xs
xsm
sm
md
lg

สคส. ร่วมตำรวจไซเบอร์จับมิจฉาชีพขายข้อมูลส่วนบุคคล 2 ล้านรายชื่อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หน่วยงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.) พร้อมตำรวจไซเบอร์ ขยายผลการจับกุมผู้ขายข้อมูลส่วนบุคคลจากธุรกิจอาหารเสริม ให้กลุ่มธุรกิจสีเทาและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชี้การกระทำผิดฝ่าฝืนกฎหมาย พ.ร.บ.คุ้มครองครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ พ.ศ.2560 แนะผู้เสียหายเอาผิดคนร้ายได้ทั้งทางแพ่ง อาญา และปกครอง

นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า สำนักงานฯ ได้ประสานความร่วมมือกับตำรวจไซเบอร์ ในการจับกุมมิจฉาชีพคนร้ายผู้ขายข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) กว่า 2,000,000 รายชื่อ จากข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายมาจากกลุ่มลูกค้าซื้อขายอาหารเสริมยี่ห้อดัง ตลอดจนลูกค้าธุรกรรมอื่นๆ มาโพสต์ขายบนเฟซบุ๊กให้กลุ่มธุรกิจสีเทา กลุ่มเว็บพนันออนไลน์ (บัญชีม้า) กลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่างๆ อีกทั้งในเบื้องต้นผู้ต้องหายังให้การสารภาพว่าประกอบอาชีพเป็นคนกลางรับซื้อข้อมูลซึ่งมีรายได้จากการกระทำดังกล่าวสูงสุดกว่า 400,000 บาท

“การกระทำความผิดในครั้งนี้ถือเป็นการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล เป็นการฝ่าฝืนมาตรการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (PDPA) ที่อาจเข้าข่ายความผิดฐานล่วงรู้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นแล้วนำไปเปิดเผยแก่ผู้อื่น”

อีกทั้งโพสต์ดังกล่าวเป็นการทำให้เข้าใจว่าสามารถนำข้อมูลส่วนบุคคลมามาซื้อขายได้ หรือเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลนั้นได้ให้ความยินยอมแล้ว ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการนำเข้าข้อมูลที่บิดเบือนหรือเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ที่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 อีกด้วย 
สำหรับความร่วมมือในการจับกุมครั้งนี้ ทาง สคส. ได้ร่วมมือกับกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) ทำให้เราสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

“เมื่อมีการจับกุมผู้กระทำผิดที่ขายข้อมูลส่วนบุคคลได้ ประชาชนผู้เสียหายสามารถฟ้องร้องเอาผิดกับคนร้ายได้ทั้งทางแพ่งเพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายให้ หรือดำเนินคดีอาญา ตามกระบวนการยุติธรรม ในกรณีซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคลข้างต้น ผู้กระทำผิดจะได้รับโทษตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี”

นอกจากนี้ ผู้เสียหายที่ถูกข้อมูลไปซื้อขายโดยมิชอบสามารถร้องเรียนมายัง PDPC ให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายพิจารณาสั่งลงโทษปรับทางปกครองเพิ่มเติม ซึ่งมีโทษปรับสูงสุดอยู่ที่ 3 ล้านบาท แต่เงินค่าปรับทางปกครองเป็นส่วนที่จะต้องนำส่งเข้ากระทรวงการคลัง ไม่ใช่ค่าชดเชยให้แก่ผู้เสียหายโดยตรง


กำลังโหลดความคิดเห็น