xs
xsm
sm
md
lg

เปิดมุมมองจากผู้ชนะการแข่งขัน ‘Cybersecurity Hackathon by SECUREiNFO’

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



จากจุดเริ่มต้นในการเป็นโครงการที่เข้ามาช่วยยกระดับความสามารถด้านเทคโนโลยี โดยเฉพาะทักษะด้านการป้องกันภัยไซเบอร์ให้แก่นักศึกษา ทำให้ ‘Cybersecurity Hackathon by SECUREiNFO’ กลายเป็นโครงการที่เปิดโลกกว้างให้แก่นักศึกษาที่จะกลายเป็นบุคลากรดิจิทัลในอนาคตของประเทศไทย

เนื่องจากปัจจุบันภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้สร้างมูลค่าความเสียหายที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะในต่างประเทศ แต่รวมถึงในประเทศไทยที่ทั้งองค์กรธุรกิจ หรือแม้แต่หน่วยงานสาธารณสุขต่างพบเจอการโจมตีจากภัยไซเบอร์ ทั้งในแง่ของการเจาะระบบเพื่อเข้ารหัสข้อมูลเรียกค่าไถ่ จนถึงการแฝงตัวเข้ามาเก็บข้อมูลเพื่อนำไปใช้โจมตีในอนาคต จึงทำให้ทุกภาคส่วนหันมาให้ความสำคัญกับไซเบอร์ซิเคียวริตีมากยิ่งขึ้น

ด้วยรูปแบบการแข่งขันที่แตกต่างจากงานอบรมทางด้านไซเบอร์ซิเคียวริตีทั่วไป ทำให้นักศึกษาที่เข้าร่วมได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการแข่งขันที่ไม่ได้เน้นในแง่ของการเจาะระบบเพื่อหาช่องว่าง แต่เป็นการเรียนรู้วิธีการป้องกันช่องโหว่ ซึ่งมักจะเป็นอีกมุมที่นักศึกษาส่วนใหญ่ไม่ค่อยให้ความสนใจ


น.ส.โชติกา กำลูนเวสารัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเคียวอินโฟ จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายหลักของโครงการนี้ คือ การพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะทางด้าน Cyber Security ที่ปัจจุบันมีความสำคัญมากขึ้น จากภัยคุกคามรูปแบบใหม่ๆ ที่มีการพัฒนา และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

“การคัดเลือกน้องๆ นักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้ จากผู้สมัครกว่า 130 คน เหลือ 45 คนในการแข่งขันรอบสุดท้าย จะเน้นไปที่กลุ่มนักศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญสอดคล้องกับแนวคิดของกลุ่มสามารถที่ต้องการเสริมประสบการณ์ให้แก่นักศึกษาเพื่อนำไปต่อยอด และประยุกต์ใช้ในอนาคต”

ทั้งนี้ เวที "Cybersecurity Hackathon by SECUREiNFO" เกิดขึ้นจากความร่วมมือของทางซีเคียวอินโฟ และ ThriveDX ซึ่งเป็นผู้พัฒนาหลักสูตรการอบรมด้านความมั่นคงจากอิสราเอลที่มีประสบการณ์จัดฝึกอบรมทั่วโลกมาแล้วกว่า 15 ปี โดยเฉพาะการจัดกิจกรรม Hackathon ในบรรยากาศของการเรียนรู้ และแข่งขันระดับนานาชาติ


สำหรับการแข่งขันที่เกิดขึ้นจะเป็นลักษณะของการเก็บคะแนนจากการอบรมในช่วงกิจกรรม ในลักษณะของ "Training Score" ที่มีสัดส่วนราว 30% และนำไปรวมกับคะแนนจากการแข่งขัน "Final Challenge" ที่เป็นการตอบคำถาม หรือทำตามคำสั่งที่คณะกรรมการกำหนดอีก 70%

โดยผู้ที่ชนะการแข่งขัน 3 อันดับแรก คือ นายณัฐชนน มงคลวิลาศ จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ชั้นปีที่ 1 คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ น.ส เพ็ญพิชชา สิทธิ์แสงชัย จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ และรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ นายสุดฤทธิ์ วงษ์สุวรรณ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ชั้นปีที่ 2 สาขารัฐประศาสนศาสตร์การตำรวจ


นายณัฐชนน กล่าวถึงโครงการนี้ว่า เข้ามาช่วยเสริมทักษะทางด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่เข้าใจง่าย และยังช่วยเพิ่มทักษะทางด้านไซเบอร์ซิเคียวริตีที่ครอบคลุมไม่ใช่แค่เฉพาะการโจมตีระบบ แต่รวมถึงทักษะของการตรวจจับ และป้องกัน ซึ่งสามารถต่อยอดสู่การเรียน และการทำงานในอนาคต

“จุดที่เพิ่มขึ้นมาอีกอย่างคือได้ประสบการณ์ในการเขียนรีพอร์ต ซึ่งทำให้เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ซึ่งตามปกติแล้วประสบการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นในเวลาทำงาน หรือเข้าสู่วิชาชีพแล้วเท่านั้น”


ขณะที่ น.ส เพ็ญพิชชา ที่เข้าแข่งขันในโครงการนี้หลังจากที่เข้าชมรมไซเบอร์ซิเคียวริตีของมหาวิทยาลัย ให้ข้อมูลเสริมว่า ประสบการณ์ที่ได้จากการแข่งขันในครั้งนี้ แตกต่างจากการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัย ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆ มีข้อมูลที่สามารถนำไปใช้งานในการเรียนได้ รวมถึงทำให้เกิดความสนใจทางด้านไซเบอร์ซิเคียวริตีเพิ่มขึ้นด้วย

พร้อมกับแนะนำให้เพื่อนๆ หรือนักศึกษาที่สนใจเข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับ Cybersecurity Hackathon ว่า ให้ลองศึกษาข้อมูลเบื้องต้นจากอินเทอร์เน็ตเพื่อค้นหาว่าชอบในสิ่งนี้หรือไม่ เพราะเมื่อเข้าร่วมโครงการแล้วจะได้ข้อมูลที่ลึกขึ้นเป็นอย่างมาก


ส่วนนายสุดฤทธิ์ ให้อีกมุมมองที่น่าสนใจว่า โครงการนี้ทำให้ได้โอกาสในการพบเจอกลุ่มเพื่อนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ก่อให้เกิดเป็นคอมมูนิตี และช่วยเปิดกว้างในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลทางด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี ที่หาไม่ได้จากการสอนในมหาวิทยาลัยต่างๆ

“ที่ประทับใจจากโครงการนี้คือการเปิดมุมมองในการทำงานด้านไซเบอร์ซิเคียวริตีที่กว้างขึ้น จากเดิมหลายคนจะสนใจเรื่องการแฮก หรือเจาะระบบเป็นหลัก แต่ภายในการแข่งขันนี้นำเสนอผ่านรูปแบบของการตรวจจับ และป้องกันมากกว่า ทำให้สามารถนำมาปรับใช้กับการเรียนทางด้านการสืบสวนสอบสวนในปัจจุบัน”

โดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่าการเข้าแข่งขันในโครงการนี้ นอกจากเข้ามาช่วยเสริมทักษะให้แก่นักศึกษาที่จะกลายเป็นบุคลากรดิจิทัลในอนาคตแล้ว ยังช่วยเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการที่สามารถนำไปต่อยอดใช้งานกับการทำงานในอนาคตได้อีกด้วย


กำลังโหลดความคิดเห็น