xs
xsm
sm
md
lg

ตำรวจไซเบอร์รวบโจรแสบเข้าปิ้ง ลักข้อมูล 15 ล้านรายชื่อ เอี่ยวบัญชีม้า-Romance Scams สูญร่วม 18 ล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตำรวจไซเบอร์รวบรวมหลักฐานเข้าจับกุมผู้ต้องหาหนุ่มที่แอบลักลอบขโมยข้อมูลส่วนบุคคล และนำไปขายต่อให้กับกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ และกลุ่มธุรกิจสีเทา โดยมีข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เสียหายมากกว่า 15 ล้านรายชื่อ ที่ถูกนำไปโพสต์ขายผ่านทางโซเชียลมีเดียเฟสบุ๊ค นอกจากนี้ยังมีการขายโปรแกรมสำเร็จรูปประเภทแทรกข้อความเสมือนเข้าระบบว่าส่งจากองค์กรเพื่อให้เกิดการเข้าใจผิดทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อกดลิงก์ที่แนบไว้ซึ่งจะทำให้สูญเสียทรัพย์สิน นอกจากนี้ยัง มีการใช้โปรแกรมดักจับใบหน้าของบัญชีม้าอีกด้วย รวมทั้งยังมีคดีเกี่ยวกับ Romance Scams หรือลวงรักออนไลน์ โดยสร้างความเสียหายรวมแล้วมูลค่ามากกว่า 18 ล้านบาท


จากการเปิดเผยของเพจสำนักงานตำรวจไซเบอร์เปิดเผยว่า ทางตำรวจได้แจ้งว่า ทางผู้ต้องหาได้ไปเอาข้อมูลมาจากกลุ่มดาร์กเว็บที่เป็นกลุ่มปิด จากนั้นนำมาประกาศขายต่อให้เว็บพนันหรือเว็บอื่น ๆ ที่สนใจ โดยขายเป็นแพ็คเกจ ๆ ไป ซึ่งข้อมูลส่วนมากจะเป็นเบอร์มือถือ โดยทางผู้ต้องหาได้ยอมรับว่าข้อมูลมีการทำซ้ำ บางครั้งมีการสร้างข้อมูลขึ้นมาใหม่เพื่อขาย จึงยังยืนยันตัวเลขของรายชื่อหลุดที่แท้จริงไม่ได้นั่นเอง นอกจากนี้ในการโพสต์ขายรายชื่อดังกล่าว มีการโปรโมท หรือใช้คำโฆษณาชวนเชื่อโดยใช้ความสำคัญของข้อมูล และตัวเลขที่สูงเพื่อดึงดูดในการซื้อขายรายชื่อหลุด ซึ่งในจำนวนดังกล่าวต้องรอตรวจสอบอีกทีว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แต่การกระทำในครั้งนี้ได้เข้าข่ายข้อกฏหมายดังนี้


นอกจากนี้ทางผู้ต้องหายังพยายามพัฒนาโปรแกรมซึ่งไม่ได้ระบุรายละเอียดถึงระดับขั้นของความร้ายแรงในการคุกคามว่าส่งผลอันตรายมากน้อยแค่ไหน โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบเพียงต้นแบบแนวคิดที่กำลังพัฒนา ซึ่งยังไม่สามารถใช้งานได้จริงในขณะนี้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะต้องรอตรวจสอบรายละเอียดเชิงลึกเพิ่มเติมอีก

ขณะที่ในส่วนที่เกี่ยวของกับ Romance Scams หรือลวงรักออนไลน์นั้น ทางตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหาชาวพม่าเพิ่มอีก 2 ราย บริเวณคอนโดย่านสุขุมวิท ซึ่งจากหลักฐานยืนยันว่าเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้ก่อเหตุทั้งหมด โดยได้ยึดของกลางเป็นสมุดบัญชีที่ใช้บริหารเงินและโทรศัพท์ที่ใช้ก่อนเหตุ ที่น่าสนใจคือในตอนนี้มีผู้ต้องหาที่เหลือที่ยังจับไม่ได้เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งก็ต้องรอติดตามกันต่อไป โดยขั้นตอนการหลอกลวงนั้น คือ แอบอ้างตัวว่าเป็นหนุ่มหล่อชาวต่างชาติ สัญชาติยุโรป และหลอกให้เชื่อใจเพื่อให้เหยื่อโอนเงิน


