เซลส์ฟอร์ซ (Salesforce) เผยผู้นำด้านไอทีไทย 92% มั่นใจ Generative AI จะมีบทบาทใหญ่ภายในองค์กร ย้ำองค์กรต้องไม่ลืมใช้ประโยชน์จากระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติ (ออโตเมชัน) ในการขับเคลื่อนเป้าหมายและส่งมอบความสำเร็จให้แก่ธุรกิจ
นายอามิท ซักซีน่า รองประธานประจำภูมิภาคอาเซียน, เซลส์ฟอร์ซ กล่าวถึงผลสำรวจจากรายงาน State of IT ว่าผู้นำด้านไอทีจำนวน 85% ในประเทศไทยกล่าวว่า เอไอมีบทบาทที่ชัดเจนในองค์กร โดยตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะขยายตัวขึ้นอีกเนื่องจาก 92% ของผู้นำด้านไอทีในประเทศไทยเชื่อว่า Generative AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กรของตัวเองในเร็ววันนี้ ทั้งหมดเป็นผลจากในปัจจุบัน ผู้นำด้านไอทีหลายรายได้รับโจทย์ในการตอบรับดีมานด์ความคาดหวังของลูกค้าที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและขับเคลื่อนองค์กรท่ามกลางความผันผวนทางธุรกิจไปด้วย ซึ่งทุกคนต้องสามารถทำงานได้มากขึ้น โดยใช้ทรัพยากรที่น้อยลง พร้อมทั้งจบโปรเจกต์ได้อย่างรวดเร็ว
“ในขณะที่ผู้นำด้านไอทีในประเทศไทยกำลังให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการดำเนินงาน พวกเขาต้องไม่ลืมที่จะใช้ประโยชน์จากระบบเอไอและออโตเมชันในการขับเคลื่อนเป้าหมายและส่งมอบความสำเร็จให้แก่ธุรกิจ”
Salesforce นั้นมีดีกรีเป็นผู้นำด้าน CRM ระดับโลก การเปิดตัวรายงาน State of IT ฉบับใหม่ล่าสุดได้เผยทิศทางเทรนด์เทคโนโลยีหลักจากผู้นำด้านไอทีใน 28 ประเทศ โดยมีผู้ร่วมตอบแบบสอบถามจากประเทศไทยจำนวน 200 ราย เบื้องต้น รายงาน State of IT ได้สะท้อนหลายแนวโน้มที่จะเข้ามามีบทบาทกับองค์กรไอที เช่น การเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการพัฒนาแอปพลิเคชัน ช่องโหว่ที่เพิ่มขึ้นระหว่างดีมานด์และซัปพลายการบริการด้านไอที ไปจนถึงผลกระทบจากระบบออโตเมชันและปัญญาประดิษฐ์ที่กระตุ้นการเปลี่ยนแปลงในองค์กร
แนวโน้มสำคัญที่พบจากรายงาน State of IT ฉบับล่าสุด ประกอบด้วยเรื่อง Generative AI ที่จะเข้ามาปฏิวัติงานด้านไอที ซึ่งแม้ผู้นำด้านไอทีจำนวน 85% ในประเทศไทยจะกล่าวว่าเอไอมีบทบาทที่ชัดเจนในองค์กร และตัวเลขดังกล่าวอาจเพิ่มขึ้นขึ้นอีกเนื่องจาก 92% ของผู้นำด้านไอทีในประเทศไทยเชื่อว่า Generative AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในองค์กรของตัวเองในเร็ววันนี้ แต่ผู้นำเหล่านี้กำลังดำเนินการนำนวัตกรรมดังกล่าวมาใช้ด้วยความระมัดระวัง โดย 64% มีความกังวลด้านการใช้งานอย่างมีจริยธรรมของ Generative AI
ขณะเดียวกัน ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่ดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ศักยภาพงานไอทีลดลง องค์กรไอทีในประเทศไทย 70% กำลังประสบปัญหาในการรองรับความต้องการจากธุรกิจต่างๆ โดยคาดว่าทิศทางสถานการณ์จะแย่ลงเนื่องจากโครงการ 73% จะมีความต้องการเพิ่มขึ้นในช่วง 18 เดือนข้างหน้า ในทางกลับกัน ผู้นำด้านไอทีในประเทศไทย 92% ยอมรับว่ามีการเพิ่มความสำคัญกับประสิทธิภาพการดำเนินงานขึ้นเรื่อยๆ
"ทีมไอทึกำลังมองหาการเพิ่มวิธีพัฒนาแอปพลิเคชัน องค์กรด้านไอทีในประเทศไทยเพียง 45% เท่านั้นที่สามารถรองรับงานพัฒนาแอปพลิเคชันที่ได้รับ ดังนั้นเพื่อเพิ่มการรองรับงานชนิดดังกล่าวองค์กร 85% มีการนำเครื่องมือที่ใช้โค้ดต่ำ (low-code) หรือไม่มีโค้ด (no-code) มาใช้ และ 48% ใช้งานการจัดองค์ประกอบ (Composability)"
การสำรวจยังพบอีกว่าทีมไอทีเลือกใช้วิธีการ "ทั้งหมดที่มี" เพื่อรักษาความปลอดภัยเมื่อมองเห็นภัยคุกคาม ผู้นำด้านไอทีในประเทศไทย 75% เผชิญกับปัญหาการรักษาสมดุลระหว่างวัตถุประสงค์ด้านธุรกิจและความปลอดภัย ซึ่งปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวกระตุ้นการใช้มาตรการป้องกันที่หลากหลาย โดยองค์กรไอทีในประเทศไทย 52% ใช้การเข้ารหัสข้อมูล (Data encryption) และ 44% ใช้การยืนยันตัวตนโดยใช้หลายปัจจัย (Multi-factor authentication) ด้วย