“ทีเคซี” ลุยธุรกิจปั้นบุคลากร ‘ไอที-ไซเบอร์ซิเคียวริตี’ หลัง “คอมพ์เทีย (CompTIA)” องค์กรอุตสาหกรรมไอทีระดับสากลตั้ง ”ทีเคซี” เป็นตัวแทนในไทย โดยเฉพาะภาคธนาคาร โรงพยาบาลมีความเสี่ยงจากการโจมตีสูง
นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่นเซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือทีเคซี กล่าวว่า การขยายธุรกิจจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเข้าไปสู่ด้านสมาร์ทไอที และไซเบอร์ซิเคียวริตี เนื่องจากตลาดนี้มีความสำคัญในการต่อยอดพัฒนาธุรกิจให้เกิดความมั่นคงปลอดภัย
“ทีเคซีมีแผนชัดเจนในการทำธุรกิจด้านสมาร์ทเลิร์นนิ่ง สมาร์ทฟาร์มมิ่ง สมาร์ทฮอสพิเทล สมาร์ทแอร์พอร์ต สมาร์ทโกเวิร์นเมนต์ สมาร์ทแพลตฟอร์ม และไซเบอร์ซิเคียวริตี ทำให้ต้องเร่งพัฒนาบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญเข้ามารองรับ”
ล่าสุด ทีเคซีได้ปรับเป้าหมายในการให้บริการไปยังกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของประเทศ เช่น การเงินการธนาคาร การไฟฟ้า เพื่อยกระดับบุคลากรให้มีทักษะความรู้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
“การร่วมมือกับคอมพ์เทีย ซึ่งเป็นองค์กรระดับสากลที่มีหลักสูตรการอบรมที่ได้รับการยอมรับและมีมาตรฐานได้รับการรับรองจาก ISO และ ANSI จะทำช่วยให้อุตสาหกรรมไอที และไซเบอร์ซิเคียวริตีของไทยยกระดับสู่มาตรฐานสากลที่สูงยิ่งขึ้น”
ปีเตอร์ แชลค์วิชค์ รองประธานสมาคมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ (คอมพ์เทีย) ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า ตลาดไอทีเป็นตลาดที่ใหญ่มาก ทั้งในภาคบริการ ภาคซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์ รวมแล้วกว่า 75 ล้านคนทั่วโลก มีการลงทุนมากถึง 4.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับประเทศไทย คอมพ์เทียเข้ามาให้บริการราว 10 ปี มีหุ้นส่วนทางธุรกิจ หรือพาร์ตเนอร์ 17 แห่ง ทั้งนี้ คอมพ์เทียมอบหมายให้ทีเคซีดูแลด้านการตลาด การส่งเสริมการขายในประเทศไทย โดยจะลงนามความร่วมมือระหว่างคอมพ์เทียกับทีเคซีในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะเริ่มดำเนินการในต้นเดือนธันวาคม
ทั้งนี้ CompTIA เป็นองค์กรกลางในอุตสาหกรรมไอที และไซเบอร์ซิเคียวริตีที่มีลูกค้าทั่วโลก ทั้งในภาครัฐบาล ธุรกิจการเงินการธนาคาร สถาบันการศึกษาและภาคเอกชน โดยมองเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรด้านไอทีเพื่อรองรับกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว
“ที่ผ่านมา CompTIA ได้ออกใบรับรองมาตรฐานให้บุคลากรด้านไอทีทั่วโลกกว่า 3 ล้านคน จากผู้เข้าอบรมกับคอมพ์เทียกว่า 6 ล้านคน และการตั้งให้ทีเคซีเป็นตัวแทนสนับสนุนการขาย การขยายตลาดของบริการ และผลิตภัณฑ์คอมพ์เทียจะช่วยเพิ่มจำนวนบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ในประเทศไทย”