Samsung วางจำหน่าย Galaxy A ซีรีส์ ทั้ง A15 4G/5G และ A25 5G การันตีอัปเกรดระบบปฏิบัติการต่อเนื่อง 4 รุ่น และอัปเกรดความปลอดภัย 5 ปี ในราคา 6,999-10,990 บาท
การปรับปรุงสำคัญของ Galaxy A15 และ Galaxy A25 5G คือดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์จากขอบที่โค้งมนเรียบหรู ดูพรีเมียม การจัดวางเลนส์กล้องในแนวเส้นตรง พร้อมสีสันที่มีเฉพาะใน Galaxy A15 Series และ Galaxy A25 5G เท่านั้น
ตัวเครื่องทำงานด้วยหน่วยประมวลผล Octa-core ที่อัปเกรดใหม่ในทุกรุ่น โดยเฉพาะใน Galaxy A25 5G ที่ใช้งานชิปเซ็ต Exynos 1280 ขนาด 5 นาโนเมตร ให้ประสิทธิภาพที่รองรับทั้งการเล่นเกม หรือชมวีดีโอขณะเดินทาง
นอกจากนี้ Galaxy A15 Series และ Galaxy A25 5G มาพร้อมกับความเร็วแรง RAM สูงสุด 8GB และความจุ 128GB (สำหรับรุ่น Galaxy A15 Series เท่านั้น) และ 256GB อีกทั้งยังรองรับ microSD Card สูงสุดถึง 1TB
หน้าจอทั้ง 2 รุ่นอยู่ที่ 6.5 นิ้ว โดยปรับมาใช้หน้าจอ Super AMOLED ทั้งคู่ เพียงแต่ Refresh Rate ของ Galaxy A15 อยู่ที่ 90 Hz ส่วน Galaxy A25 120 Hz แบตเตอรี่ 5,000 mAh รวมถึงรองรับการชาร์จเร็ว 25W Fast Charging สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 2 วัน
ในส่วนของกล้อง Galaxy A15 มากับกล้อง 3 เลนส์ เลนส์หลัก 50MP และเลนส์ Ultra-Wide 5MP ขณะที่ Galaxy A25 5G เลนส์หลัก 50 MP จะมาพร้อมระบบกันสั่น OIS และ VDS ช่วยลดการสั่นไหวของภาพถ่าย และวิดีโอ เสริมด้วยเลนส์มุมกว้าง 8 MP และมาโคร 2 MP กล้องหน้า 13 MP
ทั้ง 2 รุ่น ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 14 ครอบด้วย One UI 6 ที่มีการปรับปรุงสำคัญในเรื่องของความปลอดภัย ที่สามารถตั้งให้ไม่สามารถติดตั้งแอปจากภายนอกสโตร์เพื่อป้องกันมิจฉาชีพได้ และยังการันตีอัปเกรดระบบปฏิบัติการต่อเนื่อง 4 เจเนอเรชัน และอัปเดตระบบความปลอดภัย 5 ปี
สำหรับ Galaxy A15 5G วางจำหน่ายในราคา 7,999 บาท (RAM/ROM 8/128GB) วางจำหน่ายผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย TRUE, dtac และ AIS เท่านั้น และรุ่นราคา 8,999 บาท (RAM/ROM 8/256GB) รวมถึงเวอร์ชัน 4G LTE มาในราคา 6,999 บาท
รวมถึง Galaxy A25 5G ราคา 10,999 บาท วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ บนเว็บไซต์ samsung.com, Samsung Official Store บน Shopee และ Lazada หรือหน้าร้านที่ Samsung Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (Blue Black และสีฟ้า (Blue)