SAMART 3 ไตรมาส ปี 2566 รายได้ 7,419 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 20% หรือราว 1,205 ล้านบาท จากการฟื้นตัวธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสนามบินและการเดินทาง และการรับรู้รายนของโครงการหลัก เช่น Digital Trunked Radio โครงการ Direct Coding และโครงการที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าและสายส่งไฟฟ้าแรงสูง พร้อมมีงานในมือรวมกันราว 10,000 ล้านบาท
นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ รองประธานกรรมการบริหารฝ่ายกลยุทธ์องค์กร บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าปี ในปี 2566 ยังคงเป็นปีที่ท้าทาย แม้จะมีปัจจัยบวกที่สนับสนุนการขับเคลื่อนธุรกิจ อย่างการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว การเดินทาง และการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วยนโยบายส่งเสริมของภาครัฐ แต่ยังคงมีความท้าทายจากงบประมาณภาครัฐที่ค่อนข้างจำกัด การลงทุนของภาคเอกชนที่ชะลอตัว ภาวะสงครามและความไม่สงบในต่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
ในช่วงที่ผ่านมา กลุ่มสามารถจุงเร่งขยายฐานลูกค้าและเทคโนโลยีในสายธุรกิจ Digital ICT Solutions โดยขยายโซลูชันและบริการไปสู่รัฐวิสาหกิจและเอกชนมากขึ้น ตั้งแต่การทำงานร่วมกับ IBM เพื่อนำเสนอ IBM Maximo ทำให้สามารถเซ็นสัญญาโครงการพัฒนาระบบงาน CMMS หรือระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุง จาก กฟน. มูลค่า 135 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังชูเทคโนโลยีในด้าน Security, Big Data, E-Document, ERP, โซลูชันสำหรับภาคการเงินและธนาคาร อีกทั้งสามารถเทลคอมยังได้จับมือกับ PowerSchool ผู้ให้บริการ Digital Education Platform ชั้นนำจากสหรัฐอเมริกา เพื่อรุกธุรกิจเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในประเทศไทย ขยายธุรกิจเทคโนโลยี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมและตรวจสอบในโครงการ Direct Coding เพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีให้แก่กรมสรรพสามิต
โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา สามารถเทลคอม รายได้จากค่าบริการรวม 637 ล้านบาท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเข้าสู่ช่วง High Season ในไตรมาสที่ 4 จึงคาดว่าจะมีรายได้ทั้งปี จำนวน 900 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัท สามารถคอมมิวนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด ในกลุ่มสามารถเทลคอม ได้งานโครงการจัดหาระบบตรวจสอบสิ่งของสัมภาระที่ติดตัวผู้โดยสารกับกรมศุลกากร มูลค่า 373 ล้านบาท
พร้อมกับการเร่งขยายฐานผู้ใช้บริการระบบสื่อสาร Digital Trunked Radio ที่ปัจจุบันมีการรับรู้รายได้เดือนละประมาณ 30 ล้านบาท หลังจากการส่งมอบเครื่องโครงการมหาดไทย และได้ตั้งเป้าในการขยายฐานผู้ใช้บริการไปยังหน่วยงานอื่นๆ เช่น การปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่ดูแลความมั่นคง ความปลอดภัย และสาธารณสุข เป็นต้น โดยคาดว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนผู้ใช้บริการได้อีกราว 30,000 รายในปีหน้า
ในส่วนของสายงาน Utilities & Transportation การนำ SAV หรือสามารถเอวิเอชั่น โซลูชั่นส์ เข้าจดทะเบียนใน ตลท.เมื่อปลายเดือน ก.ย.2566 โดยมีการจ่ายปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 0.75 บาท เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา จากรายได้ที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ SAV ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา รวมจำนวน 1,110 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%
SAV จึงเป็นกำลังสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลุ่มสามารถ และมีความพร้อมในการขยายสู่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ในอนาคต นอกจากนี้ ในสายธุรกิจ UTrans ยังประกอบด้วยธุรกิจออกแบบ ก่อสร้างสถานีและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงครบวงจรภายใต้บริษัท เทด้าและทรานเซ็ค ซึ่งในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีรายได้รวมกันกว่า 800 ล้านบาท และมีมูลค่างานในมือรวม 4,780 ล้านบาทในปัจจุบัน
“กลุ่มสามารถยังเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับงานในอนาคต โดยเฉพาะงานที่มีประสบการณ์และความชำนาญเป็นทุนเดิมเช่น การติดตั้งระบบอุปกรณ์และการบริหารจัดการในสนามบิน การพัฒนาโครงสรางพื้นฐานด้านการขนส่ง การเดินทาง และพลังงานจึงมั่นใจว่ากลุ่มสามารถมีโอกาสเติบโตได้อย่างมั่นคง ด้วยรายได้ประจำที่เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนและโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่รออยู่”