กสทช.-ตำรวจ เรียกประชุมแนวทางบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคม เพิ่มมาตรการปราบปรามซิมผี บัญชีม้า สถานีเถื่อน และเสาสัญญาณแนวชายแดนผิดเงื่อนไข
พล.ต.อ.ดร.ณัฐธร เพราะสุนทร กสทช.ด้านกฎหมาย และประธานอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ กล่าวว่า หลังจากลงพื้นที่ตามแนวชายแดนในการกวาดล้าง และจับกุมการลักลอบให้บริการโทรคมนาคมผิดกฎหมายบริเวณแนวชายแดน พบว่า กสทช. จำเป็นต้องกำหนดมาตรการเชิงรุกในการสกัดกั้นไม่ให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ซึ่งเคลื่อนไหวอยู่ตามแนวชายแดน ใช้ทรัพยากรทางเทคโนโลยีของไทยในการหลอกลวงคนไทย
โดยหลังจากหารือร่วมกับ พล.ต.ท.ดร.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. ดูแลงานด้านอาชญากรรมเทคโนโลยี พร้อมอนุกรรมการบูรณาการแนวทางบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีโทรคมนาคม เพื่อเร่งเพิ่มมาตรการปราบปรามซิมผี บัญชีม้าสถานีโทรคมนาคมเถื่อน เสาสัญญาณตามแนวชายแดนผิดเงื่อนไข ตลอดจนกำหนดคุณลักษณะเบอร์ต้องสงสัย และสนับสนุนชุดข้อมูลการใช้ ตำแหน่งที่ใช้ โทรศัพท์ของกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพ แก่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เบื้องต้น ได้หารือเพิ่มมาตรการต่างๆ ที่สำคัญ ภายใต้ พ.ร.ก.มาตรการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 ดังนี้
1.กำหนดเหตุอันควรสงสัยของหมายเลขโทรศัพท์ เช่น เบอร์ที่จดทะเบียนโดยไม่ใช่เจ้าของผู้ใช้งาน เบอร์ที่เปิดโดยบุคคลเดียวเกินกว่า 5 หมายเลข เบอร์ที่ถูกใช้งานอยู่เป็นประจำในพื้นที่ตามแนวตะเข็บชายแดน และ เบอร์ของบุคคลที่มีปริมาณการโทร.ออกมากกว่า 100 ครั้งต่อวัน เป็นต้น เพื่อเป็นแนวทางในการจัดทำระบบ กำหนดให้ผู้ใช้หมายเลขเหล่านี้เข้ามายืนยันตัวตน รวมไปถึงการตรวจสอบข้อมูลการใช้
2.กำหนดชุดข้อมูลที่จำเป็น เช่น ชื่อ-นามสกุล ของผู้จดทะเบียน ข้อมูลการใช้โทรศัพท์ รายละเอียดพื้นที่การใช้งาน (Cell site location) พิกัดเสาสัญญาณโทรศัพท์ (Base station) อื่นๆ และกำหนดระยะเวลาในการจัดส่งข้อมูลจากผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ ให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจำแนกเป็นข้อมูลเร่งด่วนที่ใช้ในการสืบสวนติดตามตัวคนร้ายต้องนำส่งโดยเร็ว และข้อมูลที่ใช้ในการสอบสวนดำเนินคดีเชิงลึก ในลำดับถัดมา
3) กำหนดหมายเลข *179*เลขบัตรประชาชน# แล้วกดโทร.ออก เพื่อให้สถาบันทางการเงินตรวจสอบชื่อผู้จดทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์ว่าตรงกับชื่อเจ้าของบัญชีธนาคารที่ขอใช้บริการอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งหรือไม่ เพื่อขจัดปัญหาซิมผี บัญชีม้า
4) กำหนดมาตรการกรณีผู้ถือครองซิมโทรศัพท์ 6-100 เลขหมาย ต้องลงทะเบียนแสดงตนภายใน 180 วัน นับจากวันที่ประกาศมีผลบังคับใช้ และผู้ถือครองซิมการ์ดตั้งแต่ 101 เลขหมายขึ้นไป ลงทะเบียนแสดงตนภายใน 30 วัน ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเสนอร่างประกาศ รวมทั้งการพัฒนารูปแบบการยืนยันตัวตนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ป้องกันการสวมสิทธิแอบอ้างข้อมูลส่วนบุคคลในการลงทะเบียน
นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังทำงานร่วมกับ กสทช. อย่างใกล้ชิด ในการกำหนดลักษณะเบอร์ต้องสงสัย และรูปแบบชุดข้อมูลที่จำเป็นในการสืบสวนสอบสวน และกำหนดระยะเวลาในการส่งข้อมูลจากผู้ให้บริการให้ตำรวจได้อย่างรวดเร็ว ทันต่อการสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด และระงับยับยั้งความเสียหายที่จะเกิดขึ้น
“ประชาชนควรระมัดระวังในการค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ต่างๆ และ Search Engine โฆษณาทางแพลตฟอร์มออนไลน์ เพราะข้อมูลที่ปรากฏลำดับต้นๆ อาจเกิดจากการจ่ายเงินซื้อโฆษณาของกลุ่มมิจฉาชีพ โดยปลอมเป็นหน่วยงานของรัฐ หรือหน่วยงานต่างๆ หลอกเอาข้อมูลจากผู้หลงเชื่อ รวมทั้งให้ระมัดระวังข้อความ SMS แนบลิงก์ และเพจโฆษณาหลอกลวงในรูปแบบการลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานของรัฐ หรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพราะอาชญากรทางเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการหลอกลวงอยู่ตลอดเวลา”