xs
xsm
sm
md
lg

บิ๊กดาต้า-มาร์เทคไทยปี 67 สดใส Egg Digital ชู LLM ชิงเค้กหมื่นล้านบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ทีมผู้บริหารจากซ้ายมาขวา ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์, รัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล, วรภัทร งามเจตวรกุล และ ชัชพล องนิธิวัฒน์
Egg Digital (เอ้ก ดิจิทัล) ปรับทัพรับตลาดวิเคราะห์ข้อมูล-เทคโนโลยีการตลาดไทยโตแตะ 1.1 หมื่นล้านบาท เผยเตรียมลงทุนระดับพันล้านบาทปั้นระบบอัจฉริยะเพื่อประสานพลังบิ๊กดาต้าเข้ากับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะโมเดลภาษาขนาดใหญ่ หรือ LLM ที่จะไม่ซ้ำต่างชาติด้วยอินไซต์ผู้บริโภคไทย

แนวทางสร้าง LLM หรือ large language model ของ Egg Digital นั้นเป็นไปตามเทรนด์โลกเนื่องจากยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีทั้ง Google, Meta, Nvidia และ Apple ต่างมี LLM ของตัวเอง พร้อมกับที่เวนเดอร์และสตาร์ทอัปรายย่อยจำนวนมากก็เข้าสู่วงจรการพัฒนา LLM ของตัวเองเช่นกัน จุดนี้มีความเชื่อว่าเป็นผลดีต่อโลกซึ่งจะไม่ต้องพึ่งพา LLM เจ้าเดียวในการพัฒนา AI ในเวลาที่ AI ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาและยังไม่ชัดเจนว่าโมเดลใดจะเหนือกว่า หลายบริษัทจึงใช้แนวทางแบบเปิดทำให้ระบบงานขององค์กรสามารถสลับระหว่างหลายโมเดลได้ง่ายตามความจำเป็นและปรับให้เหมาะสมกับงานที่เฉพาะเจาะจงโดยคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ต้นทุน ประสิทธิภาพ และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

แม้การสร้าง LLM ด้วยตัวเองจะใช้ต้นทุนการพัฒนาที่สูง และจำเป็นต้องมีดาต้ามหาศาลร่วมกับนักวิทยาศาสตร์ข้อมูลมือดี แต่องค์กรขนาดใหญ่จำนวนมากยอมลงทุนในส่วนนี้อย่างจริงจังเพื่อยกระดับการแข่งขัน ที่เห็นชัดคือกลุ่มอีคอมเมิร์ซที่มุ่งสร้างระบบเสิร์ชสำหรับค้นหาสินค้าที่ทรงพลังเป็นพิเศษ หรือสถาบันการเงินที่ต้องการใช้ข้อมูลเพื่อยกระดับงานขายของบริษัทรวมถึง Egg Digital ที่เป็นผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูล สื่อโฆษณา และโซลูชันสำหรับหลายธุรกิจโดยเฉพาะในเครือแอสเซนด์ (Ascend Group) และซีพี (CP Group) โดย Egg Digital วางแผนยาวไกลให้ LLM ต่อยอดเป็น GenAI ที่ออกกลยุทธ์และแผนการตลาดเหนือชั้นในเวลารวดเร็ว บนความมั่นใจว่าธุรกิจจะทำรายได้เพิ่มจากปีปัจจุบันที่ทำได้เกิน 2 พันล้านบาทขยายตัวไม่ต่ำกว่า 30% ตามอัตราเติบโตของตลาดรวม

***ตลาดเปลี่ยน ธุรกิจปรับใหญ่ปีหน้า

ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจบิ๊กดาต้าและเทคโนโลยีด้านการตลาด หรือมาร์เทค (Marketing Technology) ในประเทศไทยปี 2566-2567 ว่ามีการเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมามีมูลค่าตลาดขยายตัวราว 30% คิดเป็น 1.1 หมื่นล้านบาท ผลจากการปรับตัวของธุรกิจที่ต้องไล่ตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ Egg Digital เลือกให้ความสำคัญกับเครื่องมือและและแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ โดยมุ่งเป็นองค์กรที่จะให้บริการไดนามิกดาต้า ซึ่งเป็นบิ๊กดาต้าที่ใช้ AI เปลี่ยนข้อมูลเป็นความเฉลียวฉลาด ในรูปกลยุทธ์ที่นำไปปฏิบัติได้

