ทรู ดิจิทัล เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี AI เพื่อเข้าไปช่วยลดภาระงานเบื้องต้น ทำให้บุคลากรในแต่ละวงการสามารถดึงทักษะมาใช้งานได้อย่างเต็มที่ ประเดิมใน 3 กลุ่มหลักคือสุขภาพ ค้าปลีก และการเกษตร หวังเป็นช่องทางสร้างแหล่งรายได้ใหม่ (New S-Curved) ให้แก่ธุรกิจ
ณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู ดิจิทัล กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงแนวทางในการนำ AI เข้าไปใช้งานในภาคธุรกิจที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า และลดปริมาณงานที่ซ้ำซ้อนลง ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยยกระดับอุตสาหกรรมดิจิทัลในประเทศไทยให้เติบโตมากขึ้น
เบื้องต้น ทรู ดิจิทัล วางแผนที่จะนำ AI เข้าไปใช้งานใน 3 กลุ่มหลักคือ สุขภาพ (Healthcare) ตามด้วยค้าปลีก (Retail) และการเกษตร ซึ่งที่ผ่านมาได้เข้าไปทำงานร่วมกับพันธมิตรในแต่ละภาคธุรกิจในการเตรียมความพร้อมเพื่อนำ AI เข้าไปใช้งาน
เริ่มต้นจากธุรกิจสุขภาพอย่างระบบ Telemedicine โดยที่ผ่านมานำเทคโนโลยีเข้าไปช่วยในกรณีที่แพทย์ต้องการข้อมูลเอกซเรย์ คนไข้สามารถส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ตที่ปัจจุบันรองรับการส่งไฟล์ความเร็วสูงขึ้น ทำให้แพทย์สามารถดูข้อมูลและวินิจฉัยได้ทันที
ขั้นถัดไปคือ เริ่มเห็นแพทย์นำ AI มาช่วยในการวินิจฉัยโรคเบื้องต้น จากฟิล์มเอกซเรย์ หรือผลตรวจต่างๆ รวมถึงการพัฒนา AI Chatbot สำหรับวิเคราะห์อาการเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกเข้าถึงแพทย์เฉพาะทางตามอาการที่เป็นได้
นอกจากนี้ ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา AI Customer Service ภายใต้เทคโนโลยี True Voice ที่เดิมกลุ่มทรูมีความเชี่ยวชาญในการนำมาให้บริการลูกค้าในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมอยู่แล้ว เมื่อนำมาใช้งานในด้านการแพทย์จะต้องฝึกให้ AI เข้าใจภาษาทางการแพทย์เพิ่มเติมเข้าไป
“ในจุดนี้ AI จะเข้ามาช่วยออฟโหลดงานนัดหมาย หรือสอบถามข้อมูลทั่วไป เพื่อให้พยาบาลที่เดิมต้องมาคอยตอบคำถามมีเวลาไปใช้ทักษะระดับสูงในการดูแลผู้ป่วยมากขึ้น”
ที่ผ่านมา บริการเกี่ยวกับ Telemedicine ของทรู ดิจิทัล มีผู้ที่สนใจเข้ามาใช้งานแล้วกว่า 4 แสนราย ในจำนวนนี้กว่า 10% ได้พูดคุยกับแพทย์เพื่อเริ่มกระบวนการรักษา และมีราว 4,000 รายที่จบขั้นตอนถึงกระบวนการสั่งยาไปส่งที่บ้าน
“สิ่งที่ทำให้บริการ Telemedicine เกิดขึ้นในประเทศไทยได้รวดเร็วขึ้นคือการที่ทั้งโรงพยาบาล ผู้ให้บริการ ทำงานร่วมกับพันธมิตรก่อให้เกิดอีโคซิสเต็ม อย่างการรักษาที่สามารถเบิกประกันสุขภาพได้ทันที ทำให้ผู้ที่มีประกันหันมาใช้งานกันมากขึ้น และเชื่อว่าในปีนี้มีโอกาสที่จะเติบโตกว่า 2 เท่าตัว”
ขณะเดียวกัน ทรู ดิจิทัลได้เริ่มให้บริการต้นแบบจุดให้บริการทางการแพทย์ True Health ที่เป็นเหมื่อนคลินิกขนาดเล็ก ทำให้คนไข้สามารถแวะไปเจาะเลือด เมื่อผลมาปรึกษากับหมอทางระบบ Telemedicine หลังจากนั้นสามารถสั่งยามาส่งที่บ้าน หรือถ้าต้องทำการรักษาต่อเนื่องก็สามารถนัดหมายได้ทันที
“ความคาดหวังคืออยากให้มีจุดบริการในลักษณะของ True Health เกิดขึ้นในทุกๆ หัวเมือง เพราะจะช่วยลดปริมาณการเข้าไปโรงพยาบาลของคนไข้ได้จำนวนมาก ในโรคที่ต้องทำการรักษาประจำอย่างเบาหวาน ที่ต้องหาหมอทุก 6 เดือน เพื่อเข้าไปรับยา และเป็นการรักษาที่ต่อเนื่องในระยะยาว”
ในอนาคตจะเริ่มเห็นการนำ AI ของทรู ดิจิทัล เข้าไปใช้งานในภาคของการค้าปลีก และเกษตร ที่ในเครือซีพีมีธุรกิจที่สามารถเข้าไปให้บริการได้อยู่แล้ว ซึ่งบริการเหล่านี้จะกลายเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของทรู ดิจิทัล นอกเหนือจากธุรกิจคอนเทนต์ ความบันเทิง และบริการ IoT ที่ให้บริการในปัจจุบัน
