครั้ง ไม่ต่ำกว่า 300 ลูก ในพื้นที่ห่างไกล คิดเป็นมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10 ล้านบาท โดยล่าสุดทำงานร่วมกับตำรวจจับกุมมิจฉาชีพ 6 คน พร้อมของกลางแบตเตอรี่ 114 ลูก
โดยในช่วงที่ผ่านมา คนร้ายได้ตระเวนลักทรัพย์ในพื้นที่หลายจังหวัดในภาคตะวันออก โดยเลือกพื้นที่ห่างไกล และไม่ค่อยมีกล้องวงจรปิด และยังพบว่าคนร้ายเป็นผู้มีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับระบบเสาสัญญาณโทรศัพท์ คาดว่าคนร้ายเป็นกลุ่มคนที่เคยประกอบอาชีพเกี่ยวกับการติดตั้งระบบในเสาสัญญาณโทรศัพท์
นายสมภพ กิตติวิรุฬห์วัฒน รักษาการหัวหน้างานปฏิบัติการภูมิภาค-ภาคตะวันออก เอไอเอส กล่าวว่า จากกรณีที่มีมิจฉาชีพขโมยแบตเตอรี่สถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอสในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับความเสี่ยงของการให้บริการสัญญาณเครือข่ายอย่างยิ่ง เนื่องจากทำให้สถานีฐานขาดระบบสำรองแหล่งพลังงาน
สำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมที่ได้ทำการติดตั้งกับเสาสัญญาณโทรศัพท์ มีไว้สำหรับเป็นกระแสไฟฟ้าสำรองกรณีหากมีเหตุไฟฟ้าดับ แบตเตอรี่จะทำงานจ่ายกระแสไฟฟ้าให้เสาสัญญาณโทรศัพท์ทำให้ประชาชนที่มีพื้นที่การใช้งานบริเวณเสาสัญญาณนั้นๆ ยังสามารถใช้สัญญาณโทรศัพท์ในการติดต่อสื่อสารได้ โดยในเสา 1 ต้น จะติดตั้งประมาณ 2-3 ลูก ราคาอยู่ที่ประมาณลูกละ 40,000 บาท ซึ่งแบตเตอรี่ลิเธียมประเภทนี้จะไม่ได้มีการนำมาขายตามท้องตลาด
คาดว่าคนร้ายได้กระทำกันเป็นขบวนการเครือข่าย โดยหลังจากที่คนร้ายได้ทำการลักทรัพย์แบตเตอรี่แล้ว จะรีบนำไปส่งขายให้กลุ่มรับซื้อของโจร ในราคาลูกละ 5,000-8,000 บาท จากนั้นนำไปลงขายในโซเชียล โดยเฉพาะกลุ่มที่รับติดตั้งแผงโซลาร์ ราคาลูกละ 12,000-14,000 บาท
ในครั้งนี้ซึ่งชุดสืบสวนสามารถรวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 7 คน และขออนุมัติศาลขอหมายค้นเพื่อตรวจยึดของกลางอีกจำนวน 8 จุด และสามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 6 ราย ตรวจยึดของกลางรวม จำนวน 114 ลูก
