xs
xsm
sm
md
lg

กลุ่มจัสมินขยายความร่วมมือ KT โอเปอเรเตอร์เกาหลี พัฒนาแพลตฟอร์ม Gen AI

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พิชญ์ โพธารามิก นำคณะผู้บริหารกลุ่มจัสมิน เข้าพบคิม ยอน-ฮับ CEO เคที คอร์ปอเรชั่น (KT) เดินหน้าความร่วมมือพัฒนาแพลตฟอร์ม Generative AI ที่ครอบคลุมบริการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล พร้อมอัปเดตความคืบหน้าขายกิจการ 3BB รอเข้าบอร์ด กสทช. 25 ต.ค.นี้

โดยหลังจากบริษัท จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ JTS ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ร่วมกับบริษัท เคที คอร์ปอเรชั่น (KT) ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของประเทศเกาหลีใต้ ในการเป็นพันธมิตรด้านนวัตกรรม เพื่อพัฒนาและสร้างสรรค์แพลตฟอร์ม Generative AI ครอบคลุมบริการโครงสร้างพื้นฐาน Infrastructure as a Service (IAAS) บริการด้านโมเดล Model as a Service (MAAS) บริการด้านแพลตฟอร์ม Platform as a Service (PAAS) ไปจนถึงบริการด้านซอฟต์แวร์ Software as a Service (SAAS)

โดย JTS และ KT จะร่วมกันวางแผน ตลอดจนกำหนด Roadmap สำหรับธุรกิจใหม่ร่วมกัน โดย KT จะแชร์เทคโนโลยีที่ใช้ในการสร้าง Mi:dm ซึ่งเป็นบริการ AI ระดับไฮเปอร์สเกลของบริษัทที่กำลังจะเปิดตัวในปลายเดือนนี้ เพื่อพัฒนาโมเดล LLM สำหรับประเทศไทย ในขณะที่กลุ่มจัสมินจะทำการวิเคราะห์ตลาดระดับภูมิภาคและสร้างหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) โดย 2 บริษัทได้เตรียมวางแผนที่จะสร้างฟาร์ม GPU ในปี 2024 และช่วงครึ่งปีหลังจะเริ่มสร้าง Thai LLM ตามลำดับ

ทั้งนี้ อ้างอิงจากข้อมูลของบริษัทวิจัยระดับโลก Statista ปริมาณของตลาด Generative AI ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะสูงถึง 1.41 พันล้านดอลลาร์ในปี 2566 และเติบโตอย่างรวดเร็วเป็น 7.65 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2573 ทำให้ทางเคที (KT) คาดการณ์ว่า การมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในอุตสาหกรรม AI ผ่านทางความร่วมมือกับกลุ่มจัสมินจะเป็นการร่วมมือที่ประสบความสำเร็จในการบุกเบิกตลาด AI ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ การประกาศเสนอขายกิจการ บริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน) (TTTBB) หรือทรีบรอดแบนด์ (3BB) ให้บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) บริษัทลูกของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ AIS ทางคณะกรรมการ กสทช. จะนำเข้าประชุมบอร์ดในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ เมื่อผ่านการอนุมัติดังกล่าวแล้ว จะเป็นการควบรวมธุรกิจโทรคมนาคม 2 บริษัท ทำให้ได้ฐานลูกค้ารวมกันมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจะสามารถทำการตลาดได้ทันที และผสานเทคโนโลยีให้แก่กลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดในอนาคตต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น