ภาวะตลาดหุ้นไทยปิดเช้าลบ 7.30 จุด แกว่งแคบ รับแรงซื้อกลุ่ม รพ. และพลังงาน สลับแรงขายกลุ่มโรงไฟฟ้า สำหรับแนวโน้มตลาดช่วงบ่าย นายณัฐพล คาดว่าตลาดจะแกว่งไซด์เวย์รอดูจำนวนเสียงที่เข้ามาเติมให้พรรคร่วมรัฐบาล โดยให้แนวรับที่ 1,522 จุด แนวต้านที่ 1,530 จุด
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ เคลื่อนไหวแคบๆ ออกด้านข้าง โดยมีแรงเก็งกำไรหุ้นงบไตรมาส 2/66 ดี ได้แก่ กลุ่มการแพทย์ โดยเฉพาะ BH ที่มีแรงเก็งกำไรหนาแน่น มีกำไรดีกว่าคาด และมีการจ่ายเงินปันผล นอกจากนี้ กลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นมาตามราคาพลังงาน เช่น PTTEP, PTT, TOP จากราคาน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวสูงขึ้น
ส่วน Domestic Play เช่น กลุ่มโรงไฟฟ้า BJC ถูกขายออกมา เนื่องจากโรงไฟฟ้ารับราคาก๊าซธรรมชาติสูงขึ้น ส่วน BJC ผลประกอบการไตรมาส 2/66 ต่ำกว่าคาด ทำให้ภาพตลาดเช้านี้มีทั้งแรงซื้อและแรงขายผสมกันในหุ้นใหญ่
นอกจากนี้ ตลาดติดตามพัฒนาการเมืองที่พรรคเพื่อไทยซึ่งเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ในวันนี้ได้ 10 เสียงจากพรรคชาติพัฒนาเข้ามาเติมเสียงในฝั่งพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้มีจำนวน 238 เสียงแล้ว และรอดูภายในสัปดาห์นี้จะมีจำนวนเสียงเข้ามาเติมให้พรรคร่วมรัฐบาลเข้ามาหรือไม่ ซึ่งพรรคเพื่อไทยระบุว่ารวมเสียงโหวตนายกรัฐมนตรีได้มากเกินกึ่งหนึ่ง หรือ 250 เสียง โดยหากทำได้คาดว่าดัชนี SET จะกลับมาที่เดิมระดับ 1,540-1,550 จุดที่เป็นช่วงศาลรัฐธรรมนูญเลื่อนการพิจารณารับคำร้องกรณีรัฐสภามีมติตีความว่าการเสนอชื่อบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้รัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบในรอบที่ 2 เมื่อวันที่ 3 ส.ค.ที่ผ่านมา
ด้านภาวะตลาดหุ้นไทยปิดการซื้อขายครึ่งวันเช้าที่ระดับ 1,521.00 จุด ลดลง 7.30 จุด หรือเปลี่ยนแปลง -0.48% มูลค่าซื้อขายราว 31,166 ล้านบาท
สำหรับแนวโน้มตลาดช่วงบ่าย นายณัฐพล คาดว่าตลาดจะแกว่งไซด์เวย์รอดูจำนวนเสียงที่เข้ามาเติมให้พรรคร่วมรัฐบาล โดยให้แนวรับที่ 1,522 จุด แนวต้านที่ 1,530 จุด
