ซีดีจี ซิสเต็มส์ หนุนยุครัฐบาลดิจิทัล เผย Cloud Service มาแรง ดันรายได้โตกว่า 20% ชู 4 โซลูชัน เตรียมบุกตลาด Local Government
นายปริญญา ผลพฤกษสกุล ประธานบริษัท ซีดีจี ซิสเต็มส์ จำกัด หรือ CDGS เปิดเผยว่าตลาดคลาวด์ทุกกลุ่มมีอัตราเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะองค์กรธุรกิจในประเทศไทยที่มีปริมาณการใช้จ่ายในบริการคลาวด์สาธารณะ จากการคาดการณ์ของการ์ทเนอร์ในปี 2566 องค์กรใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 31.7% และภายในปี 2570 การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าองค์กรกว่า 70% จะใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อุตสาหกรรม (ICP) โดยจะรวมบริการ SaaS, PaaS และ IaaS พื้นฐานเข้าด้วยกัน นำไปสู่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความสามารถในการทำงานร่วมกันได้
"การเติบโตดังกล่าวส่งผลให้รายได้โดยรวมของซีดีจี ซิสเต็มส์ เติบโตไปในทิศทางที่ดี โดยในปี 2566 ที่ผ่านมาเติบโตกว่า 20% จากงานโครงการและงานบริการต่างๆ ที่ให้ลูกค้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ"
ซีดีจี ซิสเต็มส์ ถือเป็นผู้นำธุรกิจการพัฒนาและให้บริการดูแลระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ (IT Solutions and Services Provider) สำหรับลูกค้าหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ โดยในปี 2566 ข้อมูลจากการ์ทเนอร์ คาดว่าองค์กรธุรกิจในประเทศไทยใช้จ่ายบริการคลาวด์สาธารณะเพิ่มขึ้น 31.7% และภายในปี 2570 การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าองค์กรมากกว่า 70% จะใช้แพลตฟอร์มคลาวด์อุตสาหกรรม (ICP) จากเทรนด์ตลาด ดันรายได้ปี 66 เติบโตตามไปด้วยกว่า 20%
ซีดีจี ซิสเต็มส์ จึงเตรียมส่ง 4 โซลูชัน รองรับการก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล และการขยายตลาดสู่การให้บริการหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่นมากขึ้น โดยตั้งเป้าเป็นผู้นำการให้บริการ Software as a Service ของภาครัฐไทย บนเป้าหมายมีโครงการตอบโจทย์ ESG อย่างน้อย 10% ของโครงการทั้งหมด ภายในปี 67 เพื่อก้าวสู่การนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน
ซีดีจี ซิสเต็มส์ มองว่าจากเทรนด์การเติบโตในด้านของ Cloud Service เพื่อรองรับการก้าวสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ซีดีจี ซิสเต็มส์ ในฐานะผู้ให้บริการและพาร์ตเนอร์ด้าน Digital Transformation ของกลุ่มลูกค้าภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ มุ่งให้บริการ 4 โซลูชัน ในปี 2567 ตามแนวโน้มทางดิจิทัล ได้แก่ 1.CDGS as a Service แพลตฟอร์มดิจิทัลในรูปแบบการให้บริการแบบ Software as a Service (SaaS) สำหรับงานบริหารทรัพยากรภายในองค์กรแบบครบวงจร เช่น งานบริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ งานสารบรรณอิเล็กทรอนิกส์ หรืองาน Backoffice ของหน่วยงานต่างๆ เพื่อสนับสนุนให้ภาครัฐสามารถให้บริการออนไลน์ หรือทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์แก่ประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
2.Multimodal Biometric Solutions ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการดูแลและพัฒนาระบบจัดเก็บและตรวจสอบลายพิมพ์นิ้วมืออัตโนมัติ (AFIS) มายาวนาน สู่การต่อยอดพัฒนาโซลูชัน Multimodal Biometric Solutions ที่นำเสนอความหลากหลายในการระบุตัวตนและตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลอัตโนมัติด้วยลายพิมพ์นิ้วมือ ม่านตา ใบหน้าและอื่นๆ ระบบนี้เพิ่มระดับความปลอดภัย ความสะดวกในการเข้าถึง มีประสิทธิภาพที่ทันสมัย และมีความแม่นยำสูงสุดเป็นมาตรฐานสากล
3.AI & Business Analytics for ESG โซลูชัน AI & Business Analytics เพื่อรองรับความต้องการในการดำเนินธุรกิจที่ยั่งยืน ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม (ESG) ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในทุกมิติเพื่อเสริมประสิทธิภาพการดำเนินการให้องค์กร พัฒนาปรับปรุง ติดตามและรายงาน โซลูชันนี้ถูกออกแบบเพื่อเสริมสร้างความยั่งยืนทางธุรกิจทั้งในทางด้านการดำเนินธุรกิจและการตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มสังคม
และ 4.Government ERP ภายใต้ชื่อ i-Smart ERP ออกแบบให้สอดคล้องกับระบบงานของหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์การมหาชน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรภายในองค์กรให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เชื่อมโยงระบบงานจากส่วนต่างๆ ทั้งด้านงบประมาณ จัดซื้อจัดจ้าง การบริหารสินทรัพย์ วัสดุคงคลัง งานบัญชีไปจนถึงด้านการเงิน รวมทั้งระบบบริหารทรัพยากรบุคคล ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ใน i-Smart ERP ซอฟต์แวร์ที่หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจทุกขนาดสามารถเข้าถึงได้
“บริการดังกล่าวได้รับการพัฒนาโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะขยายตลาดสู่การให้บริการไปยังหน่วยงานราชการส่วนท้องถิ่น (Local Government) มากขึ้น เพื่อให้การบริการเข้าถึงภาคประชาชนระดับท้องถิ่น เช่น SaaS สำหรับงาน e-Office หรือ e-Service เป็นต้น โดยตั้งเป้าเติบโตในระบบ SaaS มากกว่า 2 เท่า ภายในสิ้นปี 2567 นี้ พร้อมวางเป้าหมายระยะยาวเป็นผู้นำการให้บริการ SaaS ของภาครัฐไทย ภายในปี 2572” นายปริญญากล่าว
นายปริญญา กล่าวทิ้งท้ายว่าจะมุ่งพัฒนางานโครงการให้ตอบโจทย์ ESG ผ่านการบริหารจัดการด้วยนวัตกรรม อย่างการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับงานบริการประชาชน หรือแม้แต่ภารกิจเฉพาะส่วนของหน่วยงานในภาครัฐ โดยวางเป้าหมายมีโครงการตอบโจทย์ ESG อย่างน้อย 10% ของโครงการทั้งหมด ภายในปี 2567 และพร้อมที่จะเป็นแกนกลางรวมทุกภาคส่วนมาร่วมกันขับเคลื่อนนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน