นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมาที่ประชุมมีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามคาด ซึ่งศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) มองว่าในช่วงครึ่งปีหลัง Fed จะเริ่มคงอัตราดอกเบี้ย จังหวะนี้ บลจ.ทิสโก้มองว่าเหมาะอย่างยิ่งที่จะเข้าลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีที่จะได้รับประโยชน์จากต้นทุนการเงินที่ดีขึ้น ประกอบกับปัจจุบันดัชนี NASDAQ มีอัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) อยู่ในระดับ 24 เท่า ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย 5 ปี และหุ้นกลุ่มนี้เป็นหุ้นที่จัดอยู่ในกลุ่มเมกะเทรนด์ของโลกที่จะแทรกซึมอยู่ในชีวิตประจำวันของมนุษย์ และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของภาคธุรกิจ ทำให้รายได้และกำไรของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีมีโอกาสเติบโตสูงตามความต้องการใช้งานของผู้บริโภค
บลจ.ทิสโก้จึงเปิดเสนอขาย กองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส แนสแดค อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุนทั่วไป (TNASDAQ-A) และกองทุนเปิด ทิสโก้ ยูเอส แนสแดค อิควิตี้ ชนิดหน่วยลงทุนเพื่อการออม (TNASDAQ-SSF) ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง) เน้นลงทุนใน Invesco QQQ Trust, Series 1 ที่มีวัตถุประสงค์ในการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Nasdaq-100 ซึ่งเป็นดัชนีที่ประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่สถาบันการเงินที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงที่สุด 100 อันดับแรกที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แนสแดค (Nasdaq) สหรัฐอเมริกา เปิดเสนอขายหน่วยลงทุนครั้งแรก (IPO) 9-17 พฤษภาคม 2566 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 1,000 บาท
นายสาห์รัชกล่าวอีกว่า การลงทุนในดัชนี Nasdaq-100 นอกจากจะได้ลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนำ เช่น Microsoft, Apple, Amazon, Google และ NVIDIA แล้ว ยังได้กระจายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่นๆ เช่น หุ้นกลุ่มสื่อสาร (Communication) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer Cyclical) เช่น Costco Wholesale Corporation ธุรกิจห้างค้าส่งในรูปแบบโกดัง Starbucks ธุรกิจร้านกาแฟชั้นนำของโลก และ Pepsi ผู้ผลิตเครื่องดื่มอัดลม เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่เป็นธุรกิจแบรนด์ชั้นนำระดับโลก ที่ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร แต่ธุรกิจเหล่านี้ก็ยังคงมีรายได้ที่เติบโตตามความต้องการใช้ของผู้บริโภค
นอกจากนี้ ความโดดเด่นของดัชนี Nasdaq คือค่อนข้างมีความผันผวนในระยะสั้น และมีโอกาสเติบโตสูงในระยะยาวตามรายได้และบริษัทจดทะเบียนที่อยู่ในดัชนี ดังนั้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเก็งกำไรและมีกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้น พร้อมทั้งยังเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในระยะยาวด้วย