“ข่าวลึกปมลับ” เผยแพร่ทางแอปพลิเคชั่น SONDHI APP สถานีโทรทัศน์ NEWS1 ช่องยูทูป NEWS1และเฟซบุ๊กแฟนเพจ NEWS1 โดย นพรัฐ พรวนสุข บก.ข่าวการเมืองและกระบวนการยุติธรรม เครือผู้จัดการ วันจันทร์ที่ 22 พฤษภาคม 2566 ตอน “ก้าวไกล” เคี้ยวไม่ง่าย แก้เกมตั้งรัฐบาล MOU ไม่ใส่ ม.112
ห้วง 60 วันก่อนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) รับรองผลการเลือกตั้งให้ได้ 95% เพื่อให้เปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกได้ เป็นช่วงเวลาของการชิงไหวชิงพริบ
หลายพรรคที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะขั้วรัฐบาลเดิม นำโดยพรรคภูมิใจไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคชาติพัฒนากล้า นิ่งสงบอยู่ในที่ตั้ง
ปล่อยให้พรรคแกนนำฝ่ายค้านเดิม นำโดยพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย พรรคประชาชาติ พรรคไทยสร้างไทย พรรคเสรีรวมไทย ตลอดจนพรรคเป็นธรรม พรรคเพื่อไทรวมพลัง พรรคพลังสังคมใหม่ เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลเต็มที่
ในเกมที่ใครต่อใครต่างอ่านออกว่า ที่สุดแล้วพรรคก้าวไกล ที่กำลังฮึกเหิมในฐานะพรรคอันดับ 1 รวบรวมเสียงได้ 313 เสียง อาจจะเจอทางตันในชั้นการโหวตนายกรัฐมนตรี เพราะต้องการอีก 60 กว่าเสียง จาก ส.ว. ตลอดจนพรรคร่วมรัฐบาลเดิม ที่ยากจะมาเติมให้ถึง
โดยเฉพาะเงื่อนไขการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ของร้อน ที่ไม่ว่าพรรคไหน รวมถึงพรรคร่วมฝ่ายค้านเดิมที่กำลังเดินหน้าจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ไม่อยากข้องแวะหรือแตะต้อง ยกเว้นเสียแต่พรรคก้าวไกลพรรคเดียวที่นำเรื่องนี้ไปหาเสียงไว้
ที่สุดเชื่อกันว่า เมื่อชื่อของ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ไปติดหล่มอยู่ในที่ประชุมร่วมรัฐสภา แม้จะพยายามโหวตครั้งแล้วครั้งเล่า โมเมนตัมมันจะไหลไปที่พรรคเพื่อไทย ในฐานะพรรคอันดับ 2 เพื่อปลดล็อกทางตันนี้ให้จัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ
แม้พรรคเพื่อไทยหลายคนจะออกมาย้ำเป็นร้อยครั้งพันครั้งว่า จะสนับสนุน พิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ให้สำเร็จ บางคนอย่าง จาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงขั้นประกาศหากจัดตั้งรัฐบาลไม่สำเร็จ พรรคเพื่อไทยพร้อมจะไปเป็นฝ่ายค้านกับพรรคก้าวไกล
แต่นั่นมันเป็นอุดมคติ เพราะมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ในชีวิตจริง พรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทย รวมถึงมีร่วม 300 เสียง ถือครองเสียงข้างมากในสภา ไม่มีทางจะไปอยู่ในบทบาทฝ่ายค้านได้ และที่สำคัญ พรรคขั้วรัฐบาลเดิมที่ตอนนี้ ไม่มีทางกล้าจัดตั้งรัฐบาลแข่งทั้งที่มีเสียงเพียง 100 กว่าที่นั่งเท่านั้น
แต่การพูดในลักษณะดังกล่าว เสมือนหนึ่งว่า พร้อมเคียงบ่าเคียงไหล่ ร่วมเป็นร่วมตายกับพรรคก้าวไกล มันเป็นเพียงความคิดเห็น หรือความต้องการส่วนตัวของคนพูดที่ไม่ได้มีอำนาจตัดสินใจภายในพรรคเพื่อไทยแต่อย่างใด
ทุกคนทราบดีว่า เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงที่มีอำนาจตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรคือ ใคร และเมื่อไม่กี่วันก่อน โทนี่ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาพูดแล้วว่า พร้อมร่วมกับพรรคก้าวไกล แต่ไม่เอาด้วยถ้าจะแตะต้องกับสถาบัน
ซึ่งมีพรรคเดียวที่ประสงค์จะแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั่นคือ พรรคก้าวไกล ที่ โทนี่ ระบุว่าพร้อมจะร่วมงานด้วย