“ทุกอย่างทุกจุดที่เราทำจะใช้การวิเคราะห์โดย AI เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง วันนี้หมดยุคคนอ่านข้อมูลอย่างเดียวแล้ว แต่เป็นยุคที่ให้เครื่องช่วยอ่าน แล้วโฟกัสบนอินไซต์ ถามได้ตอบได้ เป็นอัจฉริยะ ทำการวิเคราะห์เชิงพยากรณ์”

ธีรเดช ดำรงค์พลาสิทธิ์
ธีรเดชเชื่อว่าวิสัยทัศน์นี้จะตอบโจทย์ 3 เทรนด์ของธุรกิจในตลาดมาร์เทคไทยปีหน้าและปีต่อไป โดยจากที่ธุรกิจเคยวางแผนกลยุทธ์แบบยาว 18-36 เดือน ธุรกิจจำนวนมากเริ่มเปลี่ยนเป็นการวางแผนที่สั้นลง เนื่องจากถูกกระตุ้นด้วยความนิยมเนื้อหาหรือคอนเทนต์ที่เปลี่ยนแปลงไป และไทยเป็นประเทศที่ผู้บริโภคเปิดรับสื่อใหม่อย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน ธุรกิจเริ่มนำระบบอัตโนมัติมาเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพในการทำคอนเทนต์ รวมถึงมีการปรับให้คอนเทนต์นั้นมีส่วนร่วมกับผู้ชมหรือเอนเกจเมนต์เพิ่มขึ้น โดยเทรนด์ที่ 3 คือการเปลี่ยนจากการตลาดออฟไลน์เป็นออนไลน์ซึ่งเป็นเทรนด์ทั่วไปที่เห็นการเติบโต 10-20% เป็นปกติอยู่แล้ว แต่ดาวรุ่งในปี 2566 คือวิดีโอสั้นที่เติบโต 80% ทั้งหมดแปลว่าคอนเทนต์จะยังมีความสำคัญในการทำการตลาดในประเทศไทยต่อไป

แนวทางตลาดบิ๊กดาต้า และมาร์เทคที่เปลี่ยนไปทำให้ Egg Digital ตัดสินใจรีเฟรชแบรนด์เพื่อเน้นการประสานพลังดาต้าร่วมกับเทคโนโลยี AI รวมถึงการเรียนรู้ด้วยเครื่อง (ML) และข้อมูลจากองค์กรต้นทาง (First Party Data) โดยจะชูจุดแข็งเรื่องการวิเคราะห์อินไซต์ได้แม่นยำแล้วแสดงเป็นกลยุทธ์และแผนการตลาดที่จะช่วยสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดดให้ธุรกิจที่จะมาเป็นลูกค้า Egg Digital

จากที่มี 6 หน่วยธุรกิจ Egg Digital จึงปรับบริการให้ประกอบด้วย 3 บิสสิเนสยูนิต (BU) ได้แก่ 1.บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก 2.บริการสื่อโฆษณาครบวงจร และ 3.บริการดิจิทัลแพลตฟอร์ม ซึ่งแม้จะปรับให้มีระบบอัจฉริยะเข้ามามากขึ้นแต่เป้าหมายของบริษัทยังคงเดิมนั่นคือการช่วยทุกองค์กรเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลเพิ่มศักยภาพ และความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจรอบด้านเพิ่มรายได้ ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย บริหารความเสี่ยง รวมถึงสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่


แต่เดิม Egg Digital วางกรอบ 6 บริการหลักตั้งแต่ 1.บริการให้คำปรึกษาแก่ธุรกิจค้าปลีก 2.บริการให้คำปรึกษาด้านการใช้ข้อมูลเชิงลึกผ่านแพลตฟอร์มโซลูชัน 3.บริการสื่อโฆษณาครบวงจรทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ 4.บริการด้านมีเดีย เอเยนซี 5.บริการด้าน CRM หรือการบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าผ่านโซเชียลมีเดีย และ 6.บริการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ซึ่งทั้ง 6 บริการครบวงจรนี้มีให้บริการที่สำนักงานในประเทศมาเลเซีย จนสามารถทำรายได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปัจจุบันคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 10-20% ของธุรกิจในไทย



***2 แนวทางใหม่รุกตลาดมาร์เทค

ธีรเดชย้ำว่า ปี 2566 ถือเป็นปีแห่งความสำเร็จของ Egg digital โดยระยะเวลา 10 เดือนที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้รวมเกิน 2 พันล้านบาท เติบโต 30% สำหรับการทำงานภายใต้แบรนดิ้งใหม่ Egg Digital ได้วาง 2 แนวทางการดำเนินงานหลัก โดยแนวทางแรกคือการเพิ่มศักยภาพของทุกธุรกิจด้วย AI

