โนเกีย (Nokia) ประกาศเป้าพาธุรกิจสู่โลกที่เครือข่ายมาบรรจบกับคลาวด์ที่เวที #MWC23 ลุยปรับโฉมกลยุทธ์องค์กรเพื่อต่อยอดสู่การเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว มั่นใจบุกเบิกความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีที่สร้างศักยภาพแบบทวีคูณให้เครือข่ายได้จริง สานฝันตอบโจทย์ความต้องการในอนาคตของเมตาเวิร์ส ด้านโลโก้ใหม่เป็นการส่งสัญญาณให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี ดับเครื่องชนตลาด B2B ขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัลทั่วทั้งแวดวงอุตสาหกรรม
เป็กก้า ลุนด์มาร์ก ประธานและซีอีโอของโนเกีย กล่าวแสดงความมั่นใจถึงศักยภาพของดิจิทัลในการเปลี่ยนแปลงธุรกิจ อุตสาหกรรม และสังคม ที่มาพร้อมโอกาสอย่างมีนัยสำคัญในการเพิ่มผลผลิต ความยั่งยืน และการเข้าถึงเทคโนโลยีเครือข่ายชั้นนำที่ต้องการความแม่นยำสูงในตลาดของโนเกียกำลังเป็นที่ต้องการอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะจากลูกค้า หรือคู่ค้าในทุกแวดวงอุตสาหกรรม ดังนั้น บริษัทมองเห็นอนาคตที่ซึ่งเครือข่ายไปได้ไกลกว่าการเชื่อมโยงผู้คนและสรรพสิ่ง เป็นเครือข่ายที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ เป็นอิสระ และสามารถใช้ได้จริง และยังเป็นเครือข่ายที่สามารถรู้สึก คิด และกระทำได้จริง พร้อมไปกับการเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนสู่ความเป็นดิจิทัลให้มากขึ้น
“วันนี้เราได้มาแบ่งปันความเคลื่อนไหวขององค์กรและกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยีที่เน้นความสำคัญด้านการปลดปล่อยศักยภาพแบบทวีคูณของเครือข่าย ซึ่งเป็นการกรุยทางสู่อนาคตที่เครือข่ายจะมาบรรจบกับระบบคลาวด์เพื่อเป็นการส่งสัญญาณว่าเรากำลังปรับเปลี่ยนแบรนด์ใหม่ซึ่งจะสะท้อนตัวตนของเราในปัจจุบันว่าโนเกียคือนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีสำหรับ B2B ที่ไม่ใช่โนเกียที่โลกเคยรู้จักมาก่อน”
คำกล่าวนี้ถือเป็นการแสดงวิสัยทัศน์ครั้งล่าสุดของโนเกีย ที่ประกาศความคืบหน้าขององค์กรและกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี รวมถึงเผยโฉมภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ระยะยาวของโนเกีย ณ งานโมบาย เวิลด์ คองเกรส บาร์เซโลนา ประจำปี 2023 (MWC Barcelona 2023)
โนเกียอธิบายว่า หลายบริษัททั่วทั้งอุตสาหกรรมกำลังมองหาลู่ทางในการปรับตัวสู่ความเป็นดิจิทัลเพื่อพัฒนาทั้งด้านประสิทธิภาพ ความสามารถในการยืดหยุ่น และผลิตภาพบนแนวทางของความยั่งยืน ซึ่งเครือข่ายถือเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านนี้ และโนเกียมีจุดยืนที่ชัดเจนที่มาพร้อมผลงานที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญในระดับแถวหน้าในบรรดาเทคโนโลยีเครือข่ายทั้งแบบคงที่ แบบเคลื่อนที่ และระบบคลาวด์
***3 เฟสพาโนเกียโตยั่งยืน
โนเกียประกาศว่าจะต่อยอดกลยุทธ์ 3 เฟสที่จะนำพาองค์กรสู่การเติบโตทางธุรกิจที่ยั่งยืนและสร้างผลกำไรได้ โดยการจะให้ช่วงการเริ่มต้นปรับเปลี่ยนดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ได้ โนเกียได้เร่งเดินหน้าในการวางรากฐานสำหรับระยะการปรับเปลี่ยนในฐานะของผู้นำด้านเทคโนโลยีที่ไร้ที่ติ และยังคงมุ่งมั่นในการขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนเป้าหมายทางการเงินในระยะยาวของโนเกียซึ่งมีการปรับใหม่ตามผลประกอบการในไตรมาสที่ 4 ประจำปี 2565
"กลยุทธ์การปรับภาพลักษณ์แบรนด์ของโนเกียที่จะมาช่วยขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จและเป็นรากฐานสำคัญในการเปลี่ยนแปลงนี้ ประกอบด้วย 6 แกนหลัก แกนแรกคือการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดผู้ให้บริการที่ขับเคลื่อนด้วยความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี"
