ถึงคิวเชือดรายต่อไป ยุทธการกระชับอำนาจที่ NT หลังปรับบอร์ดเก่าพร้อมเติมรายชื่อบอร์ดใหม่ ก็ถึงเวลาเดินแผนสองด้วยการตั้งประธานบอร์ดที่ไว้ใจ และตามด้วยแผนสามเชือดผู้บริหารระดับสูงและตั้งกรรมการบอร์ดบางคนมารักษาการท่ามกลางข้อสงสัยดีกรีอดีตรักษาการ กจญ.TOT ที่เคยมีกลิ่นทะแม่งเรื่องพัวพันกล่องไอพีทีวีในอดีต พ่วงด้วยปัจจุบันมีความสนิทสนมกับรอง กจญ.สาย CAT บางคนที่ดูทึบแสงไร้โปร่งใส บนเดิมพันก้อนโตการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์ 5G ความถี่ 700 MHz มูลค่านับหมื่นล้านบาท น่าจะนำไปสู่บทสรุปของแผนครั้งนี้คือชงเอง กินเอง กินรวบครบวงจร เส้นทางพา NT ลงเหวที่แท้จริง งานนี้ ‘ลุงเสริฐ’ ก็น่าจะว้าวุ่นพอสมควร
แหล่งข่าวจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่าในการประชุมบอร์ดบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ NT ในวันที่ 22 ธันวาคมที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดตัวกรรมการบอร์ดใหม่ที่จะมาเติมให้บอร์ดครบจำนวน 13 คนในช่วงแรก และคาดว่าจะเลือกศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอีเป็นประธานบอร์ด หลังจากนั้นถึงคิวเชือดรายต่อไป โดยอาศัยการประเมินผลกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งอยู่ในช่วงระยะเวลานี้พอดี โดยคาดว่าเหตุผลที่ใช้ในการเชือดครั้งนี้น่าจะมาจากเหตุผลทางธุรกิจและเหตุผลจากข้อร้องเรียนที่หากไม่ใช่พรรคพวกกันก็น่าจะรุนแรงพอสมควร
‘ข้อร้องเรียนล่าสุด ถ้าจะหาเรื่องกันก็รุนแรงพอสมควรในเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศทั้งบาร์เซโลนาและไต้หวัน ที่มีบริษัทที่ NT ซื้อของเป็นสปอนเซอร์ และพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของคนในคณะบางคนที่ไม่ใช่ผู้บริหาร แต่กลับร่วมโต๊ะในที่ประชุม ทั้งหมดน่าจะมีภาพเป็นพยานหลักฐาน ไม่ได้กล่าวหากันลอยๆ’
น่าจะเรียกได้ว่าเป็นธรรมเนียมปฏิบัติเมื่อขั้วอำนาจการเมืองเปลี่ยน รัฐวิสาหกิจมักจะต้องเปลี่ยนบอร์ดและเปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงเพื่อให้เป็นคนของตัวเองที่มั่นใจได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสนองนโยบายรัฐ หรือการสนองนโยบายส่วนตัว นาทีนี้จึงเป็นเรื่องยากที่ ‘พ.อ.สรรพชัยย์ หุวะนันทน์’ กรรมการผู้จัดการใหญ่ NT จะต้านกระแสการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดการขัดใจกันขึ้นระหว่างอดีตประธานบอร์ด พล.อ.สุชาติ ผ่องพุฒิ กับ พ.อ.สรรพชัยย์ ในทำนองแต่ก่อนเลี้ยวซ้ายมาส่งประจำ แต่พอขั้วอำนาจเปลี่ยนอะไรที่เคยส่งก็ไม่ส่ง จนทำให้เคืองกันถึงขนาดนี้ และทำให้บางคนเชื่อว่าเป็นที่มีของเรื่องร้องเรียนครั้งนี้
หลังประเมิน กจญ.ไม่ผ่าน เกมที่จะเดินต่อไปคือเรื่องยอดนิยมที่เกิดขึ้นในอดีต TOT คือการเลือกกรรมการบอร์ดบางคนมารักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งมักหนีไม่พ้นข้อครหาว่าในตำแหน่งรักษาการ กจญ.ก็สามารถชงเรื่องชงโครงการเสนอขึ้นมาให้ตนเองในฐานะกรรมการบอร์ดร่วมพิจารณาตัดสินใจได้ ในลักษณะ ‘ชงเอง กินเอง กลมกล่อม คล่องคอ’ ซึ่งหมากเกมนี้คาดว่า ‘ธนวัฒน์ อัมพุนันทน์’ อดีตกรรมการบอร์ด TOT ระหว่างวันที่ 1 พ.ย.2554 ถึง 18 ก.ย.2555 และอดีตรักษาการ กจญ. TOT กำลังคั่วเก้าอี้อย่างเข้มข้น โดยอย่างที่รู้ๆ กันว่า NT มีโครงการ 5G ที่คาดว่าจะมีการจัดซื้อจัดจ้างไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท
‘มันพอเหมาะพอเจาะกับที่ รมว.ดีอี สั่งให้ชะลอการจัดซื้อจัดจ้างโครงการ 5G ออกไปก่อน เพื่อรอให้บอร์ดใหม่ตัดสินใจ’
คนที่วางหมากเกมนี้ หากลองย้อนอดีตไปดูช่วงดังกล่าวจะพบว่า ว่าที่รักษาการ NT ใหม่คนนี้มีเรื่องพัวพันกับเรื่องฉาวของกล่องไอพีทีวีค้างคาอยู่ในโลกออนไลน์ที่สามารถเสิร์ชหาดูได้ไม่ยากเย็นนัก รวมทั้งการสนิทสนมกับรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานดาวเทียมและโครงข่าย ‘สรพงษ์ ศิริพันธุ์’ ที่หากนำมากล่าวอ้างเป็นข้อดีที่คุ้นเคยกับอดีต TOT กับมีความสัมพันธ์กับอดีต CAT อาจไม่ค่อยถูกต้องและเป็นจริงทั้งหมด เพราะกรณีดาวเทียม ปลัดดีอีถึงกับเคยเอ่ยปากว่าสิ่งที่อนุมัติไปเหมือนการเอื้อประโยชน์ให้เอกชน ซึ่งปัจจุบันกลุ่มทุนใหญ่เป็นเจ้าของ
ในขณะที่กลุ่มทุนใหญ่ดังกล่าวยังมีอิทธิพลแผ่เข้ามาใน NT เพราะทำให้ทางเลือกที่จะตั้งคนในมารักษาการ กจญ.ดูตีบตันลงเพราะไม่ทำงานบางเรื่องที่เหมือนเอาคอไปพาดเขียงให้ ในขณะที่ กจญ.NT กำลังถลำลึกไปหาทุนใหญ่นั้นมากขึ้นทุกที เพื่อสนับสนุนให้นั่งเก้าอี้ กจญ.ต่อไปโดยแลกกับโครงการที่ทุนใหญ่ต้องการ
‘ถ้าตั้งต้นไม่ผิด เชื่อได้ว่าสิ่งที่ตามมาก็น่าจะถูกต้องทั้งหมด แต่เชื่อว่ากลุ่มทุนน่าจะไม่มีปัญหาหากเปลี่ยนตัว กจญ.ถ้าสามารถทำงานให้ได้ แต่การเมืองน่าสนใจกว่ามาก เพราะมีหลายกลุ่มหลายก๊วน แต่ถ้าหมากเป็นอย่างนี้ เชื่อได้ว่าลุงเสริฐก็น่าจะว้าวุ่นเลย’