กลุ่มทรูเปิดเผยรายละเอียดถึงแผนการดำเนินงานเพิ่มเติมในปี 2567 ที่คาดว่าจะสามารถทำกำไรได้ หลังปีที่ผ่านมาแนวโน้มรายได้ และ EBITDA ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการควบรวมระหว่างทรู และดีแทค วางงบลงทุนปีนี้ 30,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้เพิ่ม 3-4%
นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงแผนในการขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อทำให้เกิดกำไรในปี 2567 นี้ จะมาจาก 3 ส่วนหลักๆ คือ 1.การปรับปรุงเครือข่ายให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีมากยิ่งขึ้น 2.ขยายบริการดิจิทัลเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป และ 3.การรับรู้ผลประโยชน์ร่วมกันจากการควบรวมกิจการ
“เป้าหมายในการพัฒนาโครงข่ายของกลุ่มทรูในปีนี้ บนเป้าหมายของการเพิ่มความเร็ว 5G ให้เร็วขึ้น 2 เท่า และการก้าวขึ้นเป็นผู้นำเครือข่ายที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศไทย จากพื้นที่ให้บริการ 5G ที่ปัจจุบันครอบคลุม 99% ในพื้นที่กรุงเทพฯ และอีอีซี และครอบคลุม 90% จากพื้นที่ใช้งานของประชากร”
เบื้องต้น จากงบลงทุนที่วางไว้ในปีนี้ของกลุ่มทรู ราว 30,000 ล้านบาท ในการพัฒนาโครงข่ายระบบไอที และขยายการให้บริการบรอดแบนด์ เพื่อให้สามารถมีโอกาสในการเพิ่มฐานลูกค้าที่ใช้งาน 5G จากปัจจุบัน 10.5 ล้านราย เป็น 16 ล้านราย
ในจุดนี้ลูกค้าที่ใช้งานโทรศัพท์มือถือทั้งแบรนด์ทรูมูฟ เอช และดีแทค จะได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น หลังจากการรวมเสาซึ่งในปีที่ผ่านมาแล้วเสร็จไปแล้วกว่า 2,000 แห่ง และจะเพิ่มเป็น 10,000 แห่งภายในสิ้นปีนี้ จากแผนทั้งหมด 17,000 แห่ง
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเติบโตของลูกค้าเน็ตบ้าน ทรูออนไลน์ ที่แม้ว่าปัจจุบันอุตสาหกรรมบรอดแบนด์ไทยจะครอบคลุมพื้นที่ให้บริการ 19-20 ล้านครัวเรือน แต่มีการใช้งานอยู่ที่ราว 10-11 ล้านครัวเรือนเท่านั้น ทำให้ทรู ออนไลน์มีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าที่ใช้งานจาก 3.8 ล้านราย เป็น 4 ล้านราย พร้อมกับ ARPU เฉลี่ยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
โดยกลุ่มทรูยังมีแผนที่จะขยายบริการทรู ออนไลน์ ออกไปให้ครอบคลุมบริการดิจิทัลเพื่อการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัลผ่านแพลตฟอร์ม True X รวมถึงการผลักดันบริการทีวีบอกรับสมาชิกทรู วิชั่นส์ สู่การเป็นแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง True Vision Now ที่ดึงดูดคอนเทนต์มาให้บริการแก่ลูกค้า
ขณะเดียวกัน ในส่วนของการลงทุนระบบไอที จะมีการปรับปรุงเรื่องบริการหลังการขาย ด้วยการนำระบบอัตโนมัติเข้ามาช่วย เพื่อลดระยะเวลาในการให้บริการทั้งหน้าร้าน และออนไลน์ลง พร้อมกับการผสานการให้บริการดิจิทัลให้แก่ลูกค้าจากปัจจุบันที่แยกระหว่างลูกค้าทรู และดีแทค สู่แอป True เพียงช่องทางเดียว
ผู้บริหารทรูยังย้ำถึงการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม (Synergy) ซึ่งในปีที่ผ่านมาทำได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ถึง 700 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะเริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้น ด้วยผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นราว 24,000-25,000 ล้านบาท