หัวเว่ย (Huawei) เขย่าตลาดฐานข้อมูลหรือดาต้าเบสบนคลาวด์ จัดโปรแกรมโปรโมต "เกาส์ดีบี" (GaussDB) เต็มสูบในไทย โชว์เคสช่วยธนาคารจีนทำ 67,000 รายการต่อวินาทีสุดราบรื่น
เซลีน เกา (Celine Cao) ซีอีโอหัวเว่ย คลาวด์ ประเทศไทย เผยว่า ประเทศไทยเป็นตลาดสำคัญท่ามกลางการเติบโตของหัวเว่ยในธุรกิจพลับลิกคลาวด์ทั่วโลกนอกจีนที่คิดเป็นสัดส่วน 110% โดยหลังจากการก่อตั้งธุรกิจในไทยมานานกว่า 25 ปี วันนี้ 4 ธนาคารจากกลุ่ม Top 5 ธนาคารหลักของไทยล้วนเป็นลูกค้าของหัวเว่ย เชื่อว่าการทำโครงการกระตุ้นการใช้งานหัวเว่ยคลาวด์ดาต้าเบสอย่าง GaussDB จะตอบความต้องการให้องค์กรไทยปรับตัวเข้ากับนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลไทยในงบประมาณที่รับได้
"เรามุ่งมั่นในการตอบโจทย์พันธมิตรธุรกิจ ยกระดับอีโคซิสเต็ม และตอบรับกับโอกาสใหม่ในอุตสหากรรม ทีมงานไทยของหัวเว่ยจะขยายการใช้งาน GaussDB ให้ผู้ใช้ที่จะได้รับการอบรมให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เราจะมีการจัดอบรมให้พาร์ตเนอร์ที่สนใจ คาดว่าจะไม่เพียงยกระดับ 200 ดาต้าเบสทั่วประเทศไทย แต่จะมีการขยายคอร์สเรียนและการใช้งานให้มากขึ้นในวงกว้าง"
หัวเว่ยมองว่าไทยเป็นตลาดที่สำคัญของ GaussDB เห็นได้ชัดจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยได้ประกาศแผนในปี พ.ศ.2567 เพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลของประเทศ และยกระดับความแข็งแกร่งในเวทีนานาชาติ ภารกิจหลักของคณะกรรมการนี้ ซึ่งนำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวง มีกลยุทธ์รวมทั้งหมด 7 ด้าน ซึ่งรวมถึงการส่งเสริมนวัตกรรม เสริมประสิทธิภาพบริการสาธารณะ และกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้งาน หนึ่งในนโยบายสำคัญคือนโยบาย Cloud First Policy ซึ่งมีเป้าหมายที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางคลาวด์ชั้นนำของภูมิภาค นโยบายนี้สนับสนุนให้มีการนำระบบคลาวด์มาใช้งานอย่างแพร่หลายเพื่อปรับปรุงโครงสร้างดิจิทัล ยกระดับคุณภาพการให้บริการของภาครัฐ และส่งเสริมการใช้งานข้อมูลขนาดใหญ่ อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญคือ กำหนดแผน AI Agenda ซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาโครงสร้าง AI ของประเทศไทย
สำหรับ Huawei Cloud GaussDB ถือเป็นฐานข้อมูลสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลและการยกระดับสู่ความอัจฉริยะของการให้บริการทางภาครัฐ อุตสาหกรรมการธนาคาร องค์กร ผู้ให้บริการโทรคมนาคม บริษัทอินเทอร์เน็ต และธุรกิจอื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย ไปสู่การเป็นศูนย์กลางดิจิทัลในยุค AI และการประมวลผลคลาวด์
จุดขายของ GaussDB ของหัวเว่ย คือการเป็นวิธีที่ดีกว่าในการจัดการฐานข้อมูล และเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าสำหรับฐานข้อมูล โดยสามารถตอบ 6 ความท้าทายในการจัดการฐานข้อมูลยุคใหม่ ได้แก่ การรับมือกับการเพิ่มขึ้นของปริมาณข้อมูลที่สำคัญ การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลที่สูงขึ้น การตอบสนองความต้องการของลูกค้า บริษัทหรือองค์กรสามารถเข้าถึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ การบริหารจัดการและบำรุงรักษาฐานข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การขจัดอุปสรรคจากการขยายตัวของธุรกิจ และการรักษาความเป็นเจ้าของข้อมูล การควบคุมการเข้าถึงข้อมูล หรือการตอบสนองต่อความล่าช้า
"หัวเว่ย Cloud GaussDB เป็นฐานข้อมูลที่น่าเชื่อถือสำหรับภารกิจที่สำคัญ โดยมีความสามารถในการให้บริการที่ให้ความเสถียรสูง มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย รองรับการขยายตัวของข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นได้ และมีความอัจฉริยะซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนี้ ยังมีความสะดวกในการติดตั้งและย้ายข้อมูลไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย"
