เทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่ทำให้สมาร์ทโฟนสามารถเก็บพลังไฟไว้ในเครื่องนั้นถือเป็นหนึ่งในสีสันที่ได้รับความสนใจล้นหลามจากงานโมบายเวิลด์คองเกรส 2023 (Mobile World Congress 2023) ล่าสุด "เรียลมี" (realme) เคลมตำแหน่งแชมป์ผู้สามารถพัฒนาสมาร์ทโฟนที่ชาร์จได้ไวที่สุดในโลก โดยทำสถิติชาร์จ 240W ซึ่งเป็นกำลังไฟที่สูงที่สุดเท่าที่พอร์ต USB-C ในปัจจุบันทำได้
โทรศัพท์มือถือแชมป์ชาร์จเร็วแห่งปี 2023 คือ realme GT3 ซึ่งถูกประกาศเปิดตัวในฐานะสมาร์ทโฟนแฟล็กชิปรุ่นล่าสุดของ realme แบรนด์ที่การันตีตัวเองว่าเป็นสมาร์ทโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก
ที่ผ่านมา realme ย้ำว่าสมาร์ทโฟนตระกูล realme GT Series ถือกำเนิดขึ้นเพื่อนำเสนอนวัตกรรมล้ำสมัยของ realme สู่ผู้บริโภคในราคาที่จับต้องได้ ซึ่งหากไม่นับรุ่นล่าสุดที่สามารถทำลายสถิติด้วยประสิทธิภาพการชาร์จไฟที่ไวที่สุดในโลก รุ่นอื่นของตระกูล GT คือ GT Master Series และ GT2 Pro Series
***5 ปีแจ้งเกิดแบรนด์ realme
นาย Chase Xu รองประธานบริษัท realme และประธานกรรมการบริหาร realme Global Marketing กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของแบรนด์ว่า realme ยึดมั่นในจิตวิญญาณอันกร้าวแกร่ง Dare to Leap สานต่อพันธกิจในการนำเสนอเทคโนโลยีและงานดีไซน์สุดล้ำแก่หนุ่มสาวยุคใหม่อย่างต่อเนื่อง และเมื่อก้าวสู่ปีที่ 5 realme ได้ก้าวหน้าครั้งสำคัญสู่การเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์แรกที่สามารถทลายขีดจำกัดทางเทคโนโลยี
"ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราในการยกระดับแบรนด์ทางการตลาด ผ่านการสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีและการเชื่อมโยงสู่ผู้บริโภครุ่นใหม่ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น”
realme อธิบายว่า 240W คือมาตรฐานการชาร์จขั้นสูงสุดของโลก เพราะเป็นประสิทธิภาพการชาร์จที่รวดเร็วที่สุดอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เชื่อว่าเทคโนโลยีนี้จะยังล้ำหน้าไปอีกหลายปี เพราะเป็นระดับกำลังไฟสูงสุดที่สาย USB-C จะสามารถรองรับได้
ในแง่ของประสบการณ์ผู้ใช้งาน การชาร์จเร็ว 240W คือคำตอบสุดท้ายที่จะขจัดความกังวลในการใช้งานสมาร์ทโฟนให้หมดไป เพราะสามารถชาร์จไฟจนใช้งานได้ภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที โดยสามารถชาร์จ realme GT3 ซึ่งใช้แบตเตอรี่ความจุ 4600mAh จาก 0-20% ในเวลาเพียง 80 วินาที และใช้เวลาเพียง 9 นาที 30 วินาที ในการชาร์จเต็ม 100%
ในฐานะสมาร์ทโฟนแบรนด์แรกที่นำเสนอเทคโนโลยีการชาร์จ 240W แก่ผู้บริโภคทั่วไปได้ realme แสดงความเชื่อมั่นทั้งในด้านความล้ำหน้าของนวัตกรรม ความปลอดภัยในการชาร์จ รวมถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่และการรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่น เนื่องจากบริษัทได้พัฒนา 3 เทคโนโลยีการชาร์จครั้งแรกในอุตสาหกรรม
เทคโนโลยีแรกคือโครงสร้าง เพราะ realme GT3 ใช้ชิปเซ็ตการชาร์จไฟระดับสูงสุด 3 ตัวเพื่อให้ชาร์จไฟได้พร้อมกัน จึงเพิ่มประสิทธิภาพการส่งกำลังไฟในการชาร์จได้สูงถึง 98.5%
เทคโนโลยีที่ 2 คือการมาพร้อมสายชาร์จ 12A ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ ซึ่งรองรับกระแสไฟได้สูงสุดในอุตสาหกรรมเพื่อการประจุไฟที่เร็วเต็มสปีด และเทคโนโลยีที่ 3 คือเทคโนโลยีการชาร์จแบบ Dual GaN ที่ realme ติดตั้งชิปเซ็ต GaN แบบเต็มวงจรทั้งในตัวสมาร์ทโฟนและหัวชาร์จ ส่งผลให้หัวชาร์จ 240W มีขนาดเล็กกะทัดรัดกว่าหัวชาร์จ 150W อย่างชัดเจน
"แม้จะให้กำลังไฟสูงกว่าถึง 60% ก็ตาม ความปลอดภัยในการชาร์จไฟระดับสูงสุด" realme ระบุในแถลงการณ์
หนึ่งในความท้าทายที่ยากที่สุดของการพัฒนาระบบชาร์จกำลังไฟสูงคือการควบคุมความร้อน realme GT3 จึงติดตั้งระบบระบายความร้อนแบบ 6580mm2-large VC Liquid Cooling System ซึ่งคลุมส่วนแบตเตอรี่ถึง 61.5% จึงช่วยในการกระจายความร้อนได้อย่างดีเยี่ยม และเพื่อรับประกันถึงความปลอดภัยระดับสูงสุด realme GT3 ยังมีดีไซน์ป้องกันไฟไหม้แบบ PS3 การติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน 13 จุด และการเคลือบชั้นปกป้องมากถึง 60 เลเยอร์ ทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐาน TÜV Rheinland ว่าระบบการชาร์จเร็วของ realme GT3 มีความปลอดภัย ซึ่งถือเป็นผลิตภัณฑ์ชาร์จไฟตั้งแต่ 200W ขึ้นไปรุ่นแรกที่ผ่านการรับรองมาตรฐานขั้นสูงนี้
