'AIS' ผนึกกำลังเจ้าหน้าที่ตัดขาแก๊งคอลจีนเทา สะพายเป้ใส่เครื่องเกี่ยวสัญญาณตระเวนส่ง sms หลอกเหยื่อกลางสยาม
จากกรณีมีผู้แจ้งเบาะแสเกี่ยวกับ SMS หลอกลวง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่าย AIS สืบสวนจนพบว่า มีการใช้เครื่องจำลองสถานี (False Base Station) ในพื้นที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน จึงได้เปิดปฏิบัติการ "หักขาแก๊งอาชญากรรมข้ามชาติ" เพื่อหาข่าวและสืบสวนหาเครื่องจำลองสถานีดังกล่าว
จนกระทั่งพบชายต้องสงสัย 2 คน ซึ่งเป็นชาวฮ่องกง โดยชายคนหนึ่งสะพายกระเป๋าเป้ที่มีน้ำหนัก คาดว่าน่าจะเป็นเครื่องจำลองสถานีแบบพกพา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ติดตามและขออนุญาตตรวจค้นสิ่งของในกระเป๋าเป้ พบเครื่องจำลองสถานีจำนวน 1 เครื่อง ซึ่งเป็นเครื่องส่งข้อความ SMS ในลักษณะของการจำลองเสาส่งสัญญาณปลอมของเครือข่าย AIS โดยเครื่องดังกล่าวเป็นเครื่องวิทยุโทรคมนาคมที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก กสทช.
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมชาวจีน 2 คนในข้อหาฉ้อโกง โดยใช้เครื่องจำลองสถานีส่งสัญญาณคลื่นความถี่เดียวกับเครือข่ายเอไอเอส เพื่อส่งข้อความหลอกลวงให้ผู้คนที่อยู่ใกล้เครื่องในรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร โดยข้อความดังกล่าวหลอกให้เหยื่อแลกคะแนน AIS เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะตามมา ผู้ต้องหาทั้ง 2 เดินทางเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 มี.ค.67 และพักอาศัยอยู่ที่โรงแรมไอสนุกในกรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดของกลางและทรัพย์สินหลายรายการ รวมถึงเครื่องจำลองสถานี เครื่องโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสะพาย และรถจักรยานยนต์
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาในข้อหา "ร่วมกัน ทำ มี ใช้ นำเข้า นำออก หรือค้าซึ่งเครื่องวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต" "ร่วมกันตั้งสถานีวิทยุคมนาคมโดยไม่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้ออกใบอนุญาต" และ "ร่วมกันใช้คลื่นความถี่ในการประกอบกิจการโทรคมนาคมโดยไม่ได้รับอนุญาตอันมีลักษณะที่เป็นการประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่สาม"
โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลไปถึงตัวผู้จ้างวานและเครือข่ายของขบวนการนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและป้องกันปราบปรามขบวนการดังกล่าวให้เป็นไปอย่างรวดเร็วและเด็ดขาด นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังฝากประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนอย่ากดลิงก์ที่แนบมากับข้อความ SMS ที่ได้รับโดยเด็ดขาด เพราะอาจตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีได้
นายวรุณเทพ วัชราภรณ์ หัวหน้าฝ่ายงานธุรกิจสัมพันธ์ AIS กล่าวว่า มิจฉาชีพละเมิดการใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ของประชาชนมากขึ้น โดยใช้ชื่อผู้ส่งปลอมแปลงในนามขององค์กรต่างๆ เพื่อหลอกให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็น SMS จากหน่วยงานนั้นๆ จริง และล่อลวงให้กดลิงก์ แอดไลน์ หรือรูปแบบอื่นๆ จนก่อให้เกิดความเสียหายทั้งทรัพย์สินหรือข้อมูลส่วนบุคคล AIS ตรวจสอบพบความผิดปกติจากในระบบเครือข่าย และร่วมทำงานกับฝ่ายความมั่นคงทุกฝ่ายอย่างเต็มกำลังมาอย่างต่อเนื่องในการเฝ้าดูและติดตามพฤติกรรมของมิจฉาชีพตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านเทคโนโลยี Tracking & Monitoring จนสามารถคำนวณเส้นทางการเคลื่อนตัวอย่างละเอียด เพื่อค้นหาให้ถึงแหล่งกบดานของกลุ่มนี้และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภารกิจการทลายแก๊งมิจฉาชีพกลุ่มนี้สำเร็จลงได้
"AIS ขอแจ้งไปยังประชาชนว่าอย่าหลงเชื่อและให้ข้อมูลส่วนบุคคลผ่านการกดลิงก์ แอดไลน์ หรือตอบกลับ SMS รวมถึงงดให้ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น เลขบัตรประชาชน เลขบัตรเครดิต วันเดือนปีเกิด รวมทั้งรหัส OTP ในการทำธุรกรรมใดๆ แก่แหล่งที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ หากเป็นลูกค้า AIS หากพบกรณีผิดปกติสามารถโทร.แจ้งผ่านสายด่วน 1185 AIS Spam Report Center ได้ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง โดย AIS จะตรวจสอบร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป" นายวรุณเทพ กล่าว