หัวเว่ยเชื่อว่าความสามารถในการแข่งขันของ GaussDB คือความพร้อมใช้งาน เนื่องจากโซลูชันความสอดคล้องกันแบบคลัสเตอร์คู่ที่มีความเสถียรสูง การกู้คืนข้อมูลจากระยะไกลเมื่อเกิดเหตุรุนแรงอย่างมาก ซึ่งอยู่ห่างไกลกว่า 1,000 กิโลเมตร โดยไม่มี RPO (recovery point objective) ฐานข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชันที่มีความสำคัญสูงมากต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งความพร้อมใช้งานสูงมากเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง และไม่ก่อให้เกิดความผิดพลาดที่ทำให้เกิดการสูญเสียข้อมูล ความไม่สอดคล้องหรือการตอบสนองช้า ความพร้อมใช้งานของแอปพลิเคชันยังเกี่ยวเนื่องอย่างมากกับฐานข้อมูล จึงเป็นเหตุผลที่ความพร้อมใช้งานเป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่งสำหรับฐานข้อมูลหัวเว่ย คลาวด์
นอกจากนี้ ยังเด่นเรื่องประสิทธิภาพที่ระดับ 1.5 ล้าน tpmC สำหรับโหนดเดียวและ 15 ล้าน tpmC เมื่อใช้โหนด 32 สามารถค้นหาบันทึกหลายสิบพันล้านได้ในไม่กี่วินาที ขณะเดียวกัน ยังปลอดภัย เพราะฐานข้อมูลที่เข้ารหัสแบบซอฟต์แวร์อย่างเต็มรูปแบบ ได้รับการรับรอง CC EAL4+ ระดับสูงสุดด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรม นำไปสู่ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ที่มีการรับประกันความทนทานของข้อมูลสูงถึงสิบสองตัวเลข (99.9999999999%) มั่นใจได้ว่าข้อมูลมีความปลอดภัยและเชื่อถือได้
ในส่วนการรองรับการขยายตัวของข้อมูล หัวเว่ยย้ำว่าการขยายจากโครงสร้างเดิมที่มีทางออนไลน์ในเวลาไม่กี่นาที ทำให้สามารถมีโหนดมากกว่า 1,000 โหนดในอินสแตนซ์แบบกระจายเดี่ยว จึงง่ายต่อการจัดการการใช้งานพร้อมกันเป็นจำนวนมากและการสืบค้นข้อมูลที่ซับซ้อน GaussDB ยังเป็นฐานข้อมูลที่เป็น AI-native พร้อมความสามารถในการวิเคราะห์แบบ end-to-end ที่มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์สูงขึ้น 5 เท่าหรือมากกว่านั้น ทำให้การติดตั้งและย้ายฐานง่ายและยืดหยุ่น สามารถบริหารจัดการทรัพยากร โดยเฉพาะ vCPU แต่ละตัวได้อย่างเหมาะสม
ในอีกด้าน GaussDB ยังมีโซลูชันการย้ายฐานแบบครบวงจร โดยใช้เทคนิคการประเมินก่อนการย้ายฐานและเทคนิคการย้ายโครงสร้างของ UGO เพื่อแปลงโครงสร้างของฐานข้อมูลหลักเป็นโครงสร้างของ GaussDB โดยอัตโนมัติ และใช้ DRS เพื่อย้ายข้อมูลของฐานข้อมูลที่ไม่เหมือนกันผ่านทางออนไลน์
ปัจจุบัน GaussDB ของหัวเว่ยถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลาย มีการใช้งานฐานข้อมูลของหัวเว่ย คลาวด์มากกว่า 2,500 รายแล้วในหลายส่วนธุรกิจต่างๆ เช่น การเงิน รัฐบาล ธุรกิจดั้งเดิม อินเทอร์เน็ต และการผลิต โดยปัจจุบัน แอปพลิเคชันหลักภายในของหัวเว่ยทำงานได้อย่างราบรื่นบน GaussDB และฐานข้อมูลของหัวเว่ย คลาวด์ ถูกนำไปใช้งานในระบบหลักของธนาคารชั้นนำหลายแห่งทั่วโลก เช่น ธนาคารอุตสาหกรรมและพาณิชย์ของจีน ธนาคารเกษตร และธนาคารออมสินของจีน
1 ใน 2 กรณีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ GaussDB คือธนาคารชั้นนำของจีน PSBC เปลี่ยนสู่การใช้งานดิจิทัลด้วย GaussDB ทำให้สามารถประมวลผลธุรกรรมมากถึง 2 พันล้านรายการต่อวัน และ 67,000 รายการต่อวินาทีในช่วงเวลาพีกที่มีการใช้งานสูงสุดสำหรับลูกค้ารายบุคคลมากกว่า 650 ล้านคน ในสาขามากกว่า 40,000 แห่ง ความเร็วในการเชื่อมต่อเฉลี่ยถูกเร่งขึ้นเป็น 65 มิลลิวินาที ระยะเวลาประมวลผลเมื่อสิ้นสุดวันลดลงเหลือเพียง 197 นาที และการตั้งค่าดอกเบี้ยรวมใช้เวลาเพียง 25 นาทีเท่านั้น
อีกกรณีศึกษาคือ GaussDB ช่วยให้กรมการคลังส่วนภูมิภาคปรับปรุงการให้บริการสำคัญโดยใช้ระบบกระจาย (จังหวัดใหญ่แห่งหนึ่งในภาคเหนือของประเทศจีน): ข้อมูลหลักด้านการให้บริการถูกจัดการและแบ่งปันโดยใช้ระบบศูนย์กลาง เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการของบริการชำระเงินได้ถึง 60% ศูนย์ข้อมูลที่เป็นระบบเดี่ยวรองรับแผนกการเงินมากกว่า 140 แห่ง และสำนักงบประมาณมากกว่า 30,000 แห่ง ให้ความมั่นใจในการดำเนินการผ่านทางออนไลน์ของผู้ใช้ 20,000 คนพร้อมกันในช่วงเวลาสูงสุด และการชำระเงินที่มีความปลอดภัยมากกว่าหนึ่งหมื่นล้านหยวน
