xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กป้อม"สั่งเข้มปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขีดเส้น 10 วันให้ดีอีเอสสรุปมาตรการเร่งด่วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ (แก๊งคอลเซ็นเตอร์) โดยมีนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) และหน่วยงานเกี่ยวข้อง อาทิ ศ.(พิเศษ) วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พล.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมประชุม

พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ที่ประชุมได้รับทราบผลการปฏิบัติงานและสถิติการดำเนินคดีทางอาชญากรรมออนไลน์ที่สำคัญในปี 2565 ซึ่งมีความก้าวหน้าชัดเจน ดังนี้

การปิดกั้นข้อความ SMS โทรหลอกลวง จำนวน 76,165 หมายเลข และดำเนินคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในต่างประเทศ จำนวน 6 ครั้ง มีการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 166 ราย

การอายัดบัญชีม้าจำนวน 40,198 บัญชี และปิดกลุ่มโซเชียลมีเดียซื้อขายบัญชีม้า จำนวน 6 กลุ่ม

การดำเนินคดีเกี่ยวกับการหลอกลวงลงทุน-ระดมทุน ออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน จำนวน 653 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 747 ราย

การปราบพนันออนไลน์ โดยดำเนินคดีกับเว็บไซต์ที่กระทำความผิดจำนวน 312 คดี มีผู้ต้องหาจำนวน 403 ราย และปิดกั้นเว็บไซต์พนันจำนวน 1,507 เว็บไซต์

การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์ ดำเนินคดีจำนวน 469 คดี และมีการจับกุมผู้ต้องหาจำนวน 490 ราย

ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้วางแนวทางมาตรการเร่งด่วนแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงทางออนไลน์ 6 มาตรการ ได้แก่

1. การเร่งรัดปราบปรามการฉ้อโกงออนไลน์ 5 ด้าน ได้แก่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ บัญชีม้ การหลอกลวงลงทุน-ระดมทุนออนไลน์และหลอกลวงทางการเงิน การพนันออนไลน์ และ การหลอกลวงซื้อขายสินค้าบริการออนไลน์

2. การป้องกันธุรกรรมทางการเงินผิดกฎหมาย

3. การป้องกันการใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่ผิดกฎหมาย

4. การเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดวงจรอาชญากรรม

5. การยกระดับการเตือนภัยออนไลน์และสร้างการรับรู้ต่อประชาชน และการเร่งรัดพัฒนากฎหมาย และขยายผล

พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่า รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะปกป้องประชาชนจากมิจฉาชีพเพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้น รวมถึงการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างการรับรู้และเกิดความเชื่อมั่นให้ประชาชน และขอให้กระทรวงดิจิทัลฯ เร่งสรุปมาตรการเร่งด่วนแก้ไขการฉ้อโกงออนไลน์ เสนอคณะรัฐมนตรีภายใน 10 วัน

ขณะที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย พิจารณาเรื่องการแจ้งเตือนประชาชนก่อนการโอนเงินของระบบ e-Banking Mobile Banking การป้องกันการโอนเงินผ่าน Remote Application ที่คนร้ายใช้ และ สำนักงาน กสทช. เร่งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดกับหน่วยงานหรือผู้ใช้งานซิมโทรศัพท์ที่ผิดกฎหมาย เช่น ซิมไม่ลงทะเบียน หรือลงทะเบียนไม่ถูกต้อง

ทั้งนี้ กระทรวงดีอีเอส จะร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งผลักดันการออกพระราชกำหนดเกี่ยวกับบัญชีม้าและการจัดการธุรกรรมที่ต้องสงสัยหรือเข้าข่ายผิดกฎหมาย เพื่อตัดวงจรอาชญากรรมก่อนกระทบในวงกว้าง และจะยกระดับการแจ้งเตือนภัยออนไลน์ผ่านทางช่องทางแอปเป๋าตังค์และช่องทางต่างๆ รวมทั้งเร่งนำมาตรการเร่งด่วนแก้ไขการฉ้อโกงออนไลน์ ตามที่ได้หารือกันในวันนี้ เสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป