xs
xsm
sm
md
lg

‘ประเสริฐ’ แจง 4 ภารกิจเร่งด่วนดีอีเอส

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รมว.ดีอีเอส แถลงนโยบายการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศภายใต้แผนงาน “The Growth Engine of Thailand” โดยโฟกัส 3 ด้านสำคัญคือ การเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล และการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ เพื่อเป็นแนวทางในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศในระยะถัดไป

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) แถลงนโยบายการดำเนินงานของกระทรวง ภายใต้แผนงาน “The Growth Engine of Thailand” ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่ 5 หรือเครื่องยนต์ดิจิทัลในการพัฒนาประเทศนอกเหนือจาก 4 เครื่องยนต์ที่มีอยู่คือ การลงทุน การบริโภค การท่องเที่ยว และการส่งออก โดยจะให้ความสำคัญ 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.การเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ (Thailand Competitiveness) 2.การสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Safety & Security) และ 3.การเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ (Human Capital)

***ดิจิทัลสร้างความได้เปรียบการแข่งขันของประเทศ


ด้านการเพิ่มขีดความสามารถด้านดิจิทัลในการสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของประเทศ กระทรวงดีอีเอสจะมุ่งเน้นในเรื่องของการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างโอกาสจากโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลของประเทศอย่างจริงจัง โดยจะเร่งพัฒนาระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเครือข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5G ให้มีการใช้งานที่สอดคล้องกับการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม

สร้างโอกาสความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนผ่านโครงข่ายการสื่อสารระหว่างประเทศสู่ระดับนานาชาติ มุ่งเน้นบทบาทในการเป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงระบบเครือข่ายเคเบิลใต้น้ำผ่านกรอบความร่วมมือระดับภูมิภาค การขยายโอกาสผ่านเส้นทาง One-belt และ China Plus One เร่งรัดและแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการค้าออนไลน์และ E-commerce ลดความยุ่งยากในการใช้ National Digital ID หรือระบบพิสูจน์ยืนยันตัวตนของผู้รับบริการภาครัฐและเอกชนผ่านระบบออนไลน์ เตรียมพร้อมรองรับยุคเศรษฐกิจ AI อีกทั้งเร่งให้เกิดแผนแม่บทการส่งเสริมการพัฒนา AI โดยเฉพาะการวางแนวทางการเยียวยาความเสียหายจากความผิดพลาดของ AI (Responsible AI) อย่างมีทิศทาง

นอกจากนี้ กระทรวงดีอีเอสจะเร่งสร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขันของไทยสู่เวทีโลกจากเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านแผนงานการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของ Digital Startup เน้นการสร้างระบบ Co-Investment และกองทุนเพื่อการพัฒนา Digital Startup Go Global ยกระดับศักยภาพการสร้างรายได้ของเกษตรกร สนับสนุนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น New World of Digital Content and E-SPORTS และเป็นจุดหมายทางการค้า การลงทุนในเวทีโลก

ส่งเสริมการลงทุนจัดตั้งธุรกิจ OTT Platform ในประเทศไทย พร้อมเร่งประสานแก้ไขปัญหาเพื่อให้การจัดตั้งธุรกิจมีความสะดวกและเป็นธรรมในการจัดเก็บภาษีธุรกิจประเภทต่างๆ โดยมุ่งพัฒนามาตรการหรือสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนเพื่อให้ไทยเป็นระบบนิเวศที่แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีการปรับตัวไปก่อนหน้าได้ อีกทั้งพัฒนา National Platforms เพื่อเป็นส่วนช่วยในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ

สร้างสังคมดิจิทัลบนฐานความรู้ ทั่วถึง รู้ประยุกต์ใช้เป็น โดยเปิดโอกาสการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพื่อการเรียนรู้แก่เด็กและเยาวชนผ่านการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน สร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนไทยสามารถสืบค้นข้อมูลในห้องสมุดโลกผ่านระบบ AI ที่มีความปลอดภัยและมีความถูกต้องของข้อมูล ยกระดับชุมชนสู่การเป็นชุมชนดิจิทัล หรือ One Community One Digital โดยการส่งเสริมให้ชุมชนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสร้างรายได้และก้าวทันความเปลี่ยนแปลงในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการบริการของรัฐบาลดิจิทัล โดยการเชื่อมโยงข้อมูลขนาดใหญ่ของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการบริการแก่ภาคประชาชน ภาคเอกชน หรือแม้แต่ภาครัฐในทุกมิติ และการเปิด API ให้ประชาชนและภาคเอกชนสามารถใช้ประโยชน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น

พร้อมเร่งรัดให้เกิดบริการภาครัฐแบบ One Stop Service พัฒนาระบบ One Wallet ส่งเสริมการนำเทคโนโลยี Blockchain และ Smart Contracts มาใช้สร้างกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่เพื่อให้ประชาชนและธุรกิจภาคเอกชนสามารถเข้าถึงการบริการได้สะดวก ปลอดภัย โดยจะเปิดโอกาสให้ Digital Startup ไทยเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบ

สร้างเครือข่ายนานาชาติและ Digital Diplomacy เชิงรุกระหว่างประเทศ โดยเตรียมความพร้อมเข้าเป็นสมาชิก Organization for Economic Cooperation and Development (OECD) และร่วมมือกับหน่วยงานด้านดิจิทัลระหว่างประเทศในเวทีพหุภาคี ส่งเสริมและกระชับความร่วมมือเชิงรุกในรูปแบบทวิภาคีกับประเทศแถวหน้าด้านดิจิทัล และเร่งสร้าง Mega Program พลิกโฉมประเทศไทย ผ่านการพัฒนา ASEAN Digital HUB โดยการขยายผลโครงการ Thailand Digital Valley ให้เชื่อมโยงกับการพัฒนาเขตธุรกิจใหม่ (New Business Zone) และขยายเขตเมืองอัจฉริยะ (Smart City) ทั่วประเทศ

*** เร่งสร้าง Safety & Security


นายประเสริฐ กล่าวว่า ด้านที่ 2 แนวทางการสร้างความมั่นคงและปลอดภัยของเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล จะต้องเร่งรัดการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไทย ผ่านแผนงานการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมไซเบอร์โดยเร่งด่วน โดยจะประสานงานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อตรวจสอบและจับกุมผู้เปิดบัญชีแทน/บัญชีม้าในประเทศไทย เว็บพนันออนไลน์ รวมถึงมิจฉาชีพคอลเซ็นเตอร์ และจะเพิ่มประสิทธิภาพระบบการอายัดบัญชีให้ทันท่วงที

ควบคู่ไปกับการป้องกันการจู่โจมทางไซเบอร์จากต่างประเทศ ผ่านแผนงานการสร้างศูนย์เตือนภัยไซเบอร์ (Cyber Alert Center) ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมการยกระดับศูนย์ประสานงานด้านความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศทุกระดับ เตรียมความพร้อมภาครัฐและภาคเอกชนด้านข้อมูลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ โดยการให้ความรู้และส่งเสริมให้เกิดความพร้อมด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ รวมถึงการส่งเสริมระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ทั้งในระดับความมั่นคงปลอดภัยสูงสุดและระดับทั่วไป

***เพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ดิจิทัล


ในส่วนด้านที่ 3 การเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ กระทรวงดีอีเอสจะให้ความสำคัญกับการผลิตเมล็ดพันธุ์ดิจิทัล สร้างรากฐานอนาคตประเทศไทย ผ่านการสร้างโรงเรียนโค้ดดิ้งสำหรับเด็กไทยทุกคน (Coding Thailand) และการสร้างห้องเรียนทางเลือกให้เด็กมีสิทธิเลือกเรียนวิชาชีพอนาคต ตรงใจ ตรงตัว ตรงงาน

รวมถึงการสร้างเด็กอาชีวะดิจิทัล (Digital Skills for Future Industries) สร้างแรงงานไทยให้มีทักษะและความรู้ด้านดิจิทัล โดยการสร้างห้องเรียนฟรีสำหรับคนไทยวัยทำงาน จัดให้มีห้องเรียนเปิดด้านดิจิทัล หรือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ของคนไทย เรียนฟรี 24 ชั่วโมง ช่วยให้คนวัยทำงานทุกคนมีโอกาส Upskill และ Reskill ทักษะที่เหมาะสมกับตัวเอง และทักษะอื่นที่จำเป็นสำหรับงานในโลกอนาคต และจัดให้มีมาตรการทางภาษีเพื่อกระตุ้นการพัฒนาทักษะดิจิทัล (Incentives for Thais)

นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มกำลังคนดิจิทัลในสาขาขาดแคลน โดยการพัฒนาระบบการศึกษาด้านดิจิทัลรูปแบบเปิด (Open Digital University) มุ่งพัฒนาระบบการเรียนบนโลกดิจิทัลเพื่อสร้างโอกาสให้คนไทยได้เรียนกับมหาวิทยาลัยชั้นนำ หรือบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลระดับโลกผ่านระบบ 5G พร้อมดึงดูดกำลังคนในสาขาที่ขาดแคลนยิ่งยวด โดยให้มี Global Digital Talent Visa สำหรับเด็กที่จบจากมหาวิทยาลัย Top 600 ระดับโลก มีโอกาสได้มาท่องเที่ยวและทำงานกับบริษัทไทยที่มีความตกลงได้โดยสะดวก เพื่อประโยชน์ในการเติมเต็มกำลังคนของประเทศ และสร้างโอกาสด้านดิจิทัลให้คนกลุ่มเปราะบางผ่านแผนงาน Digital for ALL หรือการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับผู้สูงวัยและผู้พิการ เพื่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพชีวิต มีงานทำ และมีรายได้


ทั้งนี้ กระทรวงดีอีเอสได้กำหนด 4 ภารกิจเร่งด่วนคือ 1.การจัดตั้งศูนย์เตือนภัยไซเบอร์ (Cyber Alert Center) เพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ได้รับความทุกข์จากการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน 2.เร่งส่งเสริมชุมชนดิจิทัลโดรนใจ เป็นการใช้โดรนเพื่อการเกษตรทั้งพ่นยาหรือหว่านปุ๋ย ตามแผนการดำเนินงานยกระดับชุมชนสู่การเป็นชุมชนดิจิทัล หรือ One Community One Digital ไม่น้อยกว่า 500 ชุมชน 50 ธุรกิจ ครอบคลุมพื้นที่ 4 ล้านไร่ เพื่อเพิ่มรายได้และลดรายจ่ายให้เกษตรกร 3.เร่งสร้างและพัฒนาอาชีพในอุตสาหกรรมเกมและกีฬา E-SPORTS แก่เยาวชนไทยมากกว่า 80,000 คน โดยคาดว่าจะเกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท และ 4.แก้ไขปัญหาการขาดแคลนกำลังคนแก่ภาคอุตสาหกรรมผ่าน Global Digital Talent Visa โดยเฉพาะตำแหน่งงานที่ขาดแคลน

‘กระทรวงยังมีแผนเรื่องบุคลากร ในช่วงแรกจะเป็นสถิติจังหวัดที่จะทำหน้าที่เป็นดิจิทัลจังหวัดเพื่อสนับสนุนการทำงานของกระทรวง ซึ่งดีอีเอสอยู่ระหว่างวางแผนกำลังพลเพื่อให้มีดิจิทัลอำเภอ ซึ่งจะทำหน้าที่เชื่อมโยงข้อมูลไซเบอร์ด้านต่างๆ ไปชี้แจงให้ชุมชนรับทราบ’


กำลังโหลดความคิดเห็น