ไทยคมเผยผลประกอบการไตรมาส 1/2566 กำไรสุทธิ 90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 77% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา จากรายได้การขาย และการให้บริการที่เพิ่มขึ้น ลูกค้าใช้งานดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 อยู่ที่ระดับ 55% ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะเปิดให้บริการโครงข่ายสื่อสารผ่านดาวเทียมจากกลุ่มดาวเทียมวงโคจรต่ำเชิงพาณิชย์
เบื้องต้น ไทยคมมีกำไรจากการดำเนินงาน 131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งขาดทุน จำนวน 27 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีการปรับตัวลดลงของผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่เกิดขึ้นจริง และการปรับตัวลดลงของค่าใช้จ่ายในการขายและบริการ โดยเมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2565 (YoY) กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 48.3% จาก 88 ล้านบาทเนื่องจากรายได้จากการขายและการให้บริการปรับตัวเพิ่มขึ้น
ส่วนรายได้จากการขายและการให้บริการในไตรมาส 1/2566 มีจำนวน 735 ล้านบาท ใกล้เคียงกับรายได้ 738 ล้านบาทในไตรมาส 4/2565 (QoQ) อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 1/2565 (YoY) รายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 6.5% จาก 691 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการดาวเทียมแบบทั่วไป รวมทั้งมีการรับรู้รายได้จากค่าบริหารจัดการสถานีภาคพื้นดิน (Gateway) จาก Globalstar และค่าที่ปรึกษาอื่นๆ
ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 ดาวเทียมที่บริษัทให้บริการภายใต้ใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ได้แก่ ดาวเทียมไทยคม 7 และไทยคม 8 โดยอัตราการใช้บริการของลูกค้าของทั้ง 2 ดวง ณ สิ้นไตรมาส 1/2566 มีอัตราการใช้บริการของลูกค้าเมื่อเทียบกับความสามารถในการให้บริการของดาวเทียมอยู่ที่ระดับ 55% เพิ่มขึ้นจาก 53% ณ สิ้นปี 2565
ขณะที่บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ มหาชน (แอลทีซี) และบริษัท ทีพลัสดิจิทัล จำกัด (ทีพลัส) มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบรวมทั้งสิ้น 2.44 ล้านราย โดยมีระดับจำนวนผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจาก 2.32 ล้านราย ณ สิ้นปี 2565
ทั้งนี้ ทางไทยคมได้ร่วมกับ Globalstar พัฒนาและบริหารจัดการสถานีภาคพื้นดินในประเทศไทย เพื่อเป็นโครงข่ายในการให้บริการสื่อสารผ่านดาวเทียมในภูมิภาค จากกลุ่มดาวเทียมวงโคจรระดับต่ำ หรือ LEO (Low Earth Orbit Satellite) โดยคาดว่าภายในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 ก่อนเริ่มให้บริการเชิงพาณิชย์สำหรับระบบติดตามผ่านดาวเทียมเพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2566 ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทได้มีมติอนุมัติการลงทุนโครงการดาวเทียมชุดข่ายงานดาวเทียมวงโคจร 119.5 องศาตะวันออก เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 15,203 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการสรรหาผู้ผลิตดาวเทียมที่เหมาะสม ควบคู่ไปกับการดำเนินการขาย presale capacity บนดาวเทียมดวงใหม่