การ์ทเนอร์ (Gartner) คาดมูลค่าการใช้จ่ายไอทีไทยจะสูงทะลุ 1 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก ระบุมูลค่าการใช้จ่ายไอทีทั่วโลกปี 2567 เติบโตเพิ่ม 6.8% จากปี 66 คิดเป็นมูลค่ารวม 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากไตรมาสก่อนที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเติบโต 8% ชี้ Generative AI (GenAI) ยังไม่ส่งผลต่อการเติบโตของยอดการใช้จ่ายไอทีอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะได้รับความนิยมอย่างมากในปีที่ผ่านมา
จอห์น-เดวิด เลิฟล็อค รองประธานฝ่ายวิจัย บริษัท การ์ทเนอร์ กล่าวว่า ในขณะที่ GenAI กำลังเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งไป แต่มีแนวโน้มว่า GenAI จะยังไม่ส่งผลกระทบไปถึงการใช้จ่ายไอทีอย่างมีนัยสำคัญ เช่นเดียวกับเทคโนโลยี IoT หรือ Blockchain รวมถึงเทรนด์สำคัญอื่นๆ ซึ่งในปีนี้จะเป็นปีที่องค์กรหันมาลงทุนเพื่อวางแผนและเรียนรู้วิธีใช้ GenAI อย่างแท้จริง
"อย่างไรก็ตาม ปริมาณการใช้จ่ายไอทีจะยังเป็นการขับเคลื่อนผ่านปัจจัยเดิมอยู่ เช่น ความสามารถด้านการทำกำไร ด้านแรงงาน และการถูกรั้งไว้จากความเหนื่อยล้าจากคลื่นการเปลี่ยนแปลงที่ซัดมาไม่หยุด"
GenAI หรือ Generative AI คือระบบปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถสร้างเนื้อหาได้ ทั้งข้อความ รูปภาพ และเนื้อหาอื่นๆ สำหรับประเทศไทย การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าในปี 2567 มูลค่าการใช้จ่ายไอทีจะสูงทะลุ 1 ล้านล้านบาท เป็นครั้งแรก เพิ่มขึ้น 5.8% จากปี 2566 โดยกลุ่มซอฟต์แวร์จะมีมูลค่าการใช้จ่ายเติบโตสูงสุด และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15.9%
***โลกไอทียังโตต่อ
การสำรวจพบว่าบริการด้านไอทีกลายเป็นกลุ่มที่มียอดใช้จ่ายสูงสุดในปีนี้ โดยกลุ่มบริการด้านไอทีจะยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2567 และมียอดใช้จ่ายสูงที่สุดเป็นครั้งแรก คาดว่าในปี 2567 จะเติบโตขึ้น 8.7% และมีมูลค่าแตะ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการที่องค์กรมุ่งลงทุนเพิ่มประสิทธิภาพให้กองค์กรและในโปรเจกต์ต่างๆ ซึ่งการลงทุนลักษณะนี้จะมีความสำคัญยิ่งในช่วงที่เศรษฐกิจไม่แน่นอน
“อัตราการใช้งานของผู้บริโภคในกลุ่มอุปกรณ์และกลุ่มบริการด้านการสื่อสารอยู่ในเกณฑ์ที่สูงมากว่าทศวรรษ โดยยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านราคาและวงจรการเปลี่ยนเครื่องใหม่เพื่อทดแทนเป็นหลัก ซึ่งไม่เหลือพื้นที่การเติบโต ดังนั้นจึงถูกแซงหน้าด้วยกลุ่มซอฟต์แวร์และบริการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ องค์กรยังคงมุ่งแสวงหาการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ฝ่ายไอทีได้ย้ายจากการทำงานส่วนหลังบ้านมาอยู่ส่วนหน้าขององค์กร และการใช้จ่ายด้านไอทีขององค์กรจะไม่มีวันสิ้นสุด จนกว่าจะถึงขีดจำกัดว่าเทคโนโลยีจะสามารถนำไปใช้ในองค์กรได้อย่างไรและส่วนไหนบ้าง” เลิฟล็อค กล่าวเพิ่ม
ในขณะที่ภาพรวมการเติบโตของปริมาณการใช้จ่ายไอทีปี 2566 อยู่ที่ 3.3% เพิ่มขึ้นเพียง 0.3% จากปี 2565 การ์ทเนอร์ชี้ว่าสาเหตุหลักมาจากบทบาทและภาระการทำงานที่มากขึ้นของ CIO จนเกิดความเหนื่อยล้า อย่างไรก็ตาม คาดว่าโมเมนตัมนี้จะกลับมาฟื้นตัวในปี 2567 โดยเพิ่มขึ้น 6.8%
"แม้คาดว่าจะมีแรงหนุนที่ช่วยให้การใช้จ่ายไอทีกลับมาฟื้นตัวในปีนี้ แต่ด้วยสภาพแวดล้อมของการใช้จ่ายที่เปิดกว้างยังมีข้อจำกัดเล็กๆ น้อยๆ จากการเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิดความอ่อนล้า ซึ่งปัจจัยนี้อาจแสดงออกมาเป็นการต่อต้านการเปลี่ยนแปลง โดย CIO เริ่มลังเลที่จะเซ็นสัญญาใหม่ๆ หรือให้คำมั่นในโครงการระยะยาว หรือเปิดรับพันธมิตรเทคโนโลยีรายใหม่ สำหรับโครงการใหม่ที่กำลังจะเปิดตัว บรรดา CIO ทั้งหลายตั้งเป้าลดระดับความเสี่ยงและได้ผลลัพธ์ที่แน่นอนมากขึ้น"
การคาดการณ์แนวโน้มการใช้จ่ายด้านไอทีของการ์ทเนอร์ ใช้การวิเคราะห์อย่างเข้มข้นของยอดขายจากผู้ค้าและให้บริการหลายพันราย ครอบคลุมผลิตภัณฑ์และบริการด้านไอทีทั้งหมด การ์ทเนอร์ใช้เทคนิคการวิจัยปฐมภูมิ เสริมด้วยแหล่งข้อมูลทุติยภูมิที่เชื่อถือได้ในการสร้างฐานข้อมูลที่ครอบคลุมตามขนาดข้อมูลของตลาดสำหรับเป็นฐานการคาดการณ์
การคาดการณ์มูลค่าการใช้จ่ายด้านไอทีของการ์ทเนอร์รายไตรมาสนำเสนอมุมมองที่แตกต่างครอบคลุมทั้งกลุ่มฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ บริการทางด้านไอทีและกลุ่มการสื่อสารโทรคมนาคม โดยรายงานเหล่านี้ช่วยให้องค์กรธุรกิจตระหนักถึงโอกาสและความท้าทายในตลาด