"พล.อ.ประวิตร" สั่ง "ชัยวุฒิ" วางแนวทางมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงทางออนไลน์ 6 มาตรการ เตรียมเสนอ ครม.ยกระดับการแจ้งเตือนผ่านแอปเป๋าตัง
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า วันนี้ (7 พ.ย.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงดีอีเอสจัดประชุมการแก้ไขปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ โดยมีผู้เข้าร่วมประชุม ได้แก่ ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถปลัดกระทรวงดีอีเอส พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) นายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ร ต.อ.ปิยะ รักสกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ นายวรุณ กาญจนภู รองเลขาธิการสมาคมธนาคารไทย และผู้แทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งผู้แทนกระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้วางแนวทางมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงทางออนไลน์ 6 มาตรการ ได้แก่
1.การเร่งรัดปราบปรามการฉ้อโกงออนไลน์ 5 ด้านดังนี้ (1) แก๊ง Call Center (2) บัญชีม้า (3) การหลอกลวงลงทุน-ระดมทุนออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน (4) การพนันออนไลน์ และ (5) การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์
2.การป้องกันธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมาย
3.การป้องกันการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย
4.การเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดวงจรอาชญากรรม
5.การยกระดับการเตือนภัยออนไลน์และสร้างการรับรู้ต่อประชาชน
6.การเร่งรัดพัฒนากฎหมาย และขยายผล
"ต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเป็นกุญแจสำคัญในเรื่องนี้ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาเรื่องการแจ้งเตือนเพื่อให้ประชาชนก่อนการโอนเงินของระบบ E-Banking/Mobile Banking การป้องกันการโอนเงินผ่าน Remote Application ที่คนร้ายใช้ และสำนักงาน กสทช. เร่งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับหน่วยงานหรือผู้ใช้งาน Sim โทรศัพท์ที่ผิดกฎหมาย (เช่น SIM ไม่ลงทะเบียน หรือลงทะเบียนไม่ถูกต้อง) สำหรับกระทรวงดิจิทัลฯ จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งผลักดันการออกพระราชกำหนดเกี่ยวกับบัญชีม้าและการจัดการธุรกรรมที่ต้องสงสัยหรือเข้าข่ายผิดกฎหมาย เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมก่อนกระทบในวงกว้าง"
นอกจากนี้ ดีอีเอสจะยกระดับการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ผ่านทางช่องทางแอปเป๋าตัง และช่องทางต่างๆ โดยกระทรวงดีอีเอสจะเร่งนำมาตรการเร่งด่วนแก้ไขการฉ้อโกงออนไลน์ ตามที่ได้หารือเสนอคณะรัฐมนตรีภายในสัปดาห์หน้า
สำหรับผลของการปฎิบัติงานและสถิติการดำเนินคดีทางอาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญ ในปี 2565 ถึงเดือน ต.ค.นี้ ประกอบด้วย 1.การปิดกั้นข้อความ SMS/โทร.หลอกลวง จำนวน 76,165 หมายเลข และดำเนินคดีแก๊ง Callcenter ในต่างประเทศ จำนวน 6 ครั้ง มีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 166 ราย 2.การอายัดบัญชีม้าจำนวน 40,198 บัญชี และปิดกลุ่มโซเชียลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 6 กลุ่ม
3.การดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงลงทุน- ระดมทุนออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน จำนวน 653 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 747 ราย 4.การปราบพนันออนไลน์ โดยดำเนินคดีต่อเว็บไซต์ที่กระทำความผิดจำนวน 312 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 403 ราย และปิดกั้นเว็บไซต์พนันจำนวน 1,507 เว็บไซต์ 5.การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ ดำเนินคดีจำนวน 469 คดี และมีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 490 ราย