Egg Digital มองว่าการวิเคราะห์ AI คือรากฐานสำคัญเพื่อใช้ในการพยากรณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมและพฤติกรรมผู้บริโภค อีกทั้งการวางกลยุทธ์ที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจวางแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำและก้าวนำคู่แข่งในตลาดอยู่เสมอ

  วรภัทร งามเจตวรกุล
แนวทางที่ 2 คือการนำเสนอนวัตกรรมสู่อุตสาหกรรม ประเด็นนี้ Egg Digital มองว่าจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในด้านเทคโนโลยีใหม่ การพัฒนาศักยภาพบุคลากร และการปลูกฝังค่านิยมในการทำงานที่สอดรับกับความต้องการของลูกค้าและอุตสาหกรรม

ทั้ง 2 แนวทาง และ 3 บียูจะมีบทบาทสำคัญในการนำบิ๊กดาต้า AI และ ML มาช่วยทรานส์ฟอร์มให้เป็นกลยุทธ์และแผนการตลาดที่จะช่วยสร้างอิมแพกต์ให้ 5 อุตสาหกรรม ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักที่ Egg Digital ต้องการรุกตลาดปี 67 ได้แก่ ค้าปลีก ธุรกิจสื่อ การเงิน ประกัน และยานยนต์

วรภัทร งามเจตวรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Business Analytics & Development บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่าในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจ Business Analytics & Development สามารถสร้างการเติบโตได้เกินเป้าหมาย โดยคว้าลูกค้าใหม่มาได้กว่า 20 แบรนด์ ด้วยศักยภาพของบริการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI (Business Analytics as a Service – Powered by AI Engine) เนื่องจากบริการนี้เป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความสำเร็จทางธุรกิจให้ลูกค้า ทั้งช่วยเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่าย และลดความเสี่ยง

“AI จะแปลงตัวเลขเป็นข้อความง่ายๆ ไม่แค่รายงานอดีต แต่จะบอกได้ว่าสาเหตุมาจากอะไร เป็น narrative insight หรือ discribtive analytic ที่ทำให้สามารถอธิบายสถานการณ์ขณะนั้น และตอบความต้องการของธุรกิจ เพื่อจะได้หาวิธีที่จะตัดสินใจได้ตามผลที่ต้องการมากที่สุด”


ในปี 2567 บริษัทคาดการณ์ว่า ความต้องการบริการด้านวิเคราะห์ดาต้าเชิงลึกจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากธุรกิจไทยเริ่มเห็นถึงข้อได้เปรียบของการใช้ดาต้าเชิงลึกมาเป็นส่วนสำคัญในการกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจกันมากขึ้น Egg Digital จึงต้องเร่งสร้าง Use Cases ที่ตรงจุดและเฉพาะเจาะจงในแต่ละอุตสาหกรรม พร้อมกับวางแผนจะขยายกลุ่มเป้าหมายไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ โดยปีหน้าจะเริ่มรุกกลุ่มธุรกิจในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคอีสานเป็นตลาดพื้นที่แรก

Egg Digital เชื่อว่าธุรกิจในพื้นที่หัวเมืองใหญ่นอก กทม. เป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงของประเทศทั้งเชิงยุทธศาสตร์ ศักยภาพการเติบโต และสัดส่วนจำนวนประชากร รวมถึงต่อยอดธุรกิจในมาเลเซียให้สอดคล้องกับสภาพตลาดแนวโน้มในประเทศ รวมถึงโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะสามารถเป็นรากฐานในการขยายบริการไปประเทศต่างๆ ตามแผนต่อไป



***บริษัทแรกใน APAC

ชัชพล องนิธิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Insights-led Omnichannel Media บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า Egg Digital เป็นรายแรกในเอเชียแปซิฟิกที่ใช้บิ๊กดาต้า, AI, ML และ Intelligent O2O2O Media Solution มาผสานการทำงานร่วมกัน เพื่อเปลี่ยนบิ๊กดาต้าเป็นข้อมูลเชิงลึก วางกลยุทธ์การสื่อสาร สร้างสรรค์ครีเอทีฟดีไซน์ และคอนเทนต์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในปัจจุบัน

