เอชพีมองพฤติกรรมผู้บริโภคหลังสถานการณ์แพร่ระบาด ธุรกิจ SMEs เริ่มกลับมาเติบโตชัดเจน และมีความต้องการนำไอทีมาช่วยให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มเครื่องพิมพ์ที่ต้องเน้นความง่าย ต้นทุนที่ถูกลง และบริการที่ครอบคลุม ทำให้เอชพีต้องเร่งทำงานเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
วรานิษฐ์ อธิจรัสโรจน์ กรรมการผู้จัดการ เอชพี อิงค์ ประเทศไทย กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจหลังโควิด-19 ทั้งในภูมิภาคอาเซียน และไทย พบว่าธุรกิจ SMEs เริ่มกลับมาเติบโตอย่างชัดเจน ในขณะที่กลุ่มธุรกิจรีเทล การท่องเที่ยว จะเป็นกลุ่มหลักที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศไทย
“ภาคธุรกิจส่วนใหญ่ยังต้องการไอทีเข้ามาช่วยให้ธุรกิจแข็งแรงขึ้น ซึ่งกลายเป็นว่าในปัจจุบันงานกว่า 70-80% ไอทีสามารถเข้าไปช่วยได้อย่างการลดความยุ่งยากในการทำงาน หรือแม้แต่งานเอกสารต่างๆ ที่เครื่องพรินเตอร์ในปัจจุบันมีความสามารถเพิ่มขึ้น”
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันในส่วนของ SMEs ลูกค้าจะมีความท้าทายในการนำสินค้าไอทีเข้าไปใช้งาน เพราะเป็นธุรกิจที่มีความหลากหลาย ความชำนาญในการใช้งานแตกต่างกัน แตกต่างจากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีฝ่ายไอทีคอยช่วยดูแลหลังบ้าน
ดังนั้น สินค้าที่จะเข้ามาตอบโจทย์ SMEs ที่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าของธุรกิจใช้งานเอง หรือทำงานร่วมกับพนักงานไม่กี่คนจึงต้องเน้นความง่าย ซึ่งที่ผ่านมา หลังจาก เอชพี เริ่มนำเสนอพรินเตอร์แบบอิงค์แท็งก์ซีรีส์ใหม่ ที่มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องพิมพ์อย่างเดียว และมัลติฟังก์ชัน ได้รับการตอบรับที่ดีจากตลาดอย่างต่อเนื่อง
“เครื่องพิมพ์ของเอชพีจะถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย ตั้งแต่เรื่องของการสั่งพิมพ์ที่สามารถทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน การสแกนเอกสารและบันทึกผ่านระบบคลาวด์ ทำให้สามารถนำไปใช้งานต่อได้ทันที หรือการสั่งพิมพ์ระยะไกล ซึ่งฟีเจอร์เหล่านี้เข้ามาช่วยให้ผู้ประกอบการทำงานได้ง่ายขึ้น”
นอกจากนี้ เอชพียังเป็นแบรนด์เดียวที่มีให้บริการหลังการขายของสินค้าในกลุ่มเครื่องพิมพ์แบบ On Site Service ครอบคลุมระยะเวลา 2 ปี 77 จังหวัด ตั้งแต่สินค้าในกลุ่มราคา 4,000-5,000 บาท รวมถึงมีคอลเซ็นเตอร์ที่ทำงานแบบ 24 ชั่วโมง 7 วัน ให้บริการด้วย
ทั้งนี้ กลยุทธ์ของเอชพีในการทำตลาดเครื่องพิมพ์ในปี 2567 จะเน้นที่การทำงานเพื่อเข้าไปตอบโจทย์ลูกค้าให้ดีขึ้น เสริมโอกาสในการเติบโตอยู่ที่การดูแลลูกค้า และเติบโตไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นในฝั่งของคอนซูเมอร์มีสิ่งที่ต้องทำ เนื่องจากตลาดทรงตัวๆ แต่ต้องทำให้ดีกว่าที่เคยทำ รวมถึงการเข้าไปลูกค้าบางกลุ่มที่ยังเจาะเข้าไปไม่ได้
“การที่เอชพีทำราคาเครื่องพิมพ์ได้ดีขึ้น รวมถึงบริการหลังการขาย และคุณภาพของผลิตภัณฑ์ จะเป็นตัวแปรสำคัญที่ช่วยสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า และเอชพีต้องทำการตลาด รวมถึงทำงานร่วมกับพาร์ตเนอร์เพิ่มเติมเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดให้เพิ่มขึ้น พร้อมกับการเพิ่มทางเลือกในการใช้งานให้ลูกค้ามากกว่าเครื่องพิมพ์เลเซอร์”