xs
xsm
sm
md
lg

True ลูกค้ามือถือเพิ่มเป็น 51.9 ล้านราย คาดปีนี้กลับมาทำกำไร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กลุ่มทรูเผยผลประกอบการปี 2566 รายได้รวม 202,765 ล้านบาท ฐานลูกค้ามือถือรวม 51.9 ล้านราย แบ่งเป็นเติมเงิน 36.3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 6 แสนราย ส่วนรายเดือนอยู่ที่ 15.6 ล้านราย ทรู ออนไลน์ ลูกค้า 3.8 ล้านราย ARPU เฉลี่ยเพิ่มขึ้น คาดปี 67 กลับมาทำกำไร

นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลประกอบการ ทรู คอร์ปอเรชั่น ปี 2566 นับว่าประสบความสำเร็จเกินคาด ด้วยจุดแข็งที่ผสมผสานกัน ส่งผลให้รายได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น เรายังคงมุ่งมั่นที่จะส่งมอบคุณค่าและดำเนินการตามแผนบูรณาการและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ ทำให้สามารถบรรลุเกินเป้าหมายในการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมในปีนี้

“จากความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในปีที่ผ่านมาในการนำองค์กรใหม่สู่การสร้างวัฒนธรรมและแนวทางการทำงานที่เป็นหนึ่งเดียว พร้อมทั้งผสมผสานจุดแข็งในการดำเนินงานในธุรกิจ ทำให้เราเชื่อว่าทรู คอร์ปอเรชั่น พร้อมแล้วสำหรับการเติบโตและความสามารถในการทำกำไรในปี 2567 อีกทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนทางเศรษฐกิจมหภาค เช่น การเติบโตของภาคการท่องเที่ยวทั้งในประเทศและต่างประเทศ การเพิ่มขึ้นของการใช้งานข้อมูล และไลฟ์สไตล์ดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น”

ในไตรมาสที่ 4 บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น ประสบความสำเร็จจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมสุทธิ (Net Synergies) คิดเป็นมูลค่า 1 พันล้านบาท จากการดำเนินการตามแผนงานสำคัญอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นผลดีต่อ EBITDA และงบลงทุน (CAPEX) อีกทั้งการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยได้เกินกว่าเป้าหมาย จึงส่งผลดีทั้งการประหยัดพลังงานและค่าเช่าพื้นที่ ตลอดจนการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงบลงทุน (CAPEX)

นอกจากนี้ การรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวมเป็นไปอย่างต่อเนื่องด้วยการนำเสนอการให้บริการที่รวมเทคโนโลยีด้านการสื่อสารทั้งในแบบเคลื่อนที่และประจำที่ (FMC) ที่หลากหลายเข้าด้วยกัน ด้วยยอดผู้ใช้งานลูกค้าในกลุ่มนี้ที่เติบโต 16% นับตั้งแต่การควบรวมกิจการ โดยมี ARPU เพิ่มขึ้น 30% 

แบรนด์ดีแทคและทรูยังคงเป็นผู้นำในกลุ่มนักท่องเที่ยวและกลุ่มแรงงานต่างด้าว โดยมียอดผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 0.5 ล้านเลขหมายจากไตรมาสก่อน คิดเป็น 1% ทำให้มียอดรวมเป็น 51.9 ล้านเลขหมาย ณ สิ้นปี 2566

ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นเป็นผู้ให้บริการเครือข่าย 5G ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ โดยครอบคลุมประชากร 90% พร้อมด้วยฐานผู้ใช้บริการ 5G ที่มากสุดถึง 10.5 ล้านราย โดยเพิ่มขึ้น 12% จากไตรมาสที่ผ่านมา

นายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทรู คอร์ปอเรชั่นรายงานผลประกอบการที่มีรายได้เติบโตต่อเนื่อง และ EBITDA เติบโตขึ้นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน ในขณะที่สามารถรับรู้ผลประโยชน์จากการควบรวม (Synergy) ในปี 2566 ได้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้ รายได้รวมสำหรับไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 4.4% QoQ โดยได้แรงหนุนจากรายได้จากการให้บริการและจากการขายที่เพิ่มขึ้น

รายได้จากการให้บริการไม่รวม IC (ตามการจัดประเภทรายการใหม่) สำหรับไตรมาสที่ 4 เพิ่มขึ้น 2.0% QoQ มาจากรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 2.3% และรายได้ธุรกิจออนไลน์เพิ่มขึ้น 2.5% จากไตรมาสที่ผ่านมา กำไร EBITDA ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 3.6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยในไตรมาสที่ 4/2566 EBITDA เพิ่มขึ้น 5.0% นับเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกันที่มีการเติบโต และเพิ่มขึ้น 3 พันล้านบาทนับตั้งแต่การควบรวมกิจการ

อย่างไรก็ตาม รายได้รวมของทรู คอร์ปอเรชั่น ปี 2566 อยู่ที่ 202,765 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้า 5.3% ขาดทุน 15,689 ล้านบาท จากการด้อยค่าสินทรัพย์ที่มีความซ้ำซ้อน ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว

สำหรับการคาดการณ์ในปี 2567 ทรู คอร์ปอเรชั่น คาดว่ารายได้จากการให้บริการไม่รวมรายได้ค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) จะมีการเติบโต 3-4%  EBITDA จะมีการเติบโต 9-11% และค่าใช้จ่ายลงทุนรวมงบลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์จากการควบรวม หรือ CAPEX ประมาณการไว้ที่ 30,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ทรู คอร์ปอเรชั่นคาดว่าจะสามารถทำกำไรภายหลังการปรับปรุง (Normalized) ได้ในปี 2567


กำลังโหลดความคิดเห็น