xs
xsm
sm
md
lg

OPPO บุกมือถือจอพับพรีเมียม ส่ง Find N3 ราคาเฉียด 7 หมื่นบาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ออปโป้ (OPPO) หวังขยายตลาดในกลุ่มไฮเอนด์ด้วยสมาร์ทโฟนจอพับ หลังเห็นผลตอบรับจากรุ่นก่อนหน้าชิงส่วนแบ่งได้ถึง 1 ใน 3 เชื่อผลตอบรับจากทั้ง 2 รุ่นใหม่ในปีนี้อย่าง Find N3 และ Find N3 Flip จะช่วยผลักดันให้ OPPO ขึ้นสู่ผู้นำสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ได้ในอนาคต

ชานนท์ จิรายุกุล ประธานกรรมการอาวุโสฝ่ายบริหาร ออปโป้ ประเทศไทย กล่าวว่า ในปัจจุบัน ออปโป้ถือเป็นผู้จัดจำหน่ายอันดับ 2 ในประเทศไทย และเล็งเห็นว่าตลาดสมาร์ทโฟนจอพับทั้งในรูปแบบของ Flip และ Fold เติบโตอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มผู้ใช้งานที่มีกำลังซื้อสูง

“การทำตลาด Find N2 Flip ในช่วงต้นปี ทำให้ออปโป้มีตัวเลือกในตลาดแฟลกชิป จากกระแสตอบรับที่เกินความคาดหมาย ทำให้ในช่วงครึ่งปีแรกมีส่วนแบ่งตลาดถึง 33% ของสมาร์ทโฟนจอพับ และในช่วงปลายปีนี้ เมื่อออปโป้ทำตลาดทั้งสมาร์ทโฟนจอพับทั้งแบบ Flip และ Fold ยิ่งทำให้ตลาดนี้เติบโตขึ้นไปอีก”

ข้อมูลจากบริษัทวิจัยเคาเตอร์พอยท์ ชี้ให้เห็นภาพการเติบโตของสมาร์ทโฟนจอพับที่คาดว่าภายในปี 2568 จะอยู่ที่ราว 55 ล้านเครื่อง เติบโตจากในปัจจุบัน 4 เท่า และขึ้นมามีสัดส่วนคิดเป็น 16% ของตลาดรวมสมาร์ทโฟน

ในส่วนของภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนประเทศไทย ในช่วงท้ายไตรมาส 3 ที่ผ่านมา พบว่า จำนวนยอดขายของสมาร์ทโฟนในปีนี้ลดลงราว 10% แต่ขณะเดียวกันกลายเป็นว่าในเชิงของมูลค่าเพิ่มขึ้นราว 3-4% ซึ่งกลายเป็นกลุ่มมือถือระดับเอนทรีได้รับผลกระทบมากที่สุด แต่ในกลุ่มของไฮเอนด์ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

“ตอนนี้ออปโป้ยังคงมุ่งเน้นในตลาดไฮเอนด์ และถือว่าทำได้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ และเชื่อว่าจากการเพิ่มไลน์ฝาพับให้ครอบคลุมนี้ จะช่วยให้ออปโป้เดินหน้าสู่ความสำเร็จในการเป็นผู้นำตลาดสมาร์ทโฟนไฮเอนด์ในอนาคต”

สำหรับในช่วงปลายปีนี้ OPPO นำสมาร์ทโฟนจอพับเข้ามาทำตลาดด้วยกัน 2 รุ่นคือ Find N3 ในลักษณะของมือถือหน้าจอ 6.3 นิ้ว ที่สามารถกางออกมาเป็นหน้าจอ 7.8 นิ้ว (Fold) และรุ่นต่อยอดฝาพับ Find N3 Flip ที่มีจอนอก 3.26 นิ้ว แนวตั้งให้ใช้งาน และเมื่อกางหน้าจอออกมาจะได้สมาร์ทโฟนหน้าจอ 6.8 นิ้ว


โดยจุดเด่นของ Find N3 คือการนำเสนอบานพับ Flexion Hinge รุ่นที่ 3 ที่เป็นรูปทรงหยดน้ำ ออกแบบให้เมื่อกางออกแล้วหน้าจอให้สัมผัสที่เรียบที่สุด โดยเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนคู่แข่งแล้วจะเมื่อกางออกจะได้หน้าจอที่เรียบกว่าที่เห็นได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า รวมถึงการสัมผัสที่ราบเรียบกว่าด้วย

จุดเด่นอีกอย่างของ Find N3 คือการนำเสนอหน้าจอภายนอกที่ให้สัดส่วน 20:9 ที่เป็นมาตรฐานของสมาร์ทโฟนทั่วไปในท้องตลาด จึงทำให้สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพแม้ยังไม่กางหน้าจอ และเมื่อกางใช้งานจะทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการ ColorOS 13.2 ที่ปรับปรุงมาให้ใช้งานแบบหลายหน้าต่างได้สะดวกขึ้นด้วย

นอกจากนี้ ยังมากลับกล้องหลังคุณภาพสูงจาก Hasselbled ที่ให้เลนส์หลัก และเลนส์มุมกว้างความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ตามด้วยเลนส์เทเลโฟโต้ 64 ล้านพิกเซล รวมถึงกล้องหน้าที่ 32 ล้านพิกเซล และ 20 ล้านพิกเซล ทำให้กลายเป็นสมาร์ทโฟนจอพับที่มีกล้องซูมดีที่สุดในท้องตลาด

ภายในของ Find N3 มากับหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 RAM 16 GB ROM 512 GB ตัวเครื่องผ่านมาตรการกันน้ำ IPX4 แบตเตอรี่ 4,800 mAh รองรับชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC แต่ไม่รองรับการชาร์จไร้สาย


ขณะที่ Find N3 Flip จะทำงานบนหน่วยประมวลผล MediaTek Dimensity 9200 RAM 12 GB ROM 256 GB แบตเตอรี่ 4,300 mAh รองรับชาร์จเร็ว 44W SUPERVOOC กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล เลนส์เทเลโฟโต้ 32 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 48 ล้านพิกเซล และเลนส์เซลฟี่ 32 ล้านพิกเซล

ทั้งนี้ OPPO Find N3 วางจำหน่ายด้วยกัน 2 สี คือ สีดำ Classic Black และสีทอง Champagn Gold ในราคา 69,990 บาท ในขณะที่ OPPO Find N3 Flip วางจำหน่ายด้วยกัน 3 สีคือ สีทอง Cream Gold สีชมพู Misty Pink และ สีดำ Sleek Black ในราคา 34,990 บาท

ผู้บริหารออปโป้ชี้ให้เห็นว่า แม้ราคาของ Find N3 Flip จะมีการปรับตัวสูงขึ้นจากเรื่องของค่าเงิน แต่ในแง่ของคุณภาพของสินค้าก็มีนวัตกรรมเข้ามาเสริม อย่างเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่ N3 Flip เป็นมือถือฝาพับที่มีเลนส์ครบทุกระยะ ขณะที่ Find N3 โดดเด่นทั้งเรื่องของดีไซน์ที่ตัวเครื่องบาง กล้องถ่ายภาพที่จัดเต็ม ทำให้เชื่อว่าผู้บริโภคที่สนใจเทคโนโลยีจะตอบรับสมาร์ทโฟนรุ่นนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น