TikTok ร่วมหนุนผลิตภัณฑ์ OTOP สู่ช่องทางการตลาดออนไลน์ ร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน ส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัล ในโครงการ #ช้อปได้ทุกถิ่น บน TikTok Shop เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัล พร้อมขับเคลื่อนฐานรากเศรษฐกิจของประเทศ ภายในระยะเวลา 3 ปี
นางชนิดา คล้ายพันธ์ Head of Public Policy TikTok Thailand กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องมาจากพันธสัญญาของ TikTok ที่ประกาศสนับสนุนธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กว่า 120,000 ราย ภายใต้การลงทุนกว่า 12.2 ล้านเหรียญสหรัฐ ในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ธุรกิจออนไลน์และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการมอบเงินทุนช่วยเหลือด้านการฝึกอบรมทักษะดิจิทัล และเครดิตโฆษณาสำหรับธุรกิจ
TikTok มุ่งมั่นที่จะสนับสนุนธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อม ธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่ชนบทและชานเมือง รวมถึงผู้ประกอบการ OTOP เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นเศรษฐกิจอัจฉริยะผ่านนโยบาย Smart Economy ด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้เพื่อยกระดับขีดความสามารถในการเพิ่มมูลค่าให้ระบบเศรษฐกิจ
เพื่อสนับสนุนการเติบโตของรายได้ของประเทศ และสร้างโอกาสในการพัฒนาอาชีพ รวมถึงการสนับสนุนระบบนิเวศท้องถิ่น ทั้งในด้านการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม เชื่อเป็นอย่างยิ่งว่าศักยภาพของ TikTok ในฐานะแพลตฟอร์มที่ควบรวมคอนเทนต์และคอมเมิร์ซเข้าไว้ด้วยกัน
“เป้าหมายสูงสุดคือการสร้างระบบนิเวศที่มีความหลากหลาย ช่วยให้ผู้ประกอบการ OTOP มีความมั่นคงทางรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย พร้อมช่วยให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์ OTOP และบริการอย่างง่ายดาย พร้อมส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจ และปลุกจิตวิญญาณผู้ประกอบการธุรกิจในไทย เพื่อส่งเสริมโอกาสให้ธุรกิจท้องถิ่นในประเทศไทย”
นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า กรมการพัฒนาชุมชนได้ดำเนินโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ (OTOP) มาตั้งแต่ปี 2544 ปัจจุบันมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ที่ลงทะเบียนจำนวน 99,732 กลุ่ม/ราย และผลิตภัณฑ์ OTOP จำนวน 225,276 ผลิตภัณฑ์
“พฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม โดยผู้บริโภคหันมาให้ความสนใจสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นช่องทางที่สามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่าย รวดเร็ว และเข้าถึงได้ทุกเวลา”
TikTok จะสานต่อการสนับสนุนธุรกิจรายย่อยและขนาดย่อม ภายใต้โครงการสนับสนุนท้องถิ่น (Support Local Programme) ผ่านความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรกว่า 25 แห่งทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งเสริมศักยภาพ องค์ความรู้ และทักษะดิจิทัลสำหรับการทำธุรกิจให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคยุคดิจิทัลและต่อยอดการเติบโตของธุรกิจได้อย่างยั่งยืน