ดีอีเอส พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมคณะกรรมป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากที่มีการประกาศใช้ พ.ร.ก.ในการปราบปราบอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์ สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอีเอสพล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองเลขาธิการ ปปง. พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการประจำสํานักงานผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ นาวาโทศักติพงษ์ สิบหมื่นเปี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายเฝ้าระวังความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ สกมช. นายเขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยี และสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ น.ส.สิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย นายกฤษณ์ ไพโรจน์กีรติกุล ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส บมจ.ธนาคารกรุงไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย น ส.สุชา บุณยเนตร ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงาน ก.ล.ต. น.ส.อรวรี เจริญพร ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการหมายเลขโทรคมนาคม สํานักงาน กสทช. และนายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ รองปลัดกระทรวงดีอีเอส ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ ร่วมประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 2/2566 เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 และพิจารณากระบวนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องในการระงับยับยั้งธุรกรรมที่ต้องสงสัยและช่องทางสำหรับให้บริการประชาชนอย่างสะดวกและรวดเร็ว
ที่ผ่านมาหลัง พ.ร.ก.มีผลบังคับใช้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการ สรุปผลได้ดังนี้
- สถิติคดีออนไลน์ การอายัดบัญชี
ก่อนเฉลี่ย 790 เรื่อง/วัน หลังเฉลี่ย 684 เรื่อง/วัน (คดีลดลงเฉลี่ย 106 เรื่อง/วัน) ก่อน อายัดได้ทัน 6.5% (ขออายัด 1.35 พันล้านบาท อายัดทัน 87 ล้านบาท) หลังอายัดได้ทัน 15.3% (ขออายัด 1.5 พันล้านบาท อายัดทัน 229 ล้านบาท) (อายัดได้ทันเพิ่มขึ้น 8.8%)
อีกทั้งผลการดำเนินงาน 4 ด้าน
1.บัญชีม้าซิมม้าแก๊ง CallCenter-ปิดกั้น SMS/เบอร์โทร.หลอกลวงรวม 188,915 รายการ (กสทช.) ปิดกลุ่ม facebook ซื้อขายบัญชีม้า 19 กลุ่ม (กระทรวงดิจิทัลฯ) อายัดบัญชี 101,904 บัญชี (สตช.) แจ้งรายชื่อบุคคล เจ้าของบัญชีธนาคารที่ใช้กระทำความผิด 993 รายชื่อ (ปปง.) ดำเนินคดีบัญชีม้า ซิมม้า 219 คดี ผู้ต้องหา 216 คน (ตํารวจ)
2.การหลอกลวงลงทุน-ระดมทุนออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน ดำเนินคดี 740 คดี/ผู้ต้องหา 762 ราย (ตํารวจ)
3.การพนันออนไลน์ ดำเนินคดี 662 คดี/ผู้ต้องหา 774 ราย (ตํารวจ) ปิดกั้น 2,334 เว็บไซต์ (กระทรวงดิจิทัลฯ)
4.การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ ดำเนินคดี 331 คดี ผู้ต้องหา 347 ราย (ตํารวจ)
ที่ประชุมได้พิจารณาประเด็นที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ 7 เรื่อง
1.เหตุอันควรสงสัยของสถาบันการเงินโดยได้กำหนดเหตุอันควรสงสัยของธุรกรรมทางการเงินที่อาจเป็นการดำเนินการของมิจฉาชีพ 18 ข้อ
2.เหตุอันควรสงสัยของผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่อาจเป็นการดำเนินการของมิจฉาชีพ 10 ข้อ
3.ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างสถาบันการเงินและผู้ประกอบธุรกิจกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งสมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูล ITMX ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้ธนาคารแห่งประเทศ และสมาคมธนาคารไทยเร่งรัดการจัดทำระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
4.ระบบหรือกระบวนการเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนข้อมูล ระหว่างผู้ให้บริการ เครือข่ายโทรศัพท์ ซึ่งที่ประชุมมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. เร่งพัฒนาระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ เพื่อใช้ในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์
5.วิธีการและช่องทางในการแจ้งเหตุอันควรสงสัย และรับส่งข้อมูลของสถาบันการเงิน กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยตำรวจจะพัฒนาระบบ Banking เชื่อมต่อกับระบบ ITMX ของสถาบันการเงินเพื่อเป็นช่องทางรับแจ้งเหตุอันควรสงสัย และให้ ปปง. และ DSI พิจารณาช่องทางในการรับแจ้งเหตุอันควรสงสัยและการรับส่งข้อมูลกับสถาบันการเงินด้วย
6.วิธีการและช่องทางในการแจ้งเหตุอันควรสงสัย และรับส่งข้อมูลของผู้ให้บริการโทรศัพท์ กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยระบบ banking ของตํารวจจะเชื่อมต่อกับระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลของ กสทช. ด้วยเพื่อรับแจ้งเหตุอันควรสงสัย
7.วิธีการและช่องทางของสถาบันการเงินในการรับแจ้งจากผู้เสียหาย โดยหน่วยงานได้ร่วมกันดำเนินงานตาม พ.ร.ก.
8.มาตรการอื่นๆ ได้แก่ การควบคุมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อไม่ให้เป็นช่องทางในการแลกเปลี่ยน และฟอกเงิน การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการรัฐร่วมเอกชน แนวทางการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้าและซิมม้า แนวทางในการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างเสริมภูมิคุ้มกันป้องกันภัยอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนให้แก่ประชาชน มาตรการในการป้องกันปราบปรามคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีประเภท แอปพลิเคชันดูดเงิน
"คณะกรรมการได้เห็นชอบแนวทางตามที่เสนอและขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อแก้ไขปัญหาลดความเดือดร้อนให้ประชาชนโดยเร็วต่อไป และขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขานรับและตั้งใจร่วมกันในการดำเนินงานแก้ไขปัญหาลดความเสียหายและอาชญากรรมที่เกิดขึ้น บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน จับกุมผู้กระทำความผิด และดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า และซิมม้ามาลงโทษ ซึ่งจะสามารถบรรเทาการสูญเสียทรัพย์ได้แน่นอน"