แกนที่ 2 คือการขยายสัดส่วนของลูกค้าองค์กรในอัตราส่วนของลูกค้าทั้งหมด แกนที่ 3 คือรักษานโยบายจัดการพอร์ตธุรกิจอย่างแข็งขันเพื่อสร้างความมั่นคงในการเป็นผู้นำในทุกเซกเมนต์ธุรกิจที่โนเกียตัดสินใจจะลงแข่งขัน
แกนที่ 4 คือการคว้าโอกาสจากเซ็กเตอร์อื่นที่นอกเหนือจากอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อสร้างรายได้จาก IP ของโนเกีย และเดินหน้าลงทุนในด้านการวิจัยและพัฒนาเพื่อเทคโนโลยีของโนเกียอย่างต่อเนื่อง
แกนที่ 5 คือการดำเนินกิจการตามโมเดลธุรกิจใหม่ เช่น การให้บริการ as-a-Service ตลอดจน และ 6 คือการพัฒนาแนวทาง ESG ให้เป็นข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน และกลายเป็นตัวเลือกผู้ให้บริการที่ได้รับความไว้วางใจในแวดวงอุตสาหกรรม
"สิ่งที่ช่วยให้โนเกียบรรลุเป้าหมายดังกล่าวประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ พัฒนาผู้มีศักยภาพต่ออุตสาหกรรมในอนาคต ลงทุนในการวิจัยระยะยาวโดยเฉพาะอย่างยิ่งในโดเมนหลัก เช่น 6G ปรับการดำเนินกิจการสู่ความเป็นดิจิทัลเพื่อพัฒนาในด้านความคล่องตัวและผลิตภาพ รวมถึงการปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ในครั้งนี้"
สำหรับกลยุทธ์ด้านเทคโนโลยี โนเกียย้ำว่าเครือข่ายจำเป็นต้องมีวิวัฒนาการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของยุคเมตาเวิร์ส โดยมองว่าขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนไปพึ่งพาการเชื่อมต่อมากขึ้น เครือข่ายจะกลายมาเป็นโครงสร้างที่สำคัญให้ทุกเรื่องที่เป็นดิจิทัลที่ซึ่งศักยภาพของเครือข่ายและความสามารถในการใช้ได้จริงนั้นจะมีน้ำหนักและความสำคัญเท่ากัน
"คุณภาพของระบบเครือข่ายแบบดั้งเดิมจะต้องรวมกันได้กับความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับขนาดของระบบคลาวด์" โนเกียระบุ "เครือข่ายซึ่งรู้สึก คิด และกระทำเหล่านี้มีศักยภาพที่จะนำพาพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงของระบบเครือข่ายไปสู่ทุกภาคอุตสาหกรรมได้"
โนเกียเชื่อว่าตัวเองอยู่ในจุดที่ดีที่จะเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ผ่านพอร์ตผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุด รวมถึงการวิจัยที่พลิกวงการอุตสาหกรรมระดับแถวหน้าจาก Nokia Bell Labs โนเกียจึงได้เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการใหม่เพื่อแสดงให้เห็นและส่งเสริมความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีของบริษัทที่งาน MWC
และเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กรที่เปลี่ยนไป โนเกียจึงได้ปรับภาพลักษณ์แบรนด์ใหม่ในครั้งนี้เพื่อสะท้อนถึงตัวตนของโนเกียในปัจจุบัน นั่นคือ การเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีสำหรับ B2B ที่สร้างเสริมศักยภาพด้านดิจิทัลในทุกแวดวงอุตสาหกรรมได้จริง แบรนด์รูปแบบใหม่นี้จะช่วยยืนยันให้เห็นถึงคุณค่าที่นำมาสู่ความเชี่ยวชาญด้านเครือข่าย ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี การบุกเบิกด้านนวัตกรรมและความร่วมมือ
"โลโก้ใหม่ของโนเกียได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้แสดงถึงพลัง ความไม่หยุดยั้งในการพัฒนา และความทันสมัย ที่แสดงถึงคุณค่าและเป้าหมายของแบรนด์เป็นสำคัญ และยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือซึ่งโนเกียเชื่อว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อการสร้างศักยภาพแบบทวีคูณให้เครือข่ายให้เป็นจริงได้ คือ การปลดล็อกผลตอบแทนในด้านความยั่งยืน ผลิตภาพ และการเข้าถึง" โนเกียทิ้งท้าย