xs
xsm
sm
md
lg

ต้องกังวลไหม? YouTube ทีวีเคลื่อนที่ ตามโฆษณาทุกเรื่องที่คุณสนใจ (Cyber Weekend)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย
ในยุคที่คนไทยมองยูทูป (YouTube) เท่ากับการรับชมทีวี ยิ่งตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของแพลตฟอร์มวิดีโอที่ปัจจุบันนับเป็นอันดับ 1 ในการเลือกรับชมคอนเทนต์ของผู้บริโภคในประเทศไทย ในทุกช่วงอายุ แม้จะเป็นการรับชมผ่านสมาร์ทโฟนก็ตาม

จากผลสำรวจของผู้บริโภคชาวไทยที่รับชมยูทูป พบว่า 2 ใน 3 มองว่าคือทีวี ซึ่งในจำนวนนี้มากกว่า 50% รับชมยูทูปผ่านสมาร์ทโฟน ซึ่งกลายเป็นสอดคล้องกับรูปแบบการให้บริการของยูทูปในปัจจุบันที่มีการนำเสนอคอนเทนต์ในหลากหลายรูปแบบทั้งวิดีโอสั้น คอนเทนต์รีรัน และวิดีโอคอนเทนต์ที่มีความยาวหลายชั่วโมง

ขณะเดียวกัน ยังถือเป็นครั้งแรกที่ยูทูปมีการประกาศช่วงเวลาไพรม์ไทม์ หรือช่วงที่คนไทยรับชมมากที่สุดคือช่วง 18.00-22.00 น. ในวันจันทร์-ศุกร์ และช่วง 10.00-18.00 น.ในวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุด ที่กลายเป็นว่าเมื่อมีเวลาว่างก็จะเลือกรับชมยูทูป

แจ็คกี้ หวาง
แจ็คกี้ หวาง Country Director Google ประเทศไทย กล่าวว่า จากข้อมูลพฤติกรรมการรับชม แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของแพลตฟอร์มยูทูปในการเป็นแพลตฟอร์มวิดีโอที่คนไทยรับชมและผูกพันมากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งแม้จะมีตัวเลือกอื่นๆ ให้รับชมมากมาย

“ยูทูปเข้ามาให้บริการในไทยอย่างเป็นทางการเมื่อ 9 ปีที่แล้ว และกลายเป็นว่าพฤติกรรมการรับชมวิดีโอออนไลน์ของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างมาก ปัจจุบันในทุกนาทีมีการอัปโหลดวิดีโอคอนเทนต์มากกว่า 500 ชั่วโมง มีเนื้อหาครอบคลุมหลายพันประเภท”

ที่สำคัญคือ ประสบการณ์รับชมวิดีโอบน YouTube ที่มีเบื้องหลังคือ AI ที่ถูกพัฒนามาในการนำเสนอคอนเทนต์ในรูปแบบที่ผู้ชมชื่นชอบ รวมถึงการปกป้องผู้ชมจากเนื้อหาที่เป็นอันตราย ช่วยให้คนทั่วโลกเข้าถึงเนื้อหาต่างๆ ได้มากขึ้น และในตอนนี้ YouTube ได้เริ่มนำความสามารถของ AI มาเปิดให้ครีเอเตอร์ และนักการตลาดเข้าไปใช้งาน


ขณะที่ในแง่ของการแข่งขันผู้ให้บริการในการรับชมวิดีโอ ข้อมูลสัดส่วนการรับชมของแต่ละช่วงอายุในแต่ละแพลตฟอร์ม ได้แสดงให้เห็นชัดเจนขึ้นไปอีกว่า ปัจจุบันในทุกกลุ่มช่วงอายุคนไทยยังรับชมยูทูปมากที่สุด เพราะในอีกมุมคือยูทูปมีทั้งการให้บริการแบบฟรี และมีแบบบอกรับสมาชิกเพื่อที่จะไม่รับชมโฆษณาด้วย

อย่างไรก็ตาม ด้วยการให้บริการของยูทูปที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันไม่ได้มีเฉพาะคอนเทนต์ยาวเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึง YouTube Shorts ที่เป็นคอนเทนต์สั้นกว่า 1 นาที เข้ามาจึงทำให้เป็นทางเลือกของผู้บริโภคในการเลือกรับชมกว้างขึ้น ตามแต่ละช่วงที่มีเวลา อย่างเช่นระหว่างเดินทางสั้นๆ ก็สามารถเปิดคอนเทนต์ Shorts รับชม หรือเวลาที่รับชมจากที่บ้านก็เข้าถึงคอนเทนต์ที่มีความยาวมากขึ้นได้

เพียงแต่ถ้าเจาะเข้าไปในบางช่วงอายุ จะเห็นพฤติกรรมการรับชมที่แตกต่างกันไป อย่างเช่นในช่วงอายุ 18-24 ปี 25-29 ปี และ 30-39 ปี จะมีการรับชมคอนเทนต์จากแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นอื่นๆ (TikTok - Reels) อยู่ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าข้ามไปช่วงอายุ 40 ขึ้นไป จะเห็นพฤติกรรมเหล่านั้นน้อยลง