ไทม์ไลน์ทลายอาชญากรไซเบอร์ 2 คดี

โดยคดีที่ 1 เริ่มจาก

นายศุภากรณ์ หรือปลื้ม อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาซึ่งรับหน้าที่เป็นตัวกลางในการลักลอบขายข้อมูลส่วนบุคคลจำนวนกว่า 2 ล้านรายชื่อให้แก่กลุ่มธุรกิจสีเทา และ กลุ่มเว็บพนันออนไลน์ (บัญชีม้า), แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านช่องทาง Facebook ในราคา 7,000 บาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่างแผนแกะรอยและขยายผลเพิ่มเติมในการจับกุมผู้ต้องหาอีกคนนึงได้ (นาย A นามสมมุติ )

โดยหลังจากที่จับกุมนาย A ได้ ก็รับสารภาพว่าตนได้รับซื้อข้อมูลมาจากกลุ่มลูกค้าที่เคยซื้อขายอาหารเสริมนี่ห้อดังมาก่อน ร่วมกับกลุ่มธุรกิจสีเทา ที่มีข้อมูลส่วนบุคคลกว่า 15 ล้านรายชื่อ โดยตนได้มาโพสต์ขายต่อผ่านทางเฟสบุ๊ค ซึ่งสามารถขายได้ในราคากว่า 4 แสนบาท แต่ยังไม่จบเพียงแค่นั้นนาย A ยังได้มีการขายโปรแกรมซอฟต์แวร์แทรกข้อความเข้าสู่ระบบเสมือนองค์กร และ โปรแกรมซอฟต์แวร์ดักจับใบหน้าของบัญชีม้า ซึ่งมีไว้สำหรับกลุ่มบัญชีม้าใช้สแกนหน้าก่อนโอนเงิน หากต้องโอนเงินเกิน 5 หมื่นบาทด้วย

ทั้งนี้หลังจากที่ทางสถาบันการเงิน มีมาตรการเข้มงวดเพิ่มมากขึ้น ตามนโยบายความปลอดภัยทางการเงินของแบงก์ชาติ ด้วยการปรับใช้การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (Biometrics) ก่อนที่จะโอนเงินจำนวนตั้งแต่ระดับหมื่นบาทไปจนถึง 2 แสนบาท ให้แก่บัญชีอื่น ซึ่งคนร้ายเองก็ได้ทำโปรแกรมสำหรับดักจับหน้าบัญชีม้าขึ้นมา เพื่อที่ว่าจะบันทึกหน้าของเจ้าของบัญชีม้าในตอนเปิดบัญชี แล้วต่อไปจะได้ไม่ต้องใช้การสแกนในการทำธุรกรรมครั้งถัดไปอีก


คดีที่ 2 บุกรวบพม่าแสบ หลอกรักออนไลน์

คดี หลอกรักออนไลน์ หรือ (Romance Scams) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบที่อาชญากรไซเบอร์นิยมทำด้วยการสร้างโปรไฟล์สวยหล่อผ่านโปรแกรมแอปพลิเคชั่นแช็ตยอดนิยมต่างๆ ตามด้วยการทักทายพูดคุยสร้างความสนิทสนม โดยอาจใช้ผลประโยชน์ทางเพศเป็นการและเปลี่ยนเพื่อหลอกเหยื่อให้หลงรัก หลังจากนั้นอาจมีการชักชวนลงทุน โดยอ้างว่าให้ผลตอบแทนสูง ในเวลาอันรวดเร็ว ยิ่งลงทุนมาก ยิ่งได้ผลตอบแทนมาก โดยทางมิจฉาชีพจะทำทีเป็นผู้ควบคุมการลงทุน และให้ทางเหยื่อโอนเงินผ่านตน ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมด พบว่าขณะนี้มีผู้เสียหายรวมทั้งสิ้น 7 ราย มูลค่าความเสียหายจำนวน 18,542,500 บาท ซึ่งทางตำรวจไซเบอร์ได้ชี้แจงเบื้องต้นว่าได้จับกุม 2 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวแล้ว ส่วนข้อมูลเพิ่มเติมต้องรอการแถลงผลจับกุมอย่างเป็นทางการของทางเพจตำรวจไซเบอร์ต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น