รวบ “ช่างวิช” ลักอะไหล่เจ้าของอู่รถ ขายลงกลุ่มออนไลน์ อ้างได้ค่าจ้างไม่ยุติธรรม

ตำรวจสืบสวนนครบาลจับ “ช่างวิช” ลูกจ้างแอบขโมยอะไหล่เจ้าของอู่รถยนต์ ไปลงขายในกลุ่มออนไลน์ อ้างไม่ได้ค่าจ้างตามที่ตกลงกัน

วันนี้ (7 พ.ค.) พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.อรรชวศิษฎ์ ศรีบุญยมานนท์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.วิโรฒ จนุบุษย์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.ท.นิธิ ปิยะพันธุ์ รอง ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น. ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 3 ดำเนินการจับกุมตัว นายศุภวิชญ์ หรือช่างวิช อายุ 30 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ จ.61/2567 ลงวันที่ 30 มกราคม 2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ลักทรัพย์ที่เป็นของนายจ้างหรือที่อยู่ในครอบครองของนายจ้าง โดยให้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุม หรือรับของโจร” จับกุมได้บริเวณลานจอดรถร้านสะดวกซื้อ สาขาระยอง-บ้านค่าย( เชิงเนิน ) ต.น้ำคอก อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

โดยพฤติการณ์กล่าวคือ ผู้เสียหายเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถย่านบางกรวย นนทบุรี ซึ่งเป็นนายจ้างได้มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ กรณีที่ลูกจ้าง คือ นายศุภวิชญ์ ซึ่งเป็นช่างภายในอู่ซ่อมรถยนต์ของตนได้ลักถอดเอาอะไหล่รถยนต์ ไฟหน้ารถยนต์ กล่องควบคุมหลังคาไฟฟ้า มอเตอร์เบรกมือไฟฟ้า ไป และมาทราบภายหลังว่าได้นำไปขายในกลุ่มออนไลน์ชื่อว่า “คนรักษ์รถเบนซ์คลาสสิค” ทำให้ได้รับความเสียหายจึงมาแจ้งความร้องทุกข์

ในชั้นจับกุมนายศุภวิชญ์ ให้การปฏิเสธ โดยอ้างวกไปวนมาว่า ในระหว่างที่ตนได้ทำงานที่อู่ของผู้เสียหาย ย่านบางกรวย 5 -6 เดือน ตนไม่ได้รับค่าแรงที่ตกลงกันไว้ โดยตกลงเงินเดือนกันไว้ 30,000 บาท แต่ได้รับประมาณ 20,000 บาท ตนเห็นว่าไม่ยุติธรรมสำหรับตน จึงได้ทำการลักเอาไฟหน้ารถยนต์ กล่องควบคุมหลังคาไฟฟ้า ซึ่งเป็นอะไหล่รถเบนซ์ และได้ประกาศขายผ่านสื่อออนไลน์ หลังจากก่อเหตุได้หนีมาเป็นช่างอู่ซ่อมรถที่จ.ระยอง โดยได้รับเงินเดือน เดือนละ 50,000 บาท จากนั้นได้นำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.บางกรวย จว.นนทบุรี ดำเนินคดี

ตรวจสอบในฐานระบบข้อมูล ยังพบอีก 3 หมายจับ ดังนี้
1. ศาลแขวงที่นครปฐมที่ 91/2565 ลงวันที่ 17 มีนาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก” 2. ศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ 86/2565 ลงวันที่ 2 มีนาคม 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดฐานฉ้อโกง,พรบ.ว่าด้วยความผิดอันเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550” และ 3. ศาลแขวงนครปฐมที่ 45/2565 ลงวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ความผิดฐานยักยอก ทำให้เสียทรัพย์”

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากเตือนเจ้าของธุรกิจหรือผู้ประกอบการ ในปัจจุบันการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมพนักงานก่อนรับเข้าทำงานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในยุคปัจจุบันนั้นมิจฉาชีพมีทุกรูปแบบ ซึ่งเราอาจรู้หน้า แต่ไม่รู้ใจ และนายจ้างไม่สามารถทราบถึงข้อมูลอ่อนไหว หรือข้อมูลสำคัญอื่นๆได้ ฉะนั้นการเช็กประวัติอาชญากรรมก่อนรับคนเข้าทำงานจึงเป็นส่วนสำคัญ ส่วนการซื้อของมือสองออนไลน์ ระวังกลายเป็นรับซื้อของโจร ดังนั้นควรตรวจสอบประวัติการซื้อขายของบุคคล หรือร้านค้าให้ดีก่อน เพราะหากสินค้าที่ท่านได้ซื้อมานั้นเป็นสินค้าที่ได้มาจากการกระทำความผิดแล้ว ท่านอาจตกเป็นผู้ต้องหาที่เข้าข่ายกระทำความผิดฐาน “รับของโจร”