แต่สิ่งที่ชัดเจนเลยคือคนทุกวัยยังเลือกรับชมยูทูป ทั้งในแง่ของความบันเทิง และการหาข้อมูลความรู้ ซึ่งไปสอดคล้องกับข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า กว่า 89% ของผู้ที่กำลังสนใจเลือกซื้อสินค้าต้องมีความเชื่อถือในแบรนด์ก่อน และกลายเป็นว่าบรรดาครีเอเตอร์ในยูทูปเข้ามาช่วยเสริมความน่าเชื่อถือให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น


ศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย Head of Southeast Asia YouTube Marketing และ Country Marketing Manager, Google ประเทศไทย กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่ทำให้ YouTube มีความสำคัญต่อแบรนด์ต่างๆ ก็คือการเป็นแพลตฟอร์มที่คนไทยไว้ใจมากที่สุดโดยผู้ชมชาวไทยกล่าวว่าโฆษณาบน YouTube นั้นน่าเชื่อถือที่สุด เช่นเดียวกับ 86% ของผู้ชม Gen Z ที่เห็นด้วยว่าโฆษณาในวิดีโอบน YouTube ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะพิจารณาแบรนด์หรือสินค้ามากขึ้น

ประเด็นที่เกิดขึ้นตามมาคือเม็ดเงินโฆษณาในโลกออนไลน์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการทำตลาดที่นำข้อมูลมาช่วยให้เข้าถึงผู้ใช้แบบเฉพาะเจาะจง หรือตามความชอบส่วนตัวมากยิ่งขึ้น แม้ว่าปัจจุบันคนไทยยังเลือกซื้อสินค้าตามหน้าร้านกว่า 95%

ความน่ากังวลของบริการดิจิทัลต่างๆ คือสามารถเข้าถึง และเรียนรู้พฤติกรรมของผู้ใช้ แม้ว่าจะมีความปลอดภัยในแง่ของการที่ไม่สามารถระบุตัวตนผู้ใช้ได้ แต่ก็เปิดทางให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงข้อมูลพฤติกรรมเพื่อยิงโฆษณาหาผู้ใช้แบบเจาะจงได้ด้วย

อย่างเช่น การนำข้อมูลความสนใจของเนื้อหาคอนเทนต์ที่รับชมในยูทูป การค้นหาสถานที่ในกูเกิล แมปส์ หรือรูปแบบการเดินทางต่างๆ มาคำนวณร่วมกัน เพราะในทุกวันนี้ผู้คนต่างพกสมาร์ทโฟนติดไปกับตัวอยู่แล้ว ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้จึงถูกจัดเก็บ และนำมาใช้งานได้ไม่ยาก




ข้อมูลจากยูทูป เผยให้เห็นว่า เม็ดเงินโฆษณาที่ลงในยูทูปนั้นให้ผลตอบรับในเชิงของยอดขายสินค้าทั่วไป สูงกว่าการลงโฆษณาในทีวีถึง 3.7 เท่า รวมถึงการที่แบรนด์สร้างแคมเปญกระตุ้นกำลังซื้อโดยเจาะจงผู้บริโภคที่นิยมซื้อสินค้าออฟไลน์ขึ้นในยูทูป จะช่วยเพิ่มยอดขายให้หน้าร้านได้ 1-4%

พร้อมกันนี้ YouTube ยังได้นำเสนอเครื่องมือที่ทำงานด้วย AI ที่จะเข้ามาช่วยประเมินแคมเปญโฆษณาให้อัตโนมัติ พร้อมแนะนำแนวทางในการปรับปรุงประสิทธิภาพของแคมเปญ หรือแม้แต่การนำเสนอครีเอทีฟโฆษณาที่จะช่วยเรียกยอดรับชมวิดีโอให้แก่แบรนด์ ไปจนถึงการใช้ AI เพื่อให้แบรนด์นำเสนอโฆษณาได้ในทุกช่องทาง และพื้นที่โฆษณาของกูเกิล

เครื่องมือ AI ใหม่ในยูทูป จะช่วยให้นักการตลาดสามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่สนใจในแบรนด์ได้แบบเจาะจงมากขึ้น เช่นเดียวกับการที่แบรนด์สามารถเลือกเข้าถึงกลุ่มผู้ที่ชื่นชอบในแบรนด์เพื่อสร้างความสัมพันธ์กับฐานลูกค้าให้มากขึ้นด้วย

เมื่อได้ฐานของผู้ชมที่ต้องการแล้ว AI ของยูทูปยังช่วยได้แม้กระทั่งการเลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ดีไวซ์ที่รับชม เพื่อนำเสนอรูปแบบของคอนเทนต์ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากแคมเปญโฆษณา ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอสั้นแนวตั้ง หรือโฆษณาในลักษณะของคอนเทนต์ปกติ

แน่นอนว่า เมื่อรูปแบบการโฆษณาบนยูทูปมีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้นในมุมของแบรนด์ ยังมีทางเลือกอย่างการทำงานร่วมกับครีเอเตอร์เพื่อสร้างการเข้าถึงกลุ่มผู้ชมที่เป็นฐานแฟนของแต่ละช่องโดยตรงอีก จึงกลายเป็นว่าการโฆษณาได้เข้าถึงคนไทยในการรับชมยูทูปในหลากหลายรูปแบบด้วยกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น