xs
xsm
sm
md
lg

NTT ควง Cisco ปั้น IoT-as-a-Service รับตลาด IoT โต 4.8 แสนล้านดอลล์ปี 2570

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอ็นทีที (NTT) ควงซิสโก้ (Cisco) ปั้นบริการโซลูชัน IoT-as-a-Service เตรียมพร้อมรับโอกาสจากตลาด IoT ทั่วโลกที่คาดว่าจะเติบโต 19 เปอร์เซ็นต์ในปี 2566 จนมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 483 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2570

เดวิน หยาง (Devin Yaung) รองประธานอาวุโส หน่วยธุรกิจกลุ่มบริการและสินค้า IoT บริษัท NTT กล่าวว่า NTT กำลังเร่งขยายธุรกิจ IoT เพื่อนำเสนอกลุ่มบริการที่ทำซ้ำได้และปรับแต่งได้ตามความต้องการ ดังนั้น NTT จึงมีจุดยืนที่โดดเด่นด้านความสามารถในการตอบสนองความต้องการโซลูชันหลายประเภท

“เรากำลังเพิ่มความสามารถด้าน IoT ของ NTT อีกเท่าตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า” หยาง กล่าว “เรากำลังมุ่งดึงชุดความรู้และทักษะที่สะสมไว้ออกมา และนำพลังของ NTT มาใช้อย่างเต็มที่ เพื่อยกระดับการให้บริการลูกค้า และตอบความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการติดตั้งหรือดัดแปลงองค์กรด้วยการเชื่อมต่อและทัศนวิสัยที่จำเป็น ซึ่งจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจได้ในที่สุด”

เอ็นทีที หรือ NTT Ltd. เป็นบริษัทผู้ให้บริการและติดตั้งโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีชั้นนำ ขณะที่ซิสโก้ (Cisco) เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีระดับโลก ทั้งคู่ประกาศความร่วมมือพัฒนาและปรับใช้โซลูชันร่วมกัน เพื่อสนับสนุนองค์กรขนาดใหญ่ที่มีเป้าหมายด้านความยั่งยืน โดยระบุว่า การใช้ประโยชน์จากกลุ่มบริการ Edge as a Service ของ NTT และความสามารถด้าน IoT ของ Cisco จะทำให้โซลูชันที่พัฒนาโดยทั้ง 2 บริษัทมีความพร้อมนำเสนอข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์ ทั้งการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้นยิ่งขึ้น การตัดสินใจที่พัฒนาขึ้น และมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง ผ่านการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ การติดตามทรัพย์สิน และความสามารถในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน

ทั้งนี้ 2 บริษัทจะนำเสนอโซลูชันที่ผสมผสานความเชี่ยวชาญด้าน Managed Services การวิเคราะห์เรียลไทม์ ความสามารถด้านระบบอัตโนมัติที่ Edge และการจัดการสภาพแวดล้อมด้าน IT ที่ซับซ้อนของ NTT เข้ากับความสามารถด้าน IoT ซึ่งรวมไปถึงระบบ Low Power Wide Area Networking (LoRaWAN) ของ Cisco

ปัจจุบัน NTT ระบุว่ากำลังมุ่งขยายธุรกิจที่ปรึกษาและบริการด้าน IoT ของตัวเองอย่างจริงจัง โดยรวบรวมผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องมากกว่า 1,000 ราย และกรณีการใช้งานกว่า 100 ยูสเคส เช่น การใช้งานรถยนต์ที่เชื่อมต่อกับระบบออนไลน์ (connected cars) การจัดการกองฟลีท หรือยานพาหนะเพื่อการขนส่ง (fleet management) การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (predictive maintenance) เมืองอัจฉริยะ (smart cities) ระบบจำลองในรูปแบบดิจิทัลทวิน (digital twin) โรงงานอัจฉริยะ (connected factories) สาธารณูปโภค และอื่นๆ โดย NTT ได้ฝึกอบรมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านการขาย Cisco แล้วมากกว่า 500 คน เพื่อเร่งการนำผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ออกสู่ตลาดและพัฒนาความสามารถที่หลากหลายของทั้ง 2 บริษัท