***แบต (ไม่) เสื่อมไว?
ในมิติของอายุแบตเตอรี่ แถลงการณ์ระบุว่า realme GT3 ผ่านการทดสอบในห้องแล็บของบริษัทว่าสามารถรักษาประสิทธิภาพแบตเตอรี่ได้ถึง 80% แม้จะผ่านการชาร์จ 240W ไปแล้วถึง 1,600 รอบ ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟนทั่วไป ที่สามารถรักษาประสิทธิภาพแบตเตอรี่ที่ 80% ได้ที่การชาร์จไฟเพียง 800 รอบเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังมีการติดตั้งระบบการชาร์จไฟอัจฉริยะซึ่งคอยตรวจสถานะการใช้งานและสลับสถานะการชาร์จไฟให้เป็น Travel Mode, Sleep Mode หรือ In-Car Mode ตามความเหมาะสม ซึ่งไม่เพียงชาญฉลาดในการปรับประจุไฟ แต่ยังช่วยถนอมอายุแบตเตอรี่และหลีกเลี่ยงการชาร์จไฟเกินได้ด้วย
นอกจากเทคโนโลยีการชาร์จไฟ 240W ที่เป็นสถิติโลก realme GT3 ยังยกระดับมาตรฐานการออกแบบสมาร์ทโฟนไปอีกขั้น โดยออกแบบให้มีช่องกระจกที่บริเวณด้านข้างของโมดุลกล้องเพื่อโชว์การตกแต่งแผงชิปเซ็ตที่สวยงาม รวมถึงชิปเซ็ตของฟีเจอร์ NFC และระบบไฟ Pulse Interface System รูปแบบใหม่ซึ่งตกแต่งด้วยดวงไฟ C-shaped RGB เพื่อสร้างเอฟเฟกต์สุดตระการตาในระหว่างการใช้งาน ขณะเดียวกัน เครื่องยังมีเอฟเฟกต์แสงสีหลากรูปแบบขึ้นอยู่กับสถานะการใช้งานของมือถือ ตัวอย่างเช่น เมื่อชาร์จไฟสมาร์ทโฟนถึง 20% จะแสดงไฟกะพริบสีแดงแบบ Breathing Light Effect เมื่อชาร์จได้ 21%-100% ก็จะเปลี่ยนเป็นไฟกะพริบสีม่วง และชาร์จเต็มก็จะติดเป็นไฟสีม่วงตลอดเวลา โดยเมื่อมีสายเรียกเข้าจะมีไฟกะพริบวาบในจังหวะเร็ว หรือเมื่อมีการแจ้งเตือน ระบบก็จะส่องแสงไฟสีขาว ไปจนถึงในฟีเจอร์การถ่ายภาพ หากเราตั้งค่านับถอยหลัง 10 วินาทีก่อนลั่นชัตเตอร์ ไฟจะส่องเป็นแสงสีฟ้า ขาว และส้ม
realme ย้ำว่าระบบไฟ Pulse Interface System ยังสามารถปรับแต่งได้ตามใจชอบ ช่วยเพิ่มความสนุกสนานและสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้งานกับสมาร์ทโฟนได้มากขึ้น
ในภาพรวม realme วางตัวเองเป็นแบรนด์ที่พยายามนำเสนอประสิทธิภาพการชาร์จเร็วแก่ผู้บริโภคในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ โดย realme ประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดระบบชาร์จเร็วสูงถึง 85% ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ราคาต่ำกว่า 250 ดอลลาร์ จุดนี้ realme ระบุว่าตั้งใจที่จะทำให้การชาร์จเร็วเป็นสิ่งที่คนทั่วไปเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น โดยการประกาศระหว่างการเปิดตัวทั่วโลกครั้งนี้ว่า 90% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์ realme ที่วางจำหน่ายในตลาดสากล จะมีระบบชาร์จเร็ว 33W หรือสูงกว่านั้น
สำหรับ realme GT3 จะมีวางจำหน่ายทั้งรุ่น 8+128GB, 12+256GB, 16+256GB, 16+512GB และรุ่นพิเศษ 16+1TB โดยวางจำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 649 ดอลลาร์ หรือราว 22,429 บาท