“ปีนี้เรากระตุ้นตลาดด้วยการเปิดตัวบริการใหม่ทุกไตรมาสโดยมีไฮไลต์สำคัญคือบริการสื่อนอกบ้าน หรือ Shoppers’ Digital Screen และเน้นนำเสนอบริการสื่อโฆษณาแบบ O2O2O (Online to Out-of-Home to On-Shelf) โดย Egg Digital สามารถเพิ่มปริมาณการใช้สื่อและคว้าลูกค้าใหม่ได้ถึง 37 แบรนด์ จากที่มีฐานลูกค้าเดิมกว่า 200 แบรนด์”

  ชัชพล องนิธิวัฒน์
สำหรับแนวโน้มตลาดในปี 2567 ชัชพลเชื่อว่ามีความท้าทายที่การใช้สื่อโฆษณาจะไม่ใช่แค่การสร้างการรับรู้เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการสร้างการตอบสนองต่อโฆษณาและการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ไปพร้อมกัน เพื่อช่วยเจ้าของแบรนด์ปิดการขาย ณ จุดขายได้ จึงเชื่อว่าการเชื่อมระหว่างสื่อ Personalized Online กับสื่อ On-Shelf และกิจกรรมเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ที่สาขาจะเข้ามามีบทบาทและกระตุ้นการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Egg Digital จึงไม่เพียงคว้าโอกาสทางธุรกิจด้วยการขยายพื้นที่และแพลตฟอร์มสื่อ พร้อมผนวกบิ๊กดาต้าเข้าไป แต่ยังพยายามสร้างจุดเด่นของบริการด้านแพลตฟอร์มและดิจิทัลโซลูชันอย่างจริงจัง

รัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล
รัฐธีร์ เจริญรัตน์วรกุล ผู้จัดการทั่วไป ธุรกิจ Platform & Media Solutions บริษัท เอ้ก ดิจิทัล จำกัด กล่าวว่า Egg Digital สามารถขยายฐานไปยังอุตสาหกรรมการแพทย์และสถานเสริมสวยความงาม Residential SME พลังงาน แฟชั่น การท่องเที่ยว และหน่วยงานภาครัฐ โดยคว้าลูกค้าใหม่มาได้กว่า 100 แบรนด์ ผ่าน 3 บริการที่ได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้า คือ 1.LINE Media & Solutions Partner (CRM & BI platform) 2.Creative, Content & Media Solutions และ 3.Mobile Marketing & Analytics SMS

“เนื่องจากผู้บริโภคในยุคดิจิทัลใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ เพิ่มมากขึ้น และมีการใช้หลากหลายแพลตฟอร์ม โดยพบว่า ผู้บริโภคใช้เวลาบนโซเชียลมีเดียประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งต่อวัน ดังนั้น ในปีหน้าเราจะมุ่งขยายบริการใหม่ที่ช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัลที่มีไลฟ์สไตล์อยู่บนโลกโซเชียลมีเดียได้มากขึ้น รวมถึงใช้ดาต้า, AI และ ML ในการสร้างกิจกรรมสื่อสารการตลาดแบบ Hyper Personalized Marketing เพื่อช่วยให้แบรนด์ต่างๆ เพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

ในภาพรวม Egg Digital เชื่อว่าเครื่องมือด้าน AI, ML รวมถึงเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) และองค์ประกอบอื่นอย่างแพลตฟอร์มสื่อครบวงจร และบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญของบริษัทจะช่วยให้ธุรกิจสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ลดอัตราการสูญเสียลูกค้า รวมถึงช่วยเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจได้ไม่ต่ำกว่า 10%

ปัจจุบัน Egg Digital วางวิสัยทัศน์ด้าน GenAI ให้สามารถบอกผลพยากรณ์จากข้อมูลอย่างแตกต่าง เพราะโมเดล AI ของ Egg Digital จะเรียนรู้ข้อมูลจากอุตสาหกรรมในวงกว้าง ครอบคลุมฐานข้อมูลขนาดใหญ่แบบทั้งภายในและนอกอุตสาหกรรม โดย LLM ของบริษัทเริ่มต้นพัฒนาเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่เดือนกันยายน 2566 เป็นการใช้ข้อมูลของ Egg Digital และพันธมิตรผ่านบุคลากร 35% ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล จากทีม Egg Digital ทั้งหมดที่มีประมาณ 180 คน




กำลังโหลดความคิดเห็น