ซามูเอล ปาสกิเยร์ (Samuel Pasquier) รองประธานฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ เครือข่าย IoT อุตสาหกรรมของ Cisco กล่าวว่า บริษัทมีความตื่นเต้นที่ได้ทำงานร่วมกันเพื่อให้ลูกค้าได้ใช้บริการในรูปแบบ IOT-as-a-Service เพื่อให้องค์กรของกลุ่มลูกค้าในหลายอุตสาหกรรมทั่วโลกได้รับประโยชน์ทางธุรกิจอย่างรวดเร็ว โดยทั้ง NTT และ Cisco จะมุ่งพัฒนาโซลูชันและข้อเสนอสู่ตลาดโดยมุ่งเน้นที่อุตสาหกรรมหลากหลาย หนึ่งในนั้นคือการพลิกโฉมการจัดการน้ำด้วยโซลูชันอัจฉริยะ

นอกจากภาคการผลิต การขนส่ง และเฮลธ์แคร์ ซึ่งล้วนมีความต้องการใช้งานโซลูชัน Edge Computing และ IoT มากขึ้น ทั้ง 2 บริษัทได้ดำเนินการปรับใช้บริการขั้นสูงนี้กับองค์กรจำนวนหนึ่ง หนึ่งในนั้นคือ Compagnie Intercommunale Liégeoise des Eaux (CILE) บริษัทการประปาผู้จำหน่ายน้ำสาธารณะที่ตั้งอยู่ในเบลเยียม ซึ่ง NTT ได้ร่วมมือกับ Cisco ติดตั้งเซ็นเซอร์ LoRaWAN นับพันตัวทั่วโครงสร้างพื้นฐานของ CILE เพื่อให้สามารถสังเกตการณ์การทำงานของระบบได้จากระยะไกล เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพน้ำ การใช้น้ำ การสูบจ่าย และการบำรุงรักษาระบบ

โซลูชันนี้ยังรวมถึงเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น เครือข่ายการสูบจ่ายน้ำอัจฉริยะ ระบบอ่านค่าระยะไกลผ่านมิเตอร์อัจฉริยะ ระบบสมาร์ทกริดสำหรับการจัดการจากระยะไกล อุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่อออนไลน์ และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ส่งมอบในรูปแบบบริการที่มีการจัดการ หรือ managed service โดยมีการจัดเตรียมเครือข่ายโครงสร้างเพื่อสนับสนุนยูสเคสกรณีการใช้งานเพื่อความยั่งยืนอื่นๆ เช่น การจัดการขยะ การจัดการที่จอดรถ การจัดการคุณภาพน้ำ และการควบคุมไฟถนน

วิลเลียม เดอ แองเจลิส (William de Angelis) ประธานฝ่ายเทคโนโลยีและข้อมูล (CIO และ CDO) ของ CILE กล่าวว่า CILE ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญสำหรับ 24 เมืองในเบลเยียม ซึ่งหมายความว่าประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความน่าเชื่อถือเป็นกุญแจสำคัญ ซึ่งด้วยการสนับสนุนของ NTT และ Cisco บริษัทจึงมีข้อมูลเชิงลึกแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับโครงสร้างเครือข่ายการจ่ายน้ำ รวมถึงการตรวจจับจุดน้ำรั่วไหลที่รวดเร็วขึ้น

"ช่วยให้เราตอบสนองต่อปัญหาได้ทันที และขยายเครือข่ายไปยังยูสเคสกรณีการใช้งานเพื่อความยั่งยืนอื่น”

ในภาพรวม NTT ชี้ว่าการขยายธุรกิจที่ปรึกษาและบริการ IOT เป็นไปเพื่อให้ความสำคัญกับลูกค้าและพันธมิตร โดย NTT ได้เปิดหน่วยธุรกิจเฉพาะสำหรับบริการ IoT ขึ้นพร้อมรวบรวมผู้เชี่ยวชาญเชิงลึกจากทั่วโลก ทั้งทีมที่ปรึกษา วิศวกร สถาปนิกองค์กร และผู้เชี่ยวชาญด้านความยั่งยืนกว่า 1,000 คน จะร่วมสร้าง ปรับใช้ และจัดการยูสเคสกรณีการใช้งานมากกว่า 100 ยูสเคสในด้านต่างๆ เช่น รถยนต์ที่เชื่อมต่อออนไลน์ (connected car) การจัดการยานพาหนะหรือกองฟลีท (fleet management) การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (predictive maintenance) เมืองอัจฉริยะ (smart cities) การสร้างแบบจำลองเสมือนจริงบนโลกดิจิทัล (digital twins) โรงงานอัจฉริยะ และอื่นๆ

ทั้งนี้ ตลาด IoT ทั่วโลกคาดว่าจะเติบโต 19 เปอร์เซ็นต์ในปี 2566 โดยมีมูลค่าตลาดไม่ต่ำกว่า 483 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2570


กำลังโหลดความคิดเห็น