ฉะนั้น คนที่ออกมาพูดของพรรคเพื่อไทยขณะนี้เป็นเพียงตัวประกอบเท่านั้น ไม่เว้นแม้แต่หัวหน้าพรรคอย่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว เองก็ตาม
ไม่ต่างกับพรรคประชาธิปัตย์ ที่หลายคนออกมายุให้โหวตชื่อ พิธา เพื่อปิดสวิตช์ ส.ว. เพื่อจะใช้เหตุการณ์ครั้งนี้มากอบกู้เกียรติยศของพรรคที่พังทลายมาหลายปี เพียงแต่คนที่ออกมาพูดอย่าง อลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค ไม่ได้มีอำนาจในตัดสินใจว่าพรรคจะไปทิศทางใด
คนมีอำนาจตัดสินใจในพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้คือ บรรดาสายใต้ นำโดย เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค เดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรค ที่ต่างสงบนิ่งเหมือนกับพรรคพลังประชารัฐ พรรคภูมิใจไทย
ทุกพรรคพยายามนั่งมองการแก้เกมกันระหว่างพรรคก้าวไกลกับพรรคเพื่อไทยเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลว่า ใครจะเล่นได้แนบเนียนกว่าในกระดานนี้
พร้อมๆ กับรอจังหวะเดดแอร์ ในช่วงของการโหวตนายกรัฐมนตรี นอกจากนั้นทำอะไรไม่ได้เลยในตอนนี้
ทุกคนเชื่อว่า ที่สุดพรรคก้าวไกลจะไปไม่ถึงฝั่งฝัน และจะเป็นพรรคเพื่อไทยที่จะได้โอกาสรวบรวมเสียง ซึ่งมีโอกาสที่จะทะลุ 376 เสียงได้ไม่ยาก
หากใครจับปฏิกิริยาสังคมตอนนี้จะเห็นว่า มวลชนกลุ่มคนเสื้อแดงกับมวลชนฝ่ายอนุรักษ์นิยม กำลังกลายเป็นเนื้อเดียวกันโดยอัตโนมัติ
กลุ่มคนที่สนับสนุนพรรคขั้วรัฐบาลเดิม ที่ต่อต้านระบอบทักษิณ เลือกที่จะกลืนน้ำลายตัวเองเพื่อให้พรรคเพื่อไทยจัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ มากกว่าที่จะยอมให้พรรคก้าวไกลบริหารประเทศ
จุดร่วมของคนกลุ่มนี้คือ ไม่ต้องการให้มีการแตะต้องหรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112
ซึ่งมันเป็นทางออกและข้ออ้างข้อเดียวตอนนี้ที่พรรคเพื่อไทยสามารถพลิกขั้วการเมืองครั้งใหญ่ของประเทศได้
เพียงแต่พรรคก้าวไกลในเวอร์ชั่นปัจจุบันไม่ได้เป็นเคี้ยวง่ายขนาดนั้น เด็กเหล่านี้อาจเป็นเด็กรุ่นใหม่ เป็น ส.ส.สมัยแรก มีความเคี่ยวมากขึ้น จากบทเรียนตลอด 4 ปีที่ถูกพรรคการเมืองอื่นสอนมวย
พรรคก้าวไกลมีหรือที่จะไม่รู้ว่า พรรคเพื่อไทยคิดอะไร ไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ลิเกโรงใหญ่ของพรรคเพื่อไทย
หากสังเกตจะเห็น พรรคสีส้มพยายามแก้เกมเพื่อปิดประตูพรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมอื่นๆ ไม่ให้มีทางดิ้น แม้แต่เรื่องประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ใครต่อใครคิดว่า พรรคก้าวไกลจะไม่ยอมลดเพดาน ด้วยการไม่เขียนไว้ในเอ็มโอยูจัดตั้งรัฐบาล
พรรคก้าวไกลถอยอย่างชาญฉลาดคือ เมื่อพรรคอื่นไม่เอา อย่างนั้นให้เป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลพรรคเดียวได้
กลายเป็นพรรคเพื่อไทยที่ต้องพลิกแพลงหาทางดีดตัวออกจากพรรคก้าวไกลอย่างชอบธรรม หรือโดนด่าน้อยที่สุด ถ้าคิดจะเขี่ยก้าวไกล ตั้งตัวเป็นแกนตั้งรัฐบาล
-------------------
**หมายเหตุ
ดาวโหลดแอป Sondhi App ได้แล้ว
ระบบ iOS ไปที่ AppStore : https://apps.apple.com/th/app/sondhi-app/id1588046647
ระบบ android ไปที่ Google Play : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.sondhitalk.asia.android
สมัครสมาชิกได้แล้ววันนี้
รายเดือนเพียง เดือนละ 99 บาท
รายปี 990 บาท (10 เดือน แถม 2 เดือน )
ถ้ามีปัญหาการใช้งาน app หรือการสมัครสมาชิกใน app ติดต่อสอบถามได้ที่ Line id : @sondhitalk หรือ https://lin.ee